สำนักข่าวไทย 28 พ.ย.-สช.ออกคำสั่งเข้าควบคุม โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ พร้อมตั้งคณะกรรมการดูแลแทนจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติและให้โรงเรียนส่งเอกสารทางการเงินทุกอย่างให้ สช.ตรวจสอบภายใน 7 วัน
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยภายหลังจากที่วันนี้มีการเผยแพร่เอกสารหนังสือคำสั่งของ สช. ระบุให้โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย อยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)
นายอรรถพล กล่าวว่าหลังสือคำสั่งดังกล่าวเป็นเอกสารจริงที่ตนเซ็นคำสั่งออกมาในวันนี้ หลังจากที่เรื่องราวความขัดแย้งของกรุงเทพคริสเตียน ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมหาทางออก ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และความขัดแย้งดูเหมือนจะบานปลาย ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆจึงมีความจำเป็นต้องอาศัยอำนาจเข้าควบคุมเพื่อความเรียบร้อย โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯในระหว่างนี้ และเนื่องจากเป็นโรงเรียน
ขนาดใหญ่ และมีประวัติมายาวนาน จึงได้ไปขอความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการศึกษามาทำหน้าที่ ประกอบด้วย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการ รวมทั้ง ศาสตราจารย์กิตติคุณ เทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์พรชัย มาตังคสมบัติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น
หน้าที่ของคณะกรรมการจะทำหน้าที่ 2 ทาง คือ 1.ทำหน้าที่แทนผู้รับใบอนุญาต คือมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย และ 2.ทำหน้าที่บริหารโรงเรียน ไปจนกว่าสถานการณืจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งปกติในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มีการประท้วง แต่จะต้องตรวจสอบความจริงทำความกระจ่างในทุกข้อสงสัยให้สังคมให้ได้ ทั้ง เรื่องคำสั่งพักงาน และภายหลังให้พ้นจากหน้าที่ ของ ผู้อำนวยการ (นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์) และผู้จัดการ (นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี) ,เรื่องการจัดซื้อที่ดินและกิจการโรงเรียนบึงกาฬคริสเตียน (โรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษา) ที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในกิจการของโรงเรียน ถือเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย มาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่การดำเนินกิจการของโรงเรียน เนื่องจากมูลค่าของการจัดซื้อที่ดินเป็นเงินจำนวนมากมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าธรรมเนียมอื่นของโรงเรียน ทั้งที่ในช่วงที่ผ่านมา สช.ได้ทำหนังสือทักท้วงไปตลอด แต่ก็ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนจากโรงเรียน
นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังมีคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาต ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้จัดการโรงเรียน ส่งมอบทรัพย์สิน พร้อมด้วยสมุดบัญชี เอกสาร และสิ่งอื่นที่เกี่ยงข้องกับทรัพย์สิน และหนี้สินของโรงเรียนในระบบ ตลอดจนหลักฐานเกี่ยวกับนักเรียนในโรงเรียนทั้งหมดให้กับคณะกรรมการควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ในระบบ ภายใน 7 วัน ถ้าไม่ปฎิบัติตามจะมีโทษปรับ 1 แสนบาท และคิดเพิ่มวันละ 5,000 บาท แต่ที่สำคัญนอกจากค่าปรับ คือโทษทางอาญา ซึ่งตรงนี้ทางโรงเรียนไม่ควรเสี่ยง
สำหรับกรอบระยะเวลาในการเข้ามาควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน สช.ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา ย้ำว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเข้ามาดูแลจนกว่าทุกอย่างจะปรากฏความจริง ไขทุกข้อสงสัยให้กับสังคม
ด้าน นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์ ผู้ประสานงานประชาสัมพันธ์องค์กร SaveBCC กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ สช. เข้ามาควบคุมดูแลและทำให้มีการแก้ไขปัญหาของโรงเรียน ทำให้การเรียนการสอนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ อยากให้สช. มองปัญหาของโรงเรียนอื่นๆที่อยู่ในเครือด้วย เนื่องจากถูกกลุ่มคนบางกลุ่มใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย หาผลประโยชน์ ให้กับพวกพ้อง ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีมานานและซุกอยู่ใต้พรม อยากให้ สช.เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับโรงเรียนอื่นๆในอนาคตด้วย.-สำนักข่าวไทย