ประธานวิปฝ่ายค้านยันยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย 26 พ.ย.-ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยหลังศึกษาข้อกฎหมายอย่างถี่ถ้วน มีความชัดเจนการอภิปรายฯ ยึดตามปีปฏิทิน ดังนั้นฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และจะอภิปรายไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค.


นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)  พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน โดยนายสุทิน กล่าวว่า สำหรับการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้มี 2 เรื่อง คือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้ม.44 ซึ่งคาดว่าจะลงมติวันที่ 27 พ.ย. จากนั้นจะเป็นการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐรรมนูญ และจะลงมติในวันที่ 28 พ.ย. ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติให้มีการตั้งกรรมาธิการฯ ทั้งสองคณะ แต่ท่าทีของรัฐบาลเหมือนจะไม่ให้มีการตั้งกรรมาธิการฯ ผลกระทบ ม.44 แต่ในเรื่องของกรรมาธิการฯ แก้รัฐธรรมนูญ หวังว่าจะได้เห็นการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าว ซึ่งสังคมเฝ้ารอจะเห็นหน้าตาประธานและกรรมาธิการฯ ชุดนี้

นายสุทิน กล่าวว่า ในส่วนของหนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กรณีเรื่องกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการ แต่จากการจากประสานด้วยวาจาและศึกษาข้อกฎหมายอย่างถี่ถ้วน ชัดเจนว่าการอภิปรายยึดตามปีปฏิทิน ดังนั้นฝ่ายค้านก็จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยืนยันว่าจะอภิปรายไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. เพื่อไม่ให้ชนกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น  วันคริสต์มาส และปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ฝ่านค้านเริ่มเห็นสัญญาณไม่ค่อยดี น่าวิตก โดยหลังจากที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมาพูดเรื่องกรอบเวลาอภิปราย เท่ากับรัฐบาลกำลังวิตก ตีความเพื่อให้สับสน ทำลายจังหวะการอภิปราย ซึ่งฝ่ายค้านจะไม่รั้งรอ จะเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย           


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย