“จุรินทร์” โชว์ขายสินค้าไทย 2 ประเทศ เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท

เยอรมนี 18 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มนำทัพเจรจาขายสินค้าตุรกี-เยอรมนี เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจแก้ไขอุปสรรคเพิ่มยอดอนาคตสินค้าไทยได้อีกมาก


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเยือนเยอรมนีและเป็นประธานและสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างนักธุรกิจไทยและเยอรมนี (ข้าวและเครื่องดื่ม) ณ โรงแรม Hyatt Regency Dusseldorf ผู้ส่งออกไทย บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ จำกัด กับ บริษัท Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG และผู้ส่งออกไทย บริษัท Boonrawd Trading International Co.,Ltd กับบริษัท  Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และภาคเอกชนมาเยือนประเทศเยอรมนีมีกิจกรรมหลัก 3 เรื่อง คือ 1.กยท.และภาคเอกชนเจรจาขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง 2.พระเอกชนมาร่วมงานเมดิก้า Mecida 2019 ซึ่งเป็นงานที่เยอรมนีจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับการแพทย์และการดูแลสุขภาพใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันมาหลายปี และ 3. กยท.นำภาคเอกชนไทยและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปส่งเสริมการขายสินค้าไทยในห้างค้าส่งรายใหญ่ของเยอรมนี คือ ห้าง METRO ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศใน 760 สาขาด้วยกัน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ คือ สินค้าอาหาร อาหารสำเร็จรูป สำหรับการนำ กยท.และภาคเอกชนมาขายสินค้าทางการเกษตรนั้น ปรากฏวันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ในการขายข้าวถุงและขายข้าวสารถุง 6,000 ตัน ให้กับภาคเอกชนของเยอรมนี มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท และขายเครื่องดื่มให้กับภาคเอกชนประมาณ 40 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ยางสามารถทำยอดขายรวมกันเป็นถุงมือยางเพื่อการแพทย์ประมาณ 2,000 ล้านบาท  และสินค้าอื่น ๆ ในงาน MEDICA คาดการณ์ว่าจะทำยอดปีนี้ที่มาร่วมงานประมาณ 150 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดเป็น 2,400 ล้านบาท  

สำหรับงาน MEDICA มีภาคเอกชนไทยร่วมงานทั้งหมด 16 บริษัท สินค้าที่นำมาเจรจา ประกอบด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือทางด้านการดูแลสุขภาพการกายภาพบำบัด อุปกรณ์ที่ใช้ในกระดูก อุปกรณ์ไฟฟ้าทางการแพทย์และของที่ใช้แล้วทิ้งทางการแพทย์ เป็นต้น ถือว่าเป็นตลาดใหม่ เพราะ กยท.มีการนัดผู้นำเข้าของเยอรมนีเจรจา เชื่อว่าจะสามารถขายยางได้มาก


สำหรับการเปิดตลาดในเยอรมนีและสหภาพยุโรป (อียู) นั้น ได้มีการเตรียมการบุกตลาดอียูหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเริ่มต้นที่จะทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียู ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเริ่มต้นแล้วและถ้าการเจรจามีความคืบหน้าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะจะมีผลช่วยให้การค้าระหว่างอียูกับไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และไทยได้รับสิทธิ์ในการส่งสินค้าบางอย่างที่ยังมีกำแพงภาษีจากอียู ทำให้สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันในเรื่องภาษีนำเข้าบางตัว เช่น ถุงมือยางเพื่อการแพทย์สำหรับตลาดอียู รวมทั้งเยอรมนีประเทศไทยต้องเสียภาษีนำเข้า 2.3% ขณะที่คู่แข่งสำคัญ คือ มาเลเซียไม่ต้องเสียภาษีเพราะได้สิทธิ์จีเอสพี ซึ่งจะได้ไปจนถึงปีหน้า ถ้าสามารถที่จะทำเอฟทีเอร่วมกันภาษีก็จะเป็นศูนย์ ทำให้สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ คือ สิ่งที่ต้องเร่งรัดเอฟพีเอไทยกับอียู นอกจากนี้ สินค้าที่จะส่งไปอียูต้องเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานสูง เช่น มีเงื่อนไขด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อมมาตรฐานอียูและ food safety เป็นต้น

“ผู้ที่จะส่งสินค้ามาอียูต้องได้มาตรฐานและเป็นไปตามเงื่อนไข มั่นใจว่าไทยพัฒนาไปเยอะมากเรื่องการขายเหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดบางเรื่อง แต่สามารถจะบรรลุเงื่อนไขเหล่านี้ได้ เพื่อให้เข้ามาแข่งขันได้ สำหรับตลาดที่ตั้งเป้าจะเข้ามาขยายในเยอรมนีกับอียู คือ ผลิตภัณฑ์ยางและข้าว โดยเฉพาะข้าวออแกนิกซ์ ซึ่งเป็นที่นิยมและไบโอพลาสติก อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เช่นไก่แช่แข็ง เป็นต้น รวมทั้ง startup ซึ่งไทยมีศักยภาพ เช่น อนิเมชั่นภาพยนตร์สามารถที่จะมาทำความร่วมมือกับเยอรมนี อียู เพื่อเป็นแหล่งผลิตอนิเมชั่นบางส่วนให้กับเขาได้ และที่สำคัญ คือ ธุรกิจบริการร้านอาหารไทย สปา ก็เป็นธุรกิจบริการที่มีอนาคตสำหรับประเทศไทยในตลาดเยอรมนีและตลาดอียู รวมทั้งการที่จะต้องนำภาคเอกชนมาร่วมงานแสดงสินค้าหลายภาคส่วนทั้งการแพทย์อาหารอื่น ๆ ที่จัดเป็นประจำทุกปีนำผู้นำเข้าจากทั่วโลกมาที่นี่” นายจุรินทร์ กล่าว 

ทั้งนี้ ทำให้ยอดขายมีความชัดเจน 2,400 ล้านบาท พร้อมปูทางในอนาคต เช่น กยท.วันนี้นัดผู้นำเข้ารายใหญ่ 2 ราย ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบ เพื่อการเกษตรข้าว มันสำปะหลัง ยางพารารวมทั้งอาหารถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะเป็นเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ถ้ามียอดส่งออกมากก็จะมีผลไปถึงเกษตรกรที่อยู่ในระดับฐานรากด้วย จึงเป็นเป้าหมายสำคัญและปัจจุบันทำแล้วบางส่วนอนาคตต้องให้ความสำคัญยิ่งขึ้น คือ การเพิ่มมูลค่าจะไม่เน้นเฉพาะการส่งยางดิบในรูปของยางแผ่นรมควันหรือยางแท่งเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญที่เป็นนโยบายจากนี้ไปต้องช่วยกันทุกวิถีทาง คือ ผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปที่มีการเพิ่มมูลราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถุงมือยางเพื่อการแพทย์ยังมีตลาดในโลกที่ใหญ่มาก ถ้าแก้ปัญหาเรื่องภาษีนำเข้าของประเทศนั้นให้เท่าเทียมกับคู่แข่งเราได้ก็จะมีอนาคตและทำตัวเลขนำเข้าประเทศได้มาก รวมทั้งหมอนยางพารา ถือว่ามีอนาคตและมีมูลค่าเพิ่มสูงมากและมีตลาดหลายประเทศจะสามารถไปทำตลาดได้ทั้งในส่วนของตลาดยุโรป โดยเฉพาะตลาดจีนเป็นที่นิยมมากคิดว่าในอนาคตอันใกล้ต้องไปบุกจีนอีกรอบ เพื่อทำตลาดหมอยางพารา โดยเฉพาะคิดว่าคนจีนมีมากคนละใบก็จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถขายได้อีกมาก บอกอยากได้เป็นนับไม่ถ้วนมาตุรกีเที่ยวนี้ 20 ล้านใบที่ทำ MOU ไป ดังนั้น ถือว่าการนำนักธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐเดินทางเยือน 2 ประเทศนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศเกือบ 18,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในอนาคตยอดการค้าของทั้ง 2 ประเทศจะเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]