“สมคิด” ฆ่า 5 ศพปี 48 บอกเหมือนแปรงฟันอาบน้ำ-ถนัดหักคอเหยื่อ : ข่าวดังข้ามเวลา

“แล้วหนูแปรงฟัน อาบน้ำ รู้สึกอะไรไหม” สมคิด พุ่มพวง สวนกลับทันควันอย่างไม่ต้องคิด เมื่อเราถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการฆ่า 5 ศพ (ปี 48) พร้อมบอกถนัดการหักคอเหยื่อ 🛑 รายละเอียดติดตามสกู๊ปข่าวค่ำ 📺 ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 วันนี้ (19 ธ.ค.62)


เรื่องราวครั้งได้สัมภาษณ์ในเรือนจำ เพื่อประกอบสารคดีเชิงข่าว ข่าวดังข้ามเวลา : ฆาตกรรมซ้ำซ้อน..ฆาตกรต่อเนื่อง “สมคิด พุ่มพวง” [คลิกชมคลิปเต็มรายการ] เฟซบุ๊ก สันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย อสมท (http://bit.ly/2Ma6Emq)


ผมเคยเจอสมคิด พุ่มพวง ในเรือนจำกลางบางขวาง 2 ครั้ง ในช่วงเวลาห่างกัน 9 เดือน เพราะเข้าไปหาข้อมูล เพื่อทำสารคดีเชิงข่าว รายการข่าวดังข้ามเวลา ครั้งแรกไปเจอและได้พูดคุยกับเขาโดยบังเอิญ ครั้งที่ 2 ตั้งใจไปคุยกับเขาโดยตรง ครั้งที่สองที่ได้เจอ ผมนำข้อมูลที่สมคิดเล่าครั้งแรก มาเปรียบเทียบกัน ทำให้เห็นว่า เขาแต่งเรื่องราวเก่ง เล่าเหตุการณ์เดียวกัน 2 ครั้ง ไม่เหมือนกัน แต่เล่าได้คล่องแคล่ว เหมือนว่า เป็นเรื่องจริง


กรกฎาคม 2558 ผมกับทีมโปรดิวเซอร์รายการและช่างภาพ รวม 3 คน เข้าไปในเรือนจำกลางบางขวาง ขอพูดคุยกับ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง เพื่อนำข้อมูลมายืนยันในรายการข่าวดังข้ามเวลา ตอน “พลิกแผนฆ่า ล่าปมสังหาร” ระหว่างรอผู้พันตึ๋งตัดสินใจว่าจะพูดคุยกับเราหรือไม่ เห็นชายรูปร่างเตี้ยล่ำ หน้าตาคุ้นๆ เดินมาด้อมๆ แอบมองพวกเรา ผู้คุมเลยเรียกมาหา และบอกกับเราว่า นี่คือ สมคิด พุ่มพวง ให้เราคุยรอผู้พันตึ๋งไปก่อน

เรานั่งคุยกับสมคิด พุ่มพวง อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่ 10 ที่เขาถูกจองจำ สิ่งที่เห็นในบุคลิกของชายคนนี้ คือสายตาค่อนข้างแข็งกระด้าง พูดจาฉะฉาน อารมณ์ในการเล่าในเรื่องราวที่เขาเคยฆาตกรรม เหมือนจะเป็นเรื่องปกติ และดูเหมือนว่าผู้คนที่เขาฆ่าสมควรตาย

เราถามว่า ทำไมถึงฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คน เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า บางคนโดยเฉพาะเหยื่อรายแรกๆ เขารู้จักแต่หักหลังเขาในบางเรื่อง และบางคนเป็นสายของตำรวจเพื่อมาจับกุมตัวเขา เขาเลยต้องฆ่าคนเหล่านั้น แล้วเขาไปเรียนรู้การฆ่ามาจากไหน สมคิดบอก เขาถนัดการหักคอเหยื่อ เพราะไปเรียนรู้วิธีฆ่าเหล่านี้มาจากทหารเวียดกง สมัยเขาไปทำงานในบ่อนคาสิโนที่เวียดนาม


ระหว่างเขาเล่าเรื่องเหล่านี้ สีหน้าเขาเล่าเหมือนเรื่องปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องใหญ่

ตอนนั้น เราเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่ยังไม่มีอะไรยืนยันมากนัก จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายน 2559 หรือถัดจากนั้น 9 เดือน ผมขอเข้าพบสมคิด พุ่มพวง ที่เรือนจำกลางบางขวางอีกครั้ง ซึ่งเป็นปีที่ 11 ที่เขาถูกคุมขัง เพราะครั้งนี้ รายการข่าวดังข้ามเวลา จะทำเรื่องของเขาโดยตรง ในชื่อตอน “ฆาตกรรมซ้ำซ้อน ฆาตกรต่อเนื่อง”

รอบนี้ ผมพาโปรดิวเซอร์เป็นน้องผู้หญิงเข้าไปด้วย 2 คน ช่างภาพอีก 1 คน เมื่อเผชิญหน้ากับสมคิด เขาจำผมได้ เราทักทายกัน ผมแจ้งเขาว่า จะขอนำสิ่งที่คุยไปทำสารคดีข่าว เขาอนุญาต และพูดกันยาวอีกราว 2 ชั่วโมงกว่า ผมพยายามทวนคำถามเดิมๆ ที่เคยถามเขาเมื่อ 9 เดือนก่อน ให้เขาตอบ เพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่เขาเล่าให้ผมฟังครั้งแรกมันจะจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง เขาคงจำได้และเล่าแบบเดิม

ผมถามเขา ทำไมเขาฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คน สมคิด คงจำคำตอบเมื่อ 9 เดือนก่อนไม่ได้ เขารีบตอบผมอย่างฉะฉานไม่ติดขัดว่า เพราะผู้หญิงทั้ง 5 คน มีทั้งเด็กเสี่ย เสี่ยสั่งฆ่า บางคนไปติดหนี้นายทุน นายทุนจ้างเขาไปทวงหนี้ เมื่อไปเจอผู้หญิง ก็พาไปเจรจาที่โรงแรม ซึ่งเขาใช้เป็นเซฟเฮ้าส์ แต่ผู้หญิงไม่มีเงินจ่าย เขาโทรศัพท์หานายทุน นายทุนสั่งฆ่า เขาจึงต้องฆ่าตามคำสั่ง

ตอนนั้น ผมรู้แล้วว่า สมคิดเป็นคนที่ปั้นแต่งเรื่องราวต่างๆ ไว้ในหัวอย่างมากมาย จนบางครั้งเขาจำไม่ได้ว่า เคยบอกกับผมเมื่อ 9 เดือนไว้อย่างไร

แต่ที่เขาตอบเหมือนเดิม คือการฆ่าคน ที่เขายืนยันว่า ไปเรียนรู้วิธีหักคอมาจากทหารเวียดกง ตอนที่เขาไปทำงานในบ่อนคาสิโนที่เวียดนาม ข้อมูลนี้ ทำเอาน้องโปรดิวเซอร์ผู้หญิงทั้งสองคน อ้าปากค้าง

แต่ที่ต้องอ้าปากค้างมากกว่า คือช่วงที่ผมให้น้องโปรดิวเซอร์ผู้หญิงถาม น้องเขาถามว่า ตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับการฆ่า 5 ศพ สมคิด สวนกลับทันควันอย่างไม่ต้องคิดว่า “แล้วหนูแปรงฟัน อาบน้ำ รู้สึกอะไรไหม”

เขาเปรียบเทียบการฆ่าคนเหมือนกิจวัตรปกติ ทำให้ผมคิดมาตลอดว่า การคุยกับเขา 2 ครั้ง ผมไม่เห็นเลยว่า เขาจะรู้สึกผิดกับการฆ่าคน

รายละเอียดที่มากกว่านี้ ผมจะเขียนในสกู๊ปของช่อง 9 วันนี้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]