สุพรรณบุรี 24 ธ.ค. – ตำรวจสุพรรณบุรีตามจับได้แล้ว หญิงวัย 52 ปี ใช้แบงก์กาโม่ 500 ซื้อข้าวผัดกะเพราไข่ดาวยายพิศ หน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ ผู้ก่อเหตุยกมือกราบขอโทษยายทั้งน้ำตา สอบประวัติพบยังมีคดีอื่นตามหมายจับในคดีลักทรัพย์
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว น.ส.เดือน (นามสมมุติ ) อายุ 52 ปี หลังใช้แบงก์กาโม่ 500 หลอกซื้อข้าวผัดกะเพราไข่ดาวยายพิศ วัย 70 ปี บริเวณหน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ อ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยายพิศทอนเงินให้ไป 400 บาท ก่อนที่สาวคนนี้จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยสืบทราบเบาะแสทั้งการตรวจสอบกล้อง CCTV พยานแวดล้อม และรูปพรรณสัณฐานผู้ก่อเหตุ จนทราบแน่ชัด จึงสืบสวนจับกุม ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือทำจริง เนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีเงินเติมน้ำมันรถ จึงใช้แบงก์กาโม่มาหลอกซื้อข้าวยาย และเอาเงินทอนไป 400 บาท
ผู้ก่อเหตุบอกว่า วันเกิดเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนหางานทำ จนรถน้ำมันหมด หิวข้าว ไม่รู้จะทำยังไง เลยหยิบแบงก์กาโม่ติดมือมาด้วยเอาไปซื้อข้าวผัดกะเพราไข่ดาว 2 กล่อง กล่องละ 15 บาท เป็นเงิน 30 บาท และซื้อลูกชิ้น 70 บาท รวมเป็นเงิน 100 บาท ยื่นแบงก์กาโม่ 500 บาท ให้ยาย ยายก็ทอนมาให้ 400 บาท ตนจึงรีบขี่รถหนีไป ส่วนข้าวกับลูกชิ้นที่รับมาวันนั้นก็ไม่ได้กิน แต่นำไปทิ้ง เพราะเกรงกลัวความผิด
พอเห็นข่าวก็ตกใจ หลบไปอยู่บ้านเพื่อนจนถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุมในที่สุด พอมาเจอยาย ยายบอกว่าไม่แจ้งความ เนื่องจากสงสาร ตนรู้สึกผิดมาก ได้เข้าไปกราบขอโทษยายทั้งน้ำตา เพราะสำนึกผิด และคิดว่าจะเป็นบทเรียนสำคัญที่ไม่ทำอีกแล้ว เพราะตั้งแต่เป็นข่าว ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เครียดมาก รู้สึกผิด ขอให้สังคมให้อภัย และคิดว่าจะไม่ทำอีก หากมีงานทำ จะนำเงินมาคืนยาย
ด้านนางพิศ ฤทธิเดช วัย 70 ปี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะเห็นแล้วก็สงสาร ไม่อยากให้ถูกจับดำเนินคดี เพราะเขาก็มาไหว้ขอโทษยายแล้ว ร้องไห้ด้วย ก็ได้แต่บอกไปว่าอย่าทำอีก เพราะคนทำมาหากินสุจริตอย่างเรา กว่าจะค้าขายได้ 500 บาท ไม่ใช่เรื่องง่าย พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียใจ แต่ก็อยากให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี ไม่ไปก่อเหตุซ้ำอีก ขอบคุณตำรวจที่ไม่ทอดทิ้ง ช่วยติดตามโดยตลอด แม้เงินไม่ได้เยอะมากมาย พยายามเร่งติดตามหาให้
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีการดัดแปลงสีรถจักรยานยนต์จากสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นสีน้ำเงิน และหลบหนีไปพักอาศัยที่บ้านเพื่อน จนตามไปจับกุมได้ และแม้ยายจะไม่ได้แจ้งความเอาผิด แต่ทางตำรวจก็ได้เล็งเห็นว่าการที่ผู้ก่อเหตุใช้แบงก์กาโม่มาซื้อข้าวกล่อง ถือว่าเป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ถ้าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เจ้าหน้าที่ก็สามารถตักเตือนผู้ก่อเหตุและทำประวัติ และถือว่ากรณีนี้ยายไม่ติดใจเอาความ ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี แต่จากการสอบประวัติตัวผู้ก่อเหตุ ยังมีคดีอื่นตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ จะดำเนินการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย