กระทรวงกลาโหม 17 พ.ย.-นรม.และรมว.กห.
ต้อนรับการเยี่ยมคำนับ รมว.กห.ญี่ปุ่น และลงนามความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางทหารกัน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก
กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 17 พ.ย.62 : 0900 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และ รมว.กห.
ได้ให้การต้อนรับการเยี่ยมคำนับของ นายโคโนะ ทะโร ( KONO Toro ) รมว.กห.ญี่ปุ่น ณ ศาลาว่าการกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทย
เพื่อเข้าร่วมประชุม ADMM – Plus
ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ที่แน่นแฟ้นยาวนาน
และยินดีที่ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างกันมีความคืบหน้าไปมาก
พร้อมทั้งได้หารือร่วมกันถึงการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางทหารและความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันให้มากขึ้น
ผ่านกลไกทวิภาคีด้านการเมืองและความมั่นคงของสองประเทศ
พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า นายโคโนะ
ทะโร ได้กล่าวแสดงความชื่นชมถึงบทบาทนำของไทยในอาเซียน
โดยญี่ปุ่นยังคงมุ่งมั่นกระชับความสัมพันธ์กับไทยและอาเซียน
โดยเฉพาะความมั่นคงบนพื้นฐานความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างกัน
พร้อมทั้งเคารพมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ต้องการให้ปลอดขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์.
พล.อ.คงชีพ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์’ ขอบคุณ
ญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษามากขึ้น และย้ำว่า
ความมั่นคงของประเทศและภูมิภาค เป็นพื้นฐานของความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรม
โดยไทยพร้อมเป็นแกนกลางอาเซียนเข้าร่วมแก้ปัญหาต่างๆของภูมิภาค
และพร้อมให้การสนับสนุนญี่ปุ่น
เข้ามามีบทบาทความมั่นคงที่สร้างสรรค์และยั่งยืนในภูมิภาคมากขึ้น
พร้อมเชิญชวนญี่ปุ่นแสวงหาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
และร่วมลงทุนเพื่อความร่วมมือในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นได้ร่วมลงนาม
ในบันทึกข้อตกลงระหว่าง กห.กับ กห.ญี่ปุ่น
ว่าด้วยความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหาร
ซึ่งจะเป็นกรอบของการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหารร่วมกันด้านต่างๆ
เช่น การแลกเปลี่ยน ทั้งการเยือน ข่าวสารทางทหาร มุมมอง
ความรู้และความสนใจร่วมกันในหลายระดับ
ความร่วมมือด้านการฝึกร่วม ด้านการศึกษาและวิจัย ด้านการส่งกำลังบำรุง
ด้านสิ่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางทหาร รวมถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ การลงนามร่วมกันระหว่าง กห.ไทย-ญี่ปุ่น
จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีด้านการทหารของทั้งสองประเทศ
ในการเสริมสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจ
รวมถึงการร่วมกันเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอื่น. สำนักข่าวไทย