หลายฝ่ายเสียดาย “เพลินวาน” หัวหิน ประกาศปิดตัวปีหน้า

ประจวบคีรีขันธ์ 24 ธ.ค.- หลายฝ่ายเสียดายแหล่งท่องเที่ยวจุดเช็คอินหัวหิน “เพลินวาน” จะปิดตัวในปีหน้า ผู้ค้าเช่าที่ยอมรับนักท่องเที่ยวน้อยลงมาก ยอดขายลด ด้านอดีต ผอ.ททท.ประจวบฯ ชี้สาเหตุมีหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจในและนอกประเทศก็มีผลอยู่บ้าง แต่ผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ให้ทันยุคดิจิตอล

กรณีผู้บริหาร “เพลินวาน” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการร้านค้าเพื่อยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ก่อนปิดกิจการสิ้นเดือนมกราคม 2563 โดยจะยกเว้นค่าเช่าให้ผู้เช่าตลอดทั้งเดือนมกราคมนั้น สำหรับบรรยากาศวันนี้ (24 ธ.ค.) ยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมถ่ายรูป เลือกซื้อสินค้าและรับประทานอาหาร แต่ไม่หนาตา 

จากการสอบถามนายกฤษณพิทักษ์ อู่อรุณ ชาว จ.ระนอง มาเที่ยวที่เพลินวาน กล่าวว่า เพิ่งทราบจากผู้ค้าว่าเพลินวานจะปิดตัว รู้สึกใจหายและเสียดาย เพราะตนและครอบครัวมาเที่ยวหัวหินบ่อย และแวะเพลินวานทุกครั้ง เพราะชอบบรรยากาศแบบย้อนยุค โดยเฉพาะลูกโป่งวิทยาศาสตร์ที่ปัจจุบันหาซื้อยาก ใจจริงไม่อยากให้เลิกไป แต่เข้าใจในเรื่องสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้

นางสุปราณี กันยา อายุ 62 ปี เจ้าของร้านดีดิ โมจิ สอดไส้ไอศกรีม กล่าวว่า ขายของอยู่ที่เพลินวานมากว่า 2 ปีแล้ว ปีที่ผ่านมาคนมาเที่ยวน้อยมาก ยอดขายลดลง แต่ก่อนขายได้วันละ 2,000-3,000 บาท ตอนนี้บางวันขายได้ไม่ถึง 1,000 บาท หากเพลินวานปิดตัวก็จะต้องหาที่สถานที่อื่นขายของ

เช่นเดียวกับนางโซเฟีย โพธิวงศ์ อายุ 62 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าที่ระลึก กล่าวว่า ระยะหลังเริ่มซบเซา อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจ และเพลินวานไม่ได้ปรับปรุงอะไรให้แปลกใหม่ นักท่องเที่ยวก็มาถ่ายรูปความสวยงามด้านนอก ส่วนด้านในเหมือนเดิม เวลานี้นักท่องเที่ยวจีนและไทยก็น้อย หากเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนขายของกันได้วันละเป็นหมื่น ตอนนี้ยังไม่ได้หาลู่ทางไปขายที่ใหม่ และคงต้องลดราคาสินค้าไปจนกว่าเพลินวานจะปิดตัว เพราะอย่างน้อยช่วงปีใหม่คงมีนักท่องเที่ยวมาบ้าง

ด้านนางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน- ชะอำ กล่าวว่า เพลินวานเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเอกชนแห่งแรก ๆ ของเมืองหัวหิน เมื่อรู้ข่าวรู้สึกตกใจ เสียดาย แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้หลายฝ่ายมาช่วยกันหาทางออก

ส่วนนางอรสา อาวุธคม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำงานดูแลในพื้นที่ อ.หัวหิน มากว่า 4 ปี พบว่าการท่องเที่ยวภาพรวมชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว รวมถึงเพลินวานด้วยต้องมีการใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์ในยุคโซเชียล การปรับปรุงภาพลักษณ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวสัมผัสกับความแปลกใหม่จากการใช้สถานที่เชคอิน ซึ่งที่ผ่านมารูปแบบยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน และยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่จะต้องปรับกระบวนการกันใหม่.-สำนักข่าวไทย