กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – เจโทรระบุไทยมีตลาดดิจิทัลขนาดใหญ่ในอาเซียนและกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงมีโอกาสทางธุรกิจด้านการรักษาพยาบาล พร้อมหนุนสตาร์ทอัพญี่ปุ่นเข้ามาจับคู่ทำธุรกิจกับสตาร์ทอัพไทย
นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร กรุงเทพฯ เปิดตัวโครงการ JETRO Innovation Program (JIP) หรือโครงการสนับสนุนการขยายธุรกิจในต่างประเทศสำหรับสตาร์ทอัพญี่ปุ่น จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นปีที่ 2 ปีนี้มีสตาร์ทอัพญี่ปุ่น 7 บริษัทเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเจโทรจะนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน CEBIT ASEAN Thailand อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 7 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นจะได้เจรจาธุรกิจกับบริษัทไทยมากกว่า 50 บริษัทที่นัดล่วงหน้าไว้กว่า 100 นัด สำหรับ 7 บริษัทญี่ปุ่นที่เข้าร่วมโครงการ แบ่งเป็น 4 บริษัทที่มีนวัตกรรมบริการด้านไอทีและดิจิทัล ส่วนอีก 3 บริษัทมีนวัตกรรมด้านการแพทย์
นายทาเคทานิ ระบุว่าสาเหตุที่เลือกจัดทำโครงการ JIP ในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีตลาดดิจิทัลที่ถือว่าขนาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียนเป็นที่น่าจับตาและมีการเติบโตด้านฟินเทค เช่น การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังทุ่มเทกับนโยบายการเติบโตระยะยาวตามนโยบายประเทศไทย 4.0 สนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล นอกจากนี้ ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็จะมีโอกาสทางธุรกิจนี้ และไทยมีชื่อเสียงทางด้านการรักษาพยาบาลที่มีชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามารักษาก็จะมีโอกาสทางธุรกิจด้วย สำหรับโครงการสนับสนุนการขยายธุรกิจในต่างประเทศสำหรับสตาร์ทอัพญี่ปุ่น นอกจากประเทศไทยแล้ว ทางเจโทรยังจัดอีก 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ที่ซานฟรานซิสโก ซิลิคอนวัลเลย์ และประเทศจีน ที่เซินเจิ้น และเซี่ยงไฮ้
นายทาเคทานิ กล่าวว่า ในสายตานักลงทุนญี่ปุ่นประเทศไทยยังน่าเข้ามาลงทุน ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 5,000 บริษัท ขณะนี้เจโทรนำธุรกิจดิจิทัลและเฮลแคร์เข้ามาลงทุน คาดว่าน่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ เพราะไทยเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมตามแบบญี่ปุ่นอยู่อาศัยง่ายและรัฐบาลไทยยังมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการ จึงอยากให้ผู้ประกอบการมีการใช้มาตรการให้เป็นประโยชน์ ส่วนมูลค่าการลงทุนปกติอ้างอิงได้จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ขณะนี้ทางเจโทร กรุงเทพฯ ยังหาสูตรคำนวณเหมาะสมไม่ได้ จึงยังไม่สามารถระบุเงินทุนที่เข้ามาลงทุนได้ ด้านคนญี่ปุ่นที่ย้ายถิ่นเข้ามาพำนักในประเทศไทยขณะนี้มากกว่า 70,000 คน ซึ่งผู้ประกอบการญี่ปุ่นคาดหวังเข้ามาทำธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้น
ประธานเจโทร กรุงเทพฯ ระบุ เจโทรพร้อมนำพาผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่มีความเข้มแข็งเข้ามาลงทุนในประเทศไทยผ่านโครงการ JIP ส่วนอีกกลุ่มสตาร์ทอัพที่เข้ามาลงทุนครั้งนี้ยังไม่เกี่ยวเนื่องค่าเงิน แต่เรื่องจับคู่ที่ตรงกับความต้องการที่ตรงกันสำคัญมากกว่าและการลงทุนอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนในประไทยอาจออกไปลงทุนในต่างประเทศก็ได้.-สำนักข่าวไทย