“จุรินทร์” โชว์ขายสินค้าไทย 2 ประเทศ เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท

เยอรมนี 18 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มนำทัพเจรจาขายสินค้าตุรกี-เยอรมนี เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจแก้ไขอุปสรรคเพิ่มยอดอนาคตสินค้าไทยได้อีกมาก


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเยือนเยอรมนีและเป็นประธานและสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างนักธุรกิจไทยและเยอรมนี (ข้าวและเครื่องดื่ม) ณ โรงแรม Hyatt Regency Dusseldorf ผู้ส่งออกไทย บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ จำกัด กับ บริษัท Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG และผู้ส่งออกไทย บริษัท Boonrawd Trading International Co.,Ltd กับบริษัท  Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และภาคเอกชนมาเยือนประเทศเยอรมนีมีกิจกรรมหลัก 3 เรื่อง คือ 1.กยท.และภาคเอกชนเจรจาขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง 2.พระเอกชนมาร่วมงานเมดิก้า Mecida 2019 ซึ่งเป็นงานที่เยอรมนีจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับการแพทย์และการดูแลสุขภาพใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันมาหลายปี และ 3. กยท.นำภาคเอกชนไทยและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปส่งเสริมการขายสินค้าไทยในห้างค้าส่งรายใหญ่ของเยอรมนี คือ ห้าง METRO ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศใน 760 สาขาด้วยกัน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ คือ สินค้าอาหาร อาหารสำเร็จรูป สำหรับการนำ กยท.และภาคเอกชนมาขายสินค้าทางการเกษตรนั้น ปรากฏวันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ในการขายข้าวถุงและขายข้าวสารถุง 6,000 ตัน ให้กับภาคเอกชนของเยอรมนี มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท และขายเครื่องดื่มให้กับภาคเอกชนประมาณ 40 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ยางสามารถทำยอดขายรวมกันเป็นถุงมือยางเพื่อการแพทย์ประมาณ 2,000 ล้านบาท  และสินค้าอื่น ๆ ในงาน MEDICA คาดการณ์ว่าจะทำยอดปีนี้ที่มาร่วมงานประมาณ 150 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดเป็น 2,400 ล้านบาท  

สำหรับงาน MEDICA มีภาคเอกชนไทยร่วมงานทั้งหมด 16 บริษัท สินค้าที่นำมาเจรจา ประกอบด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือทางด้านการดูแลสุขภาพการกายภาพบำบัด อุปกรณ์ที่ใช้ในกระดูก อุปกรณ์ไฟฟ้าทางการแพทย์และของที่ใช้แล้วทิ้งทางการแพทย์ เป็นต้น ถือว่าเป็นตลาดใหม่ เพราะ กยท.มีการนัดผู้นำเข้าของเยอรมนีเจรจา เชื่อว่าจะสามารถขายยางได้มาก


สำหรับการเปิดตลาดในเยอรมนีและสหภาพยุโรป (อียู) นั้น ได้มีการเตรียมการบุกตลาดอียูหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเริ่มต้นที่จะทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียู ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเริ่มต้นแล้วและถ้าการเจรจามีความคืบหน้าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะจะมีผลช่วยให้การค้าระหว่างอียูกับไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และไทยได้รับสิทธิ์ในการส่งสินค้าบางอย่างที่ยังมีกำแพงภาษีจากอียู ทำให้สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันในเรื่องภาษีนำเข้าบางตัว เช่น ถุงมือยางเพื่อการแพทย์สำหรับตลาดอียู รวมทั้งเยอรมนีประเทศไทยต้องเสียภาษีนำเข้า 2.3% ขณะที่คู่แข่งสำคัญ คือ มาเลเซียไม่ต้องเสียภาษีเพราะได้สิทธิ์จีเอสพี ซึ่งจะได้ไปจนถึงปีหน้า ถ้าสามารถที่จะทำเอฟทีเอร่วมกันภาษีก็จะเป็นศูนย์ ทำให้สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ คือ สิ่งที่ต้องเร่งรัดเอฟพีเอไทยกับอียู นอกจากนี้ สินค้าที่จะส่งไปอียูต้องเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานสูง เช่น มีเงื่อนไขด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อมมาตรฐานอียูและ food safety เป็นต้น

“ผู้ที่จะส่งสินค้ามาอียูต้องได้มาตรฐานและเป็นไปตามเงื่อนไข มั่นใจว่าไทยพัฒนาไปเยอะมากเรื่องการขายเหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดบางเรื่อง แต่สามารถจะบรรลุเงื่อนไขเหล่านี้ได้ เพื่อให้เข้ามาแข่งขันได้ สำหรับตลาดที่ตั้งเป้าจะเข้ามาขยายในเยอรมนีกับอียู คือ ผลิตภัณฑ์ยางและข้าว โดยเฉพาะข้าวออแกนิกซ์ ซึ่งเป็นที่นิยมและไบโอพลาสติก อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เช่นไก่แช่แข็ง เป็นต้น รวมทั้ง startup ซึ่งไทยมีศักยภาพ เช่น อนิเมชั่นภาพยนตร์สามารถที่จะมาทำความร่วมมือกับเยอรมนี อียู เพื่อเป็นแหล่งผลิตอนิเมชั่นบางส่วนให้กับเขาได้ และที่สำคัญ คือ ธุรกิจบริการร้านอาหารไทย สปา ก็เป็นธุรกิจบริการที่มีอนาคตสำหรับประเทศไทยในตลาดเยอรมนีและตลาดอียู รวมทั้งการที่จะต้องนำภาคเอกชนมาร่วมงานแสดงสินค้าหลายภาคส่วนทั้งการแพทย์อาหารอื่น ๆ ที่จัดเป็นประจำทุกปีนำผู้นำเข้าจากทั่วโลกมาที่นี่” นายจุรินทร์ กล่าว 

ทั้งนี้ ทำให้ยอดขายมีความชัดเจน 2,400 ล้านบาท พร้อมปูทางในอนาคต เช่น กยท.วันนี้นัดผู้นำเข้ารายใหญ่ 2 ราย ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบ เพื่อการเกษตรข้าว มันสำปะหลัง ยางพารารวมทั้งอาหารถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะเป็นเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ถ้ามียอดส่งออกมากก็จะมีผลไปถึงเกษตรกรที่อยู่ในระดับฐานรากด้วย จึงเป็นเป้าหมายสำคัญและปัจจุบันทำแล้วบางส่วนอนาคตต้องให้ความสำคัญยิ่งขึ้น คือ การเพิ่มมูลค่าจะไม่เน้นเฉพาะการส่งยางดิบในรูปของยางแผ่นรมควันหรือยางแท่งเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญที่เป็นนโยบายจากนี้ไปต้องช่วยกันทุกวิถีทาง คือ ผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปที่มีการเพิ่มมูลราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถุงมือยางเพื่อการแพทย์ยังมีตลาดในโลกที่ใหญ่มาก ถ้าแก้ปัญหาเรื่องภาษีนำเข้าของประเทศนั้นให้เท่าเทียมกับคู่แข่งเราได้ก็จะมีอนาคตและทำตัวเลขนำเข้าประเทศได้มาก รวมทั้งหมอนยางพารา ถือว่ามีอนาคตและมีมูลค่าเพิ่มสูงมากและมีตลาดหลายประเทศจะสามารถไปทำตลาดได้ทั้งในส่วนของตลาดยุโรป โดยเฉพาะตลาดจีนเป็นที่นิยมมากคิดว่าในอนาคตอันใกล้ต้องไปบุกจีนอีกรอบ เพื่อทำตลาดหมอยางพารา โดยเฉพาะคิดว่าคนจีนมีมากคนละใบก็จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถขายได้อีกมาก บอกอยากได้เป็นนับไม่ถ้วนมาตุรกีเที่ยวนี้ 20 ล้านใบที่ทำ MOU ไป ดังนั้น ถือว่าการนำนักธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐเดินทางเยือน 2 ประเทศนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศเกือบ 18,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในอนาคตยอดการค้าของทั้ง 2 ประเทศจะเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จำเลยคดี “น้องเมย”

22 ก.ค. – 8 ปีที่รอคอย “คดีน้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารปี 1 เสียชีวิต ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษ ลงโทษไปไม่เป็นประโยชน์ ให้ปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า คดี “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ใบมรณบัตรระบุเพียงว่าเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มแล้วเฉียบพลัน” ขณะที่คนในครอบครัวตัญกาญจน์ ยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดปกติ จนนำมาสู่การส่งร่างผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังผลการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สร้างความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างมาก กระทั่งผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 พบว่าสมอง ปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ด้วยหวังที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องเมย ด้านการดำเนินคดีอาญานั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วงแรก คือวันที่ 23 […]

“แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วม เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ ปชช.-สถาบัน

พญาไท 22 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณตลอด 1 ปี หนุนในฐานะนายกฯ มั่นใจเอกภาพรัฐบาลผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ บอกแม้ไม่ได้อยู่ในฐานะนายกฯ แต่ไม่เคยวางภาระสักวัน ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน – สถาบัน พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.และข้าราชการการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยง ได้มีการจัดโต๊ะอาหาร โดยแบ่งเป็นโต๊ะยาว หรือ Long Tableขนาดใหญ่สำหรับรัฐมนตรี นั่งร่วมกับบรรดาหัวหน้าและแกนนำระดับสูงพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลือเป็นโต๊ะกลมสำหรับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งร่วมโต๊ะกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

จ.น่าน เมืองหน้าด่าน พร้อมรับ “พายุวิภา”

น่าน 22 ก.ค. – พายุวิภาเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เคลื่อนเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน เป็นเหมือนด่านหน้ารับพายุวิภา ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ กลางเมืองน่าน ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจากฤทธิ์ของพายุวิภาที่เคลื่อนตัวมาใกล้เรื่อยๆ หลังขึ้นฝั่งเวียดนามและเคลื่อนตัวเข้าลาว ซึ่ง จ.น่าน อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ไม่ถึง 400 กิโลเมตร และรัศมีของพายุจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ทำให้ชาวน่านต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ตอนนี้ตามบ้านเรือน อาคารร้านค้าในตัวเมืองน่าน เต็มไปด้วยแนวกระสอบทรายถูกวางไว้เพื่อกันน้ำท่วม ซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่าน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรกว่า ห่างจากจุดวิกฤติที่ 7 เมตร แต่ถ้ารวมพนังกั้นน้ำจะกันน้ำได้สูงสุด 8 เมตร 50 เซนติเมตร นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงที่น้ำจะทะลักเข้ามา พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากพายุวิภาทำให้ฝนตกครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.ท่าวังผา ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์กลาง คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่อง โดยจุดพีคน่าจะอยู่ช่วงคืนวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ […]

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “ทักษิณ” จ่อบรรยายพิเศษ

พญาไท 22 ก.ค.- เริ่มแล้ว ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” ร่วมวง เตรียมบรรยายพิเศษ เผยมาคุยเรื่องการเมือง ขณะแกนนำพรรคร่วมมางานพร้อมเพรียง พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ได้เชิญสส.ของแต่ละพรรคร่วมฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยในรัฐบาลของ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้จัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำ และสส. ของพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมบรรยายพิเศษ ด้วย ขณะที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. บรรดาแกนนำเพื่อไทย และสส.เดินทางเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง […]