เร่งคลี่คลายคดียิงเสี่ยอู่ซ่อมรถดับ

ตรัง 21 ธ.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่เร่งรัดคลี่คลายคดี เสี่ยอู่ซ่อมรถ ที่จ.ตรัง ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต ภรรยาและลูกน้องยังโคม่า ด้านครอบครัวห่วงเรื่องความปลอดภัยย้ำไม่ให้อภัย ไม่ต้องมาขอขมาศพ 


หลังนายธวัชชัย กลับขันธ์ อายุ 53 ปี เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ถูกคนร้าย 2 คน สวมหมวกไอ้โม่ง ใช้อาวุธปืนอาก้าและปืนพกสั้น ดักซุ่มยิงจนเสียชีวิต ขณะที่นางอำภา ภรรยา และนายสมชาย สนมน้อย ซึ่งเป็นลูกจ้างได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล  ที่อู่รถดังกล่าว มีผู้มาร่วมงานและร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก


ล่าสุด นางสาวศิริลักษณ์ กลับขันท์ อายุ 28 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผย อาการของแม่ดีขึ้นตามลำดับ  แพทย์ผ่าตัดเอากระสุนออก แต่ยังมีกระสุนฝังในอีก 1 เม็ด และมีเลือดคั่งในปอด รู้สึกตัวดี พูดจาสื่อสารได้  แต่ยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ ส่วนอาการลูกจ้างยังสาหัส เพราะกระสุนถูกบริเวณสีข้าง ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ตอนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว  เกรงว่าคดีจะไม่คืบ ขอให้ตำรวจช่วยเร่งจับคนร้าย และผู้บงการให้ได้ก่อนวันงานฌาปนกิจพ่อ 26 ธันวาคมนี้   ย้ำไม่ให้อภัยคนร้ายและคนบงการแน่นอน หากจับตัวได้ก็ไม่ต้องมาขอขมาศพ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนร้ายตั้งใจทำตนเองจะไม่ยอมให้อภัยอย่างเด็ดขาด


ขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังใช้เวลาประชุมร่วม 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.รณศิลป์ บอกว่า ตอนนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก พบพยานหลักฐานที่เชื่อว่าคนร้ายทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ นอกจากปลอกกระสุนปืน และวงจรปิดแล้ว ยังพบหลักฐานอื่นที่สามารถตามถึงตัวคนร้ายได้ แนวทางการสืบสวนเน้นเฉพาะในพื้นที่ภาค 9 ก่อน แล้วค่อยขยับไปเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ภาค 8 ด้วย ทั้งนี้ขอเวลาตรวจสอบ และรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ส่วนปมการก่อเหตุตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่เบื้องต้นคาดเป็นการจ้างวานฆ่า 

จากนั้นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ อู่ธวัชชัยการช่าง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล นายธวัชชัย พร้อมทั้งพูดคุยกับครอบครัวของผู้ตายโดยให้ความมั่นใจว่าคดีนี้ตำรวจทำงานเต็มที่ ต้องติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ