“จุรินทร์” โชว์ขายสินค้าไทย 2 ประเทศ เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท

เยอรมนี 18 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มนำทัพเจรจาขายสินค้าตุรกี-เยอรมนี เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจแก้ไขอุปสรรคเพิ่มยอดอนาคตสินค้าไทยได้อีกมาก


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเยือนเยอรมนีและเป็นประธานและสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างนักธุรกิจไทยและเยอรมนี (ข้าวและเครื่องดื่ม) ณ โรงแรม Hyatt Regency Dusseldorf ผู้ส่งออกไทย บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ จำกัด กับ บริษัท Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG และผู้ส่งออกไทย บริษัท Boonrawd Trading International Co.,Ltd กับบริษัท  Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และภาคเอกชนมาเยือนประเทศเยอรมนีมีกิจกรรมหลัก 3 เรื่อง คือ 1.กยท.และภาคเอกชนเจรจาขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง 2.พระเอกชนมาร่วมงานเมดิก้า Mecida 2019 ซึ่งเป็นงานที่เยอรมนีจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับการแพทย์และการดูแลสุขภาพใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันมาหลายปี และ 3. กยท.นำภาคเอกชนไทยและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปส่งเสริมการขายสินค้าไทยในห้างค้าส่งรายใหญ่ของเยอรมนี คือ ห้าง METRO ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศใน 760 สาขาด้วยกัน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ คือ สินค้าอาหาร อาหารสำเร็จรูป สำหรับการนำ กยท.และภาคเอกชนมาขายสินค้าทางการเกษตรนั้น ปรากฏวันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ในการขายข้าวถุงและขายข้าวสารถุง 6,000 ตัน ให้กับภาคเอกชนของเยอรมนี มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท และขายเครื่องดื่มให้กับภาคเอกชนประมาณ 40 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ยางสามารถทำยอดขายรวมกันเป็นถุงมือยางเพื่อการแพทย์ประมาณ 2,000 ล้านบาท  และสินค้าอื่น ๆ ในงาน MEDICA คาดการณ์ว่าจะทำยอดปีนี้ที่มาร่วมงานประมาณ 150 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดเป็น 2,400 ล้านบาท  

สำหรับงาน MEDICA มีภาคเอกชนไทยร่วมงานทั้งหมด 16 บริษัท สินค้าที่นำมาเจรจา ประกอบด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือทางด้านการดูแลสุขภาพการกายภาพบำบัด อุปกรณ์ที่ใช้ในกระดูก อุปกรณ์ไฟฟ้าทางการแพทย์และของที่ใช้แล้วทิ้งทางการแพทย์ เป็นต้น ถือว่าเป็นตลาดใหม่ เพราะ กยท.มีการนัดผู้นำเข้าของเยอรมนีเจรจา เชื่อว่าจะสามารถขายยางได้มาก


สำหรับการเปิดตลาดในเยอรมนีและสหภาพยุโรป (อียู) นั้น ได้มีการเตรียมการบุกตลาดอียูหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเริ่มต้นที่จะทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียู ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเริ่มต้นแล้วและถ้าการเจรจามีความคืบหน้าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะจะมีผลช่วยให้การค้าระหว่างอียูกับไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และไทยได้รับสิทธิ์ในการส่งสินค้าบางอย่างที่ยังมีกำแพงภาษีจากอียู ทำให้สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันในเรื่องภาษีนำเข้าบางตัว เช่น ถุงมือยางเพื่อการแพทย์สำหรับตลาดอียู รวมทั้งเยอรมนีประเทศไทยต้องเสียภาษีนำเข้า 2.3% ขณะที่คู่แข่งสำคัญ คือ มาเลเซียไม่ต้องเสียภาษีเพราะได้สิทธิ์จีเอสพี ซึ่งจะได้ไปจนถึงปีหน้า ถ้าสามารถที่จะทำเอฟทีเอร่วมกันภาษีก็จะเป็นศูนย์ ทำให้สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ คือ สิ่งที่ต้องเร่งรัดเอฟพีเอไทยกับอียู นอกจากนี้ สินค้าที่จะส่งไปอียูต้องเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานสูง เช่น มีเงื่อนไขด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อมมาตรฐานอียูและ food safety เป็นต้น

“ผู้ที่จะส่งสินค้ามาอียูต้องได้มาตรฐานและเป็นไปตามเงื่อนไข มั่นใจว่าไทยพัฒนาไปเยอะมากเรื่องการขายเหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดบางเรื่อง แต่สามารถจะบรรลุเงื่อนไขเหล่านี้ได้ เพื่อให้เข้ามาแข่งขันได้ สำหรับตลาดที่ตั้งเป้าจะเข้ามาขยายในเยอรมนีกับอียู คือ ผลิตภัณฑ์ยางและข้าว โดยเฉพาะข้าวออแกนิกซ์ ซึ่งเป็นที่นิยมและไบโอพลาสติก อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เช่นไก่แช่แข็ง เป็นต้น รวมทั้ง startup ซึ่งไทยมีศักยภาพ เช่น อนิเมชั่นภาพยนตร์สามารถที่จะมาทำความร่วมมือกับเยอรมนี อียู เพื่อเป็นแหล่งผลิตอนิเมชั่นบางส่วนให้กับเขาได้ และที่สำคัญ คือ ธุรกิจบริการร้านอาหารไทย สปา ก็เป็นธุรกิจบริการที่มีอนาคตสำหรับประเทศไทยในตลาดเยอรมนีและตลาดอียู รวมทั้งการที่จะต้องนำภาคเอกชนมาร่วมงานแสดงสินค้าหลายภาคส่วนทั้งการแพทย์อาหารอื่น ๆ ที่จัดเป็นประจำทุกปีนำผู้นำเข้าจากทั่วโลกมาที่นี่” นายจุรินทร์ กล่าว 

ทั้งนี้ ทำให้ยอดขายมีความชัดเจน 2,400 ล้านบาท พร้อมปูทางในอนาคต เช่น กยท.วันนี้นัดผู้นำเข้ารายใหญ่ 2 ราย ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบ เพื่อการเกษตรข้าว มันสำปะหลัง ยางพารารวมทั้งอาหารถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะเป็นเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ถ้ามียอดส่งออกมากก็จะมีผลไปถึงเกษตรกรที่อยู่ในระดับฐานรากด้วย จึงเป็นเป้าหมายสำคัญและปัจจุบันทำแล้วบางส่วนอนาคตต้องให้ความสำคัญยิ่งขึ้น คือ การเพิ่มมูลค่าจะไม่เน้นเฉพาะการส่งยางดิบในรูปของยางแผ่นรมควันหรือยางแท่งเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญที่เป็นนโยบายจากนี้ไปต้องช่วยกันทุกวิถีทาง คือ ผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปที่มีการเพิ่มมูลราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถุงมือยางเพื่อการแพทย์ยังมีตลาดในโลกที่ใหญ่มาก ถ้าแก้ปัญหาเรื่องภาษีนำเข้าของประเทศนั้นให้เท่าเทียมกับคู่แข่งเราได้ก็จะมีอนาคตและทำตัวเลขนำเข้าประเทศได้มาก รวมทั้งหมอนยางพารา ถือว่ามีอนาคตและมีมูลค่าเพิ่มสูงมากและมีตลาดหลายประเทศจะสามารถไปทำตลาดได้ทั้งในส่วนของตลาดยุโรป โดยเฉพาะตลาดจีนเป็นที่นิยมมากคิดว่าในอนาคตอันใกล้ต้องไปบุกจีนอีกรอบ เพื่อทำตลาดหมอยางพารา โดยเฉพาะคิดว่าคนจีนมีมากคนละใบก็จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถขายได้อีกมาก บอกอยากได้เป็นนับไม่ถ้วนมาตุรกีเที่ยวนี้ 20 ล้านใบที่ทำ MOU ไป ดังนั้น ถือว่าการนำนักธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐเดินทางเยือน 2 ประเทศนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศเกือบ 18,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในอนาคตยอดการค้าของทั้ง 2 ประเทศจะเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.