ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน 29 พ..ย.- คณะกรรมการควบคุม ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน ประชุมนัดแรก ยืนยันเร่งเคลียร์ปมปัญหาให้เร็วที่สุดแต่จะไม่กำหนดระยะเวลา
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม คณะกรรมการฯครั้งแรกในวันนี้ หลังจากที่วานนี้ (28 พ.ย.)สช.ได้ออกหนังสือคำสั่งให้โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เข้ามาอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) และได้แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯในระหว่างนี้จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายอรรถพล กล่าวว่า ขณะนี้ผู้รับใบอนุญาต คือมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการทั้ง 4 คน ที่ดูแลอยู่ก่อนหน้านี้ถือว่าหมดอำนาจหน้าที่ชั่วคราว โดยคณะกรรมการชุดนี้ ที่จะทำหน้าที่แทนผู้รับใบอนุญาต คือมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย และ ทำหน้าที่บริหารโรงเรียน ไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ สช.ได้ส่งหนังสือคำสั่ง ไปยัง ผู้รับใบอนุญาต ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้จัดการโรงเรียน ส่งมอบทรัพย์สิน พร้อมด้วยสมุดบัญชี เอกสาร และสิ่งอื่นที่เกี่ยงข้องกับทรัพย์สิน และหนี้สินของโรงเรียนในระบบ ตลอดจนหลักฐานเกี่ยวกับนักเรียนในโรงเรียนทั้งหมดให้กับคณะกรรมการควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ในระบบ ภายใน 7 วัน ถ้าไม่ปฎิบัติตามจะมีโทษปรับ 1 แสนบาท และคิดเพิ่มวันละ 5,000 บาท แต่ที่สำคัญนอกจากค่าปรับ คือโทษทางอาญา ซึ่งตรงนี้ทางโรงเรียนไม่ควรเสี่ยง หรือหากจะยื่นอุทรณ์ก็สามารถทำได้ภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ย้ำว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นมาไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อไกล่เกลี่ยความขัดเเย้งที่เกิดขึ้น แต่เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงจากปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา สช.ได้เข้าไปทักท้วงปัญหาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้จึงนำมาซึ่งแนวทางนี้
ส่วนกรอบระยะเวลาในการทำงาน ตนเองคงไม่สามารถยืนยันระยะเวลาได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย สช.จะให้คณะกรรมการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะเป็นโรงเรียนใหญ่ ทุกฝ่ายจับจ้องต้องทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด
สำหรับข้อมูลโรงเรียนเอกชนที่ สช.เข้าควบคุม ขณะนี้เมื่อรวมร.ร.กรุงเทพคริสเตียนแล้วจะมีทั้งสิ้น 6 โรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก สาเหตุหลักๆคือ มีปัญหาขาดทุน เงินไม่เพียงที่จะบริหาร ผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตายอยู่ระหว่างจัดการมรดก แต่กับ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนถือว่า ต่างออกไป เป็นเรื่องปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ด้าน นายเรวัต กล่าวสั้นๆว่า วันนี้เป็นการเรืยกคุยทำความเข้าใจ กำหนดกรอบปัญหาที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการ ยืนยันเรื่องนี้จะไม่ช้า เพราะช้าไม่ได้ สังคมให้ความสนใจ แต่เมื่อพอเห็นปัญหาค่อนข้างใหญ่ จึงไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนได้ แต่ตอบได้สั้นๆว่า จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ หรือ ครูทอม ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ถูกคณะกรรมการให้ออกจากตำแหน่งเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้ด้วย โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ของ สช.ถือเป็นการแก้ปัญหา และเชื่อว่าจะหาทางออกให้กับทุกฝ่ายได้ เพราะที่ผ่านมาผู้รับใบอนุญาต คือมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นถูกต้อง แต่ทางคนที่โดนตัดสิน ก็มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะอีกฝ่ายตั้งคนของตัวเองมาเป็นคณะกรรมการตัดสินลงโทษ ทั้งที่การตัดสินควรต้องใช้คนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ แต่ก็ไม่ทำปล่อยให้เรื่องบานปลายมาถึงขั้นนี้ ส่งผลต่อนักเรียน ครู และพนักงานในโรงเรียน ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
หลังจากนี้คาดหวังว่า ไม่ไช่ตนเองจะต้องกลับมารับตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน แต่ต้องการเห็นโรงเรียนกลับมามีความสุขอย่างเช่นที่ผ่านมา เพราะนั้นคือสิ่งที่เจ้าของโรงเรียนตัวจริง คือ นักเรียน และผู้ปกครองต้องการที่สุด ทั้งนี้หากผลการตัดสินออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับผลตัดสิน เพราะครูที่ดีต้องเป็นแบบอย่างให้นักเรียน.-สำนักข่าวไทย