ธนาธรโต้ศาล รธน.ย้ำยังเป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ

ศาลรัฐธรรมนูญ 20 พ.ย. – “ธนาธร” ระบุคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งอยู่บนข้อสันนิษฐานของศาลมากกว่าข้อเท็จจริง เป็นธรรมหรือไม่ให้ประชาชนตัดสินใจเอง ยันยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  แถลงภายหลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีมติให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาให้กำลังใจในวันนี้  พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างสุจริตใจ โดยเห็นว่า ศาลได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของตน  3  ข้อ ว่า 1.ประเด็นใบอนุญาตการพิมพ์ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อ้างถึงพ.ร.บ.การพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ว่า บริษัทของตนยังไม่ได้แจ้งยกเลิก ดังนั้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จะทำสื่ออีกครั้งเมื่อไรก็ได้โดยศาลยอมรับไปแล้วว่า บริษัทวี-ลัคไม่มีรายได้แล้ว ในความเห็นของตน ถ้าบริษัทวี-ลัค ยังเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ก็ควรไปตัดสินตอนนั้น ทำไมมาตัดสินตอนนี้ ทั้งที่ศาลยอมรับว่าบริษัทนี้ไม่มีรายได้ ไม่มีพนักงานและปิดตัวลงตั้งแต่ 26 พ.ย.61 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ข้อ 2 ศาลพูดถึงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ว่าไม่ให้นักการเมืองให้คุณกับตัวเอง ให้โทษกับผู้อื่น แต่ศาลไม่ได้พูดเลยว่าตนหรือบริษัทวี-ลัค กระทำผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอย่างไร ข้อ 3 เรื่องการจดแจ้ง บอจ.5 กับกระทรวงพาณิชย์ ตามกฎหมายจะแจ้งเมื่อไรก็ได้ภายใน 1 ปี การแจ้งช้าหรือเร็วไม่ใช่การกระทำผิด โดยบริษัทวี-ลัคในวันนี้ไม่มีพนักงานแล้ว เอางานไปฝากกับบริษัทอื่น การยื่นบอจ. 5 ช้า ไม่ได้มีครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ที่ผ่านมาก็เคยมี ที่สำคัญคือหลังการประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง มักจะยื่นบอจ. 5 ในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเป็นหลักปฏิบัติในทุกครั้ง  


“ประเด็นที่  3 กรณีการนำเช็คค่าหุ้นไปขึ้นเงินของนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนางรวิพรรณชี้แจงชัดเจนแล้วว่า นางรวิพรรณจะเป็นคนโอนเช็คให้กับตน วันนั้นลูกยังอ่อน ศาลบอกว่าสามารถให้คนอื่นไปแทนได้ แต่นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว ผมจะให้ใครเป็นก็เป็นเรื่องของผม ที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติของผม ให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการทุกครั้ง ไม่เคยให้คนอื่นไป เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวผม เราเอาเช็คตัวจริงไปให้กกต.ดูด้วย เพราะเมื่อภรรยารู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น จึงไม่กล้าเอาเช็คไปขึ้นเงิน เก็บเช็คไว้กับตัว การที่ผมต้องเข้าไปให้การในชั้นกกต.  ในวันที่ 30 เม.ย. และให้ทนายความของพรรคไปยื่นให้กกต.ดูด้วย เราแสดงเช็คตัวนี้ให้เจ้าหน้าที่ กกต.ดู แต่เราส่งแค่สำเนาเช็คแนบคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่กกต.เห็นเช็คจริงในวันที่ 30 เม.ย. นั่นคือเหตุผลที่นำเช็คไปขึ้นเงินช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่กกต.ก็ไม่ได้โต้แย้งเรื่องนี้แสดงว่าเขาเห็นเช็ค” นายธนาธร กล่าว 

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ไม่มีตุลาการคนใดเป็นนักธุรกิจเลย ซึ่งเรื่องการลงทุนในธุรกิจเป็นเรื่องของรสนิยม ซึ่งนักธุรกิจจะมีรสนิยมในการลงทุนต่างกัน โครงการไหนน่าลงทุนหรือไม่น่าลงทุน มีความรักชอบในความเสี่ยงต่างกัน แบกรับการขาดทุนของตลาดต่างกัน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน 100 คน มาตัดสินใจเรื่องการลงทุนก็จะตัดสินใจต่างกัน จะใช้มาตรฐานศาลมาตัดสินนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ควรจะตัดสินใจลงทุนหรือไม่ ในเรื่องใดคงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องรสนิยมความชอบในความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การที่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา โอนหุ้นให้นายทวี จรุงสถิตย์พงศ์ และมีการโอนคืนข้อเท็จจริงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของการโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ไปด้วยตัวมันเองแล้ว 

“ดังนั้นเหตุผลที่ศาลยกขึ้นมาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผมสิ้นสุดลง ล้วนเป็นข้อสันนิษฐานไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มาหักล้างเอกสารหลักฐานที่เรานำเสนอ ศาลให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏเป็นเอกสารหลายข้อ แต่ศาลกลับให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่า” นายธนาธร กล่าว


หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตข้อสุดท้ายว่าการอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ไม่มีการออกมติขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากการวินิจฉัยคดีอื่นๆ ของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ตนอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง  การเดินทางไม่ได้สิ้นสุดลง ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  พรรคอนาคตใหม่คือผู้คนที่สนับสนุน มีความฝันตั้งใจเหมือนกัน  และจะเดินร่วมกันต่อไป 

นายธนาธร กล่าวว่า  เรื่องความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจเองดีที่สุด ลองฟังคำแถลงความคิดเห็นของตนวันนี้ และฟังคำที่ศาลรัฐธรรมนูญแถลง แล้วให้ประชาชนตัดสินใจเองดีกว่า สำหรับอนาคตทางการเมือง ตนจะยังคงทำงานต่อไปในฐานะหัวหน้าพรรค ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากมาย ทั้งเรื่องการรณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร รวมถึงการสร้างพรรค และบริหารพรรคให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อเป็นหลักยืนให้ประชาชนในอนาคต  

เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาเป็นส.ส. ได้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า มีโอกาสได้กลับมา การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ไม่ได้เป็นสมรภูมิเดียว พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง เรายังต้องผ่านการเลือกตั้งอีกมากมาย และที่สำคัญ ตนยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลเรื่องการยุบพรรค และอย่าไปกังวลกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เพราะเรามีงานที่จะต้องทำอีกมากมาย สนใจกับงานที่เป็นผลประโยชน์กับประชาชน และให้ประชาชนตัดสินเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเป็นธรรมหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้า

4 ส.ค. – สมาคมดาราศาสตร์ไทยแจงปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้าหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. (วันที่ 4 ส.ค.) สมาคมดาราศาสตร์ไทยได้แจ้งว่า เกิดลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากตรวจสอบน่าจะเป็น ดาวตกชนิดลูกไฟ (meteoroid) โดยลักษณะที่ปรากฏเป็นแสงสีเขียว อาจบ่งบอกถึงองค์ประกอบของธาตุนิกเกิล โดยทั่วไปแล้ว ดาวตก (Meteor) เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและเสียดสีกับอากาศที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร ทำให้เกิดแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่เท่าใด ปริมาณความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ดาวตกในครั้งนี้มีขนาดใหญ่และมีความสว่างมากเป็นพิเศษ ความสว่างของมันใกล้เคียงกับดาวศุกร์ ทำให้ถูกจัดเป็นดาวตกชนิด #ลูกไฟ (Fireball) อย่างชัดเจน ส่วนการปรากฏของแสงสีเขียว สามารถตีความได้ว่าดาวตกนี้มีส่วนประกอบของธาตุโลหะอย่างนิกเกิล.-สำนักข่าวไทย