ชะตากรรมเหยื่อเหตุอาคารถล่มที่ภูเก็ต ตอน 1

ภูเก็ต 27 พ.ย.- หลังเกิดเหตุการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งของพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พังถล่มลงมาทับคนงานเสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 2 คน เมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวไทยได้ไปพูดคุยกับหนึ่งในเหยื่อที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมถึงการตรวจสอบเพื่อคลี่คลายปมที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ วันนี้นำเสนอให้ชมเป็นตอนแรก


คำบอกเล่าถึงนาทีชีวิตของนายจตุรวิทย์ หมวดสิงห์ 1 ในจำนวน 2 รายของเหยื่อจากเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างใน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พังถล่มลงมาทับร่างของเพื่อนคนงานเสียชีวิต 7 ศพคาที่เกิดเหตุ บอกให้เห็นถึงการอุบัติขึ้นอย่างเฉียบพลันของตัวอาคาร โดยไม่มีสัญญาณใดแจ้งเตือน 9 ชีวิตในที่เกิดเหตุ ไม่มีสิทธิ์ได้อุทธรณ์ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นแบบรวดเร็วกะทันหัน ชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว


จากการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่พังถล่มลงมาทับคนงานเสียชีวิตทั้ง 7 ศพ เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญพบว่า อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหลังนี้ สร้างโดยไม่มีแบบใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ขนาดต่างๆ ของโครงสร้างผิดเพี้ยน จนไม่มีความสมดุลกัน


หัวหน้าฝ่ายการโยธา เทศบาลตำบลศรีสุนทร วัดขนาดซากของตัวอาคารตามจุดต่างๆ เพื่อเก็บรายละเอียด พร้อมสเกตช์ภาพจำลองแบบของอาคารหลังนี้ อธิบายให้สำนักข่าวไทยฟังว่า อาคารหลังที่พังถล่มถูกก่อสร้างด้วยระบบ Post Tension คือเป็นระบบแผ่นพื้นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง เนื่องจากเป็นระบบที่ประหยัด ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว แต่เพราะอาคารหลังนี้ ผู้ก่อสร้างไม่มีแบบ และไม่ได้รับอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง ทำให้การก่อสร้างผิดเพี้ยน ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของวิศวกรรมโยธา ขนาดโครงสร้างกับตัวอาคารไม่สมดุลกัน โดยเฉพาะส่วนเสา ซึ่งหลังจากใช้รถแบ็กโฮขุดลงไป พบว่าเสามีขนาดเล็กเกินไป เช่นเดียวกับส่วนของหลังคา ที่พบว่ามีความหนากว่าปกติ และมีน้ำหนักมาก ไม่สอดรับกับตัวเสา

ด้านโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ตให้ข้อมูลว่า โดยปกติทั่วไปอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นอาคารที่แข็งแรง จึงมักจะไม่เกิดการพังถล่มอย่างเฉียบพลัน ส่วนมากจะมีสัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้า เช่น มีรอยร้าวให้เห็น หรือเสียงให้ได้ยิน ผู้ประสบภัยจึงอาจทันพอมีเวลาให้หนี แต่ในกรณีอาคารที่พังถล่มหลังนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการถล่มที่ผิดปกติไปจากทั่วไปมาก

นับจากวันนี้ไปอีก 5 วัน ผลการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญจากทุกฝ่าย จะถูกรวบรวมเป็นหลักฐานมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่า ผลตรวจสอบเชิงลึกครั้งนี้จะทำให้พนักงานสอบสวนตัดสินใจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแก่นายชูชาติ ปาละสุวรรณ เจ้าของอาคาร เพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาก่อสร้างอาคารโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดเพียง 10 ปี เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น