กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- ครอบครัว “ลันลาเบล” จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระก่อนฌาปนกิจศพวันนี้ ด้านคดีรออัยการธนบุรี พิจารณาสั่งฟ้องน้ำอุ่นกับพวก
ช่วงเช้าวันนี้ครอบครัว และเพื่อนสนิท ของน.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลันลาเบล ได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ กับ น.ส.ธิติมา โดยนิมนต์พระสงฆ์ 6 รูปมาสวดบังสุกุล ซึ่งบรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งทางครอบครัวยังไม่พร้อมจะเปิดเผยอะไรในขณะนี้ และไม่อยากจะพูดถึงกรณีที่ นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ หนึ่งในสมาชิกของบ้านปาร์ตี้ ย่านบางบัวทอง เดินทางเข้าไหว้ศพและนำซองเงินค่าตัว ที่จ้างงานมาให้ จำนวน 3,000 บาท มามอบให้ แต่ครอบครัวไม่รับ โดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.ธิติมา ในเวลา 17.00น. ของวันนี้
นายชวลิต นรพันธ์พิพัฒน์ พ่อของลันลาเบล กล่าวว่า หลังจากทำพิธีฌาปนกิจศพลูกสาวแล้วจะนำอัฐิไปลอยอังคารตามความเชื่อ ส่วนคนในครอบครัวก็จะพยายามทำใจและเลี้ยงดูน้องแบมแบมหลานสาวให้ดีที่สุด ทุกคนต้องขยันทำงานมากขึ้น ขณะที่หลานสาวนั้นทุกวันนี้ก็ยังเล็กเกินจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ของตัวเอง ยังคอยถามหาแม่อยู่ตลอด บางครั้งก็ถามว่าทำไมแม่ถึงต้องเข้าไปอยู่ในโลง ครอบครัวยังต้องคอยโกหกว่าลันบาเบล ไปทำงาน ส่วนเรื่องการรับค่าเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ต้องรอผลทางคดีให้เกิดความชัดเจน ส่วนการเรียกร้องกับคู่กรณีนั้นมอบหมายให้ทนายความจัดการ แต่การที่กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกสาวจะมาขอโทษหรือแสดงความเสียใจนั้น ตนเองไม่ได้ใส่ใจเพราะรู้สึกว่าเลยเวลาจะมาแสดงออกแล้ว
สำหรับ คดีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ยื่นสำนวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ฐานความผิดผู้ต้องหาที่ 1 ฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด ๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการ ใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2-6 ฐานสนับสนุนการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา โดยขณะนี้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการคดีอาญาธนบุรี ซึ่งทางครอบครัวของ น.ส.ธิติมา จะเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการด้วย
ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้น จะไม่ฟ้องทางแพ่งแยก แต่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ต้องหาในระหว่างดำเนินคดีอาญา เนื่องจากได้รับการชดเชยค่าเสียหายจากกองทุนยุติธรรมมาบางส่วนแล้ว .-สำนักข่าวไทย