กรุงเทพฯ 26 ธ.ค.-“มนัญญา ไทยเศรษฐ์”เตรียมเสนอเก็บภาษีจากการจำหน่ายสารเคมีการเกษตร
โดยเฉพาะการส่งออก นำรายได้มาวิจัยและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เร่งผลักดันร่างประกาศกระทรวงเกษตรฯ
ควบคุมโรงงานผลิตและบรรจุสารเคมีให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายรับทราบ
น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า จะเร่งหารือกรมศุลกากรให้พิจารณาเก็บภาษีจากผู้ประกอบการจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตร
ที่ผ่านมาสารเคมีต่าง ๆ ที่นำเข้ามา ได้รับการยกเว้นภาษีโดยระบุว่า
เพื่อช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยซึ่งไม่มีการเก็บภาษีส่งออกเช่นกัน
การเก็บภาษีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์จะนำรายได้จากการเก็บภาษีมาใช้วิจัยพัฒนาภาคเกษตร
โดยเฉพาะส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ ในลักษณะเดียวกับการเก็บภาษีสุราและบุหรี่
แล้วนำมาใช้ส่งเสริมการดูและรักษาสุขภาพประชาชน
ส่วนประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มอบหมายให้กรมวิชาการยกร่างเพื่อใช้ควบคุมโรงงานผลิตและแบ่งบรรจุสารเคมีทางการเกษตร
โดยนำมาตรฐาน ISO
มากำกับเพื่อไม่ให้มีการลักลอบแบ่งบรรจุ ซึ่งที่ผ่านมาพบผู้ประกอบการผสมสารเคมีที่สำคัญสำหรับกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชเจือจางหรือผสมสารอื่นที่ไม่เป็นไปตามทะเบียน
รวมทั้งกำหนดให้โรงงานต้องมีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพและความเป็นพิษของสารเคมีได้ตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้หากยกร่างประกาศกระทรวงเกษตรฯ เสร็จแล้วจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเพื่อทราบ
จากนั้นจะนำเสนอนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามเพื่อบังคับใช้ต่อไป
น.ส. มนัญญากล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรรายงานการดำเนินการสารเคมี
3 ชนิดซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีวัตถุอันตรายทางเกษตร
โดยต้องรายงานทุก 15 วันเพื่อจะได้ทราบว่า พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสซึ่งเลื่อนการแบนในวันที่
1 มิถุนายน 2563 สตอกลดลงไปแค่ไหน ส่งออกหรือจำหน่ายแก่เกษตรกรไปจำนวนเท่าไร สำหรับ
2 สารนี้ไม่อนุญาตให้นำเข้าแล้ว ส่วนไกลโฟเซตซึ่งมีมติไม่แบน
จากนี้ไปต้องลดปริมาณการนำเข้าลงให้สอดคล้องกับมาตรการจำกัดการใช้ –สำนักข่าวไทย