ธนาธรโต้ศาล รธน.ย้ำยังเป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ

ศาลรัฐธรรมนูญ 20 พ.ย. – “ธนาธร” ระบุคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งอยู่บนข้อสันนิษฐานของศาลมากกว่าข้อเท็จจริง เป็นธรรมหรือไม่ให้ประชาชนตัดสินใจเอง ยันยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  แถลงภายหลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีมติให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาให้กำลังใจในวันนี้  พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างสุจริตใจ โดยเห็นว่า ศาลได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของตน  3  ข้อ ว่า 1.ประเด็นใบอนุญาตการพิมพ์ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อ้างถึงพ.ร.บ.การพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ว่า บริษัทของตนยังไม่ได้แจ้งยกเลิก ดังนั้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จะทำสื่ออีกครั้งเมื่อไรก็ได้โดยศาลยอมรับไปแล้วว่า บริษัทวี-ลัคไม่มีรายได้แล้ว ในความเห็นของตน ถ้าบริษัทวี-ลัค ยังเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ก็ควรไปตัดสินตอนนั้น ทำไมมาตัดสินตอนนี้ ทั้งที่ศาลยอมรับว่าบริษัทนี้ไม่มีรายได้ ไม่มีพนักงานและปิดตัวลงตั้งแต่ 26 พ.ย.61 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ข้อ 2 ศาลพูดถึงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ว่าไม่ให้นักการเมืองให้คุณกับตัวเอง ให้โทษกับผู้อื่น แต่ศาลไม่ได้พูดเลยว่าตนหรือบริษัทวี-ลัค กระทำผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอย่างไร ข้อ 3 เรื่องการจดแจ้ง บอจ.5 กับกระทรวงพาณิชย์ ตามกฎหมายจะแจ้งเมื่อไรก็ได้ภายใน 1 ปี การแจ้งช้าหรือเร็วไม่ใช่การกระทำผิด โดยบริษัทวี-ลัคในวันนี้ไม่มีพนักงานแล้ว เอางานไปฝากกับบริษัทอื่น การยื่นบอจ. 5 ช้า ไม่ได้มีครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ที่ผ่านมาก็เคยมี ที่สำคัญคือหลังการประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง มักจะยื่นบอจ. 5 ในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเป็นหลักปฏิบัติในทุกครั้ง  


“ประเด็นที่  3 กรณีการนำเช็คค่าหุ้นไปขึ้นเงินของนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนางรวิพรรณชี้แจงชัดเจนแล้วว่า นางรวิพรรณจะเป็นคนโอนเช็คให้กับตน วันนั้นลูกยังอ่อน ศาลบอกว่าสามารถให้คนอื่นไปแทนได้ แต่นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว ผมจะให้ใครเป็นก็เป็นเรื่องของผม ที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติของผม ให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการทุกครั้ง ไม่เคยให้คนอื่นไป เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวผม เราเอาเช็คตัวจริงไปให้กกต.ดูด้วย เพราะเมื่อภรรยารู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น จึงไม่กล้าเอาเช็คไปขึ้นเงิน เก็บเช็คไว้กับตัว การที่ผมต้องเข้าไปให้การในชั้นกกต.  ในวันที่ 30 เม.ย. และให้ทนายความของพรรคไปยื่นให้กกต.ดูด้วย เราแสดงเช็คตัวนี้ให้เจ้าหน้าที่ กกต.ดู แต่เราส่งแค่สำเนาเช็คแนบคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่กกต.เห็นเช็คจริงในวันที่ 30 เม.ย. นั่นคือเหตุผลที่นำเช็คไปขึ้นเงินช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่กกต.ก็ไม่ได้โต้แย้งเรื่องนี้แสดงว่าเขาเห็นเช็ค” นายธนาธร กล่าว 

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ไม่มีตุลาการคนใดเป็นนักธุรกิจเลย ซึ่งเรื่องการลงทุนในธุรกิจเป็นเรื่องของรสนิยม ซึ่งนักธุรกิจจะมีรสนิยมในการลงทุนต่างกัน โครงการไหนน่าลงทุนหรือไม่น่าลงทุน มีความรักชอบในความเสี่ยงต่างกัน แบกรับการขาดทุนของตลาดต่างกัน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน 100 คน มาตัดสินใจเรื่องการลงทุนก็จะตัดสินใจต่างกัน จะใช้มาตรฐานศาลมาตัดสินนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ควรจะตัดสินใจลงทุนหรือไม่ ในเรื่องใดคงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องรสนิยมความชอบในความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การที่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา โอนหุ้นให้นายทวี จรุงสถิตย์พงศ์ และมีการโอนคืนข้อเท็จจริงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของการโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ไปด้วยตัวมันเองแล้ว 

“ดังนั้นเหตุผลที่ศาลยกขึ้นมาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผมสิ้นสุดลง ล้วนเป็นข้อสันนิษฐานไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มาหักล้างเอกสารหลักฐานที่เรานำเสนอ ศาลให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏเป็นเอกสารหลายข้อ แต่ศาลกลับให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่า” นายธนาธร กล่าว


หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตข้อสุดท้ายว่าการอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ไม่มีการออกมติขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากการวินิจฉัยคดีอื่นๆ ของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ตนอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง  การเดินทางไม่ได้สิ้นสุดลง ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  พรรคอนาคตใหม่คือผู้คนที่สนับสนุน มีความฝันตั้งใจเหมือนกัน  และจะเดินร่วมกันต่อไป 

นายธนาธร กล่าวว่า  เรื่องความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจเองดีที่สุด ลองฟังคำแถลงความคิดเห็นของตนวันนี้ และฟังคำที่ศาลรัฐธรรมนูญแถลง แล้วให้ประชาชนตัดสินใจเองดีกว่า สำหรับอนาคตทางการเมือง ตนจะยังคงทำงานต่อไปในฐานะหัวหน้าพรรค ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากมาย ทั้งเรื่องการรณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร รวมถึงการสร้างพรรค และบริหารพรรคให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อเป็นหลักยืนให้ประชาชนในอนาคต  

เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาเป็นส.ส. ได้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า มีโอกาสได้กลับมา การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ไม่ได้เป็นสมรภูมิเดียว พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง เรายังต้องผ่านการเลือกตั้งอีกมากมาย และที่สำคัญ ตนยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลเรื่องการยุบพรรค และอย่าไปกังวลกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เพราะเรามีงานที่จะต้องทำอีกมากมาย สนใจกับงานที่เป็นผลประโยชน์กับประชาชน และให้ประชาชนตัดสินเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเป็นธรรมหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่