ดันเพิ่มเที่ยวบิน ทย.ปีละ 8-10% หนุนเที่ยวเมืองรอง

อุดรธานี 25 พ.ย. – “ถาวร” ตั้งเป้าเพิ่มเที่ยวบินสังกัดกรมท่าอากาศยาน 29 แห่ง ปีละ 8 – 10 % ขณะที่สายการบินไทยเวียตเจ็ท ยอมรับเล็งใช้อู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางบินเชื่อมไทย-เวียดนาม-จีน



นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบินเวียตเจ็ทเส้นทางสุวรรณภูมิ- อุดรธานี ยืนยันว่าจะเร่งผลักดันการเพิ่มเที่ยวบินในสังกัดของกรมท่าอากาศยาน หรือ ทย.ทั้ง 29 แห่ง ทั้งในแง่ของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นปีละ 8-10% จากปัจจุบันท่าอากาศยานในสังกัด ทย.มีผู้โดยสารเดินทาง 32 ล้านคน/ปี


นายถาวร กล่าวว่า การขับเคลื่อนดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศ รวมทั้งนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ได้สั่งการขณะนี้ คือ การนำสินค้า OTOP เข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ท่าอากาศยานทั้ง 29 แห่ง โดยเน้นย้ำว่าให้วางจำหน่ายในตำแหน่งที่เหมาะสมและสวยงาม ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวและผู้เดินทาง 

“เป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารของสนามบินสังกัด ทย.มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยขณะนี้ ทย.มีสนามบินทุกภูมิภาคสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสนามบินแม่สอด สนามบินเบตง สนามบินอุดรธานี และสนามบินกระบี่ ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพทั้งสิ้น” นายถาวร กล่าว

ส่วนประเด็นที่จะมีการโอนสนามบินสังกัด ทย.ไปให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.บริหาร ซึ่งในจำนวน 4 สนามบิน มีท่าอากาศยานจังหวัดอุดรธานีอยู่ด้วย นอกจากท่าอากาศยานกระบี่ บุรีรัมย์ และตาก นายถาวรระบุว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานอุดรธานีจะอยู่ภายใต้กำกับของหน่วยงานราชการ แต่บริหารได้แบบมืออาชีพ ส่วนการจะโอนสนามบินใดไปให้ ทอท.บริหาร จำเป็นต้องเปิดกว้างให้รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนรายใดก็ได้ที่มีความสามารถบริหารงานเป็นมืออาชีพเข้ามาบริหารงานไม่จำเป็นต้องผูกขาดว่าให้ ทอท.บริหารเท่านั้น


ด้านนางสาววรดา ตั้งสืบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า นอกจากการเปิดเส้นทางบินสุวรรณภูมิ-อุดรธานี เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์วันนี้ ในอนาคตไทยเวียตเจ็ทตั้งเป้าหมายที่จะเปิดเส้นทางบินเพิ่มเติมโดยเฉพาะการใช้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางบินเชื่อมโยงไปยังภูมิภาค ทั้งจีนและเวียดนามกับไทย โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ทได้ดำเนินการร่วมกับสายการบินเวียตเจ็ทในการขยายเครือข่ายการบิน ปัจจุบันมีบริการเที่ยวบินในประเทศไทย 7 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ และอุดรธานี รวมถึงเส้นทางบินระหว่างเชียงราย-ภูเก็ตและอุดรธานี ขณะที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ 17 เส้นทางบินจากไทยสู่เวียดนามไต้หวันและจีนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ รับ ครม.ใหม่ลงตัวแล้ว ยันไม่ควบเก้าอี้ กห.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- นายกฯ ยอมรับคณะรัฐมนตรีใหม่ลงตัวแล้ว ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ควบเก้าอี้กลาโหมแน่นอน มองต้องเป็นคนเหมาะสมดูแลเรื่องชายแดนได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความลงตัว โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งบางรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำขึ้นทูนเกล้าทูนกระหม่อมถวายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยัน ปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นจบแล้ว ส่วนกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กดดันให้ตนเองลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติ รวมถึงได้พูดคุยกันที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ยืนยัน ทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุน และให้กำลังใจ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหลังจากนี้จะมีเสียงใครมาเติมให้รัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังแข็งแรงอยู่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ ไว้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้วจะบอกอีกครั้ง พร้อมยืนยัน ตนเองจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแน่นอน สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ยึดหลักการอะไร ในการวางบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า […]

ปิดด่านคลองลึกวันแรกเงียบเหงา ชาวกัมพูชารอข้ามแดน

สระแก้ว 24 มิ.ย.-บรรยากาศการปิดด่านพรมแดนคลองลึก จ.สระแก้ว วันแรก เงียบเหงา มีนักเรียนข้ามแดนบางตา ขณะที่ชาวกัมพูชามานั่งรอเพื่อข้ามแดนกลับประเทศ สถานการณ์ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังกองทัพมีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา เช้าวันนี้มีชาวกัมพูชาประมาณ 40 คนที่พากันมานั่งรอ เพราะคาดหวังว่าจะได้ข้ามกลับไปกัมพูชา ส่วนนักเรียนข้ามแดนค่อนข้างบางตา แม้ว่าทางการอนุญาตให้นักเรียนสามารถเดินทางข้ามแดนไป-กลับเพื่อศึกษาเล่าเรียนได้ในช่วงเวลา 06.00 น. และ 17.00 น. ของแต่ละวัน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จว.สระแก้ว ก็ได้นำกำลัง ตร.ควบคุมฝูงชน 170 นาย เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย และคอยช่วย จนท.ตม.ทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชา ที่มารอข้ามแดน ซึ่งหลังจากที่มีคนเริ่มมารอมากขึ้น จึงได้มีการประกาศให้ทราบว่า ในวันนี้ช่วงเวลา 17.00-20.00 น. จึงจะเปิดด่าน ให้ชาวกัมพูชาสามารถข้ามกลับไปยังประเทศของตนได้ เนื่องจากคนที่มารอมีทั้งคนที่ไม่ทราบข่าวว่ามีการปิดด่าน และคนที่ทราบ ก็มาโดยที่คาดว่าอาจจะไม่เข้มงวดขนาดนั้น แต่ที่สุดก็ต้องนั่งรอเพื่อข้ามแดนพร้อมกับคนอื่นๆ ในช่วงเย็นวันนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจดีถึงสถานการณ์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากชาวกัมพูชา ก็มีชาวไทยและชาวต่างชาติอีกประปราย ที่เดินทางมาขอข้ามแดนเพื่อไปทำงานหรือทำธุระ แต่ภาพรวมขณะนี้ยังถือมีความเรียบร้อยดี.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.ประยุทธ์-นายกฯ เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช

วัดราชบพิธ 24 มิ.ย.-พล.อ.ประยุทธ์-นายกฯ พร้อมคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 26 มิถุนายน 2568 นายกฯ เผยพบทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ไม่ตอบฝากอะไรถึงสถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 26 มิถุนายน 2568 ณ พระตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเวลา 09.05 น. โดยได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณข้างอุโบสถ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ต่อมาเวลา 09.08 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี องคมนตรี ได้เดินทางมาถึง เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก […]

‘ทรัมป์’ ระบุอิสราเอล-อิหร่านตกลงหยุดยิงแล้ว

วอชิงตัน 24 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศในวันจันทร์ ถึงการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งน่าจะเป็นการยุติสงครามที่ดำเนินมา 12 วันระหว่างทั้งสองฝ่าย ที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอพยพออกจากกรุงเตหะรานของอิหร่าน และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาคที่บอบช้ำจากสงคราม นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า ด้วยสมมติฐานว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่สมควร เขาขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศ ทั้งอิสราเอลและอิหร่าน ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และสติปัญญาในการยุติสิ่งที่ควรจะเรียกว่า ‘สงคราม 12 วัน’   ขณะนี้ยังไม่มีความคิดเห็นจากอิสราเอลในทันทีในเรื่องหยุดยิง แม้ว่าเจ้าหน้าที่อิหร่านรายหนึ่งได้ยืนยันก่อนหน้านี้ว่าเตหะรานตกลงที่จะหยุดยิงแล้ว แต่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่าจะไม่มีการยุติการสู้รบเว้นแต่อิสราเอลจะหยุดการโจมตี อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อช่วงเช้าวันอังคารว่า หากอิสราเอลหยุด “การรุกรานที่ผิดกฎหมาย” ต่อชาวอิหร่านไม่เกินเวลา 04.00 น. เช้าวันอังคารตามเวลาอิหร่าน หรือตรงกับ 7.30 น. ของวันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย อิหร่านก็ไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการตอบโต้ต่อไป จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านนับตั้งแต่เวลานั้น นายอารากชีกล่าวเสริมในโพสต์ข้อความผ่านทางเอ็กซ์ว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยุติปฏิบัติการทางทหารของอิหร่านจะมีการตัดสินใจในภายหลัง อิสราเอล ซึ่งมีสหรัฐเข้าร่วมด้วยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงมือโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากกล่าวหาว่าอิหร่านใกล้จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวกล่าวว่า […]