fbpx

ศูนย์มาสด้ายอมออกรถใหม่ให้ลูกค้าแทนคันที่หายคาศูนย์บริการ

กทม. 15 พ.ย.-ศูนย์บริการมาสด้า ยอมชดใช้รถยนต์ใหม่ให้ลูกค้าแทนรถคันที่หายระหว่างเข้ารับบริการ ปัดบุคคลต้องสงสัยไม่ใช่พนักงาน ขณะที่ตำรวจตรวจเส้นทางที่คาดผู้ก่อเหตุจะหลบหนีแต่ยังไร้ร่องรอย  


ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บ๋อมแบ๋ม พรีเมียม” โพสต์ภาพยืนคู่กับรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียนป้ายแดง และภาพบุคคลต้องสงสัย พร้อมทั้งระบุว่า เอารถเข้าซ่อมในศูนย์ แต่เมื่อถึงเวลาครบกำหนด กลับอ้างว่ามีการนำรถไปทำสี แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า รถหายไปจากศูนย์บริการโดยทางศูนย์ไม่รู้ว่ารถหายไปไหน 


ช่วงสายที่ผ่านมา ศูนย์บริการและโชว์รูม บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด ถ.รามอินทรา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ผู้สื่อข่าวรายว่า น.ส. นันทวัน ภูพาดแร่ หรือบ๋อมแบ๋ม ผู้เสียหาย พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทประกันภัย ได้เดินทางมาที่ศูนย์บริการรถ เพื่อพูดคุยกับผู้จัดการศูนย์บริการ หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากพนักงานฝ่ายบริการหลังการขายว่าทางบริษัทยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายเปลี่ยนรถคันใหม่ให้แทนคันที่สูญหาย 

หลังการหารรือ น.ส.นันทวัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้มาพูดคุยหาข้อสรุปตามที่มีการโทรศัพท์ไปนัดหมายไว้ โดยบรรยากาศเป็นไปในทิศทางที่ดี ทางศูนย์บริการรถยินดีจะชดใช้ค่าเสียหาย เปลี่ยนรถคันใหม่ให้ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่ระหว่างนี้ขอดูรายละเอียดของเอกสารและข้อกฎหมายก่อน ทั้งเรื่องของการประกันความเสียหายจากรถยนต์ว่าจะรับผิดชอบกรณีการสูญหายบางส่วนได้มากน้อยแค่ไหน และการผ่อนชำระไฟแนนซ์รถที่ ตนดาวน์ไป 6 หมื่นบาท ผ่อนไปแล้ว 5 งวด ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการรปิดเล่มรถก่อนจะเปลี่ยนคันใหม่ให้ได้ ขณะเดียวกันได้สอบถามถึงบุคคลต้องส่งสัยในกล้องวงจรปิด ได้รับแจ้งว่าไม่ใช้พนักงานของศูนย์บริการ ทำให้ตนตั้งข้อสงสัยว่าถ้าไม่ใช้พนักงานแล้วเหตุใดจึงใส่ชุดคล้ายพนักงานและนำรถของลูกค้าออกไปจากศูนย์บริการได้ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะมาติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้อีกครั้ง ส่วนตัวหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นและได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊ค ได้คนจำนวนมากส่งข้อความมาเป็นกำลังใจให้ รรวมถึงแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้คดี ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก  


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามข้อมูลจากผู้จัดการศูนย์บริการ ที่ร่วมพูดคุยกับน.ส. นันทวัน กลับได้รรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับสื่อ

ขณะที่แนวทางการติดตามรถที่สูญหายของตำรวจ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก พบกับพนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งว่าได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำหลายปากแล้ว และให้สายสืบได้ออกหาข่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะนำรถหลบหนี  แต่เบื้องต้นยังไม่พบรถ  ขณะเดียวกันได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายได้ ไปให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบภาพใบหน้ากลับไม่พบประวัติอาชญกรรม จึงทำให้ยังไม่ทราบชื่อคนร้าย แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยเป็นพนักงานที่ทำงานในศูนย์บริการรถหรือมีญาติทำงานอยู่ โดยดูจากการแต่งกายชุดที่คล้ายกับพนักงานของบริษัท อีกทั้งยังรู้มุมกล้องในการหลบหลีกเป็นอย่างดี แต่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้จัดการว่าบุคคลในภาพวงจรปิดไม่ใช่พนักงานของศูนย์บริการรถ สำหรับประเด็นที่ตำรวจใช้ติดตามรถ ตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดคนร้ายจึงขโมยรถคันดังกล่าวทั้งที่ยังมีอีกหลายคันที่มีมูลค่าสูงกว่า ซึ่งเกือบทุกคันมีการเสียบกุญแจคารถไว้ รวมถึงสาเหตุที่พนักงานรักษาความปลอดภัยยอมปล่อยรถให้ออกจากศูนย์บริการโดยไม่ตรวจสอบเอกสารการรับรถ  

ด้านนายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และโฆษก สคบ. บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น สามารถมายื่นคำร้องที่สคบ.ให้ช่วยเหลือได้ โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าเหตุการณ์ลบักษณะดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่จะช่วยเหลือได้หรือไม่ ทั้งการเป็นผู้บริโภค การถูกจำกัดหรือละเมิดสิทธิ และเป็นเรื่องที่ส่งผลกรระทบผู้บริโภคส่วนร่วม แต่หากไม่เข้าข่ายผู้บริโภคสามารถยื่นคำร้องที่ศาลแผนกคดีผู้บริโภค ใช้กฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ซึ่งตามกฎหมายฉบับนี้ผู้บริโภคจะได้รับการช่วยเหลือทั้งทางคดีความและการจัดหาทนายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อผู้เสียหายในฐานะผู้บริโภค ส่งมอบรถให้อยู่ในการดูแลของศูนย์บริการมีเอกสารชัดเจน เท่ากับว่าศูนย์บริการนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่ตั้งใจหรือประมาทเลินเล่อโดยพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของศูนย์คนใดก็ตาม เว้นแต่เจ้าของรถจะเซ็นเอกสารนำรถออกจากศูนย์บริการแล้ว ส่วนระยะเวลาในการชดใช้เยียวยาขึ้นอยู่กับการตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย และต้องเยียวยาตามความเหมาะสม โดยเฉพาะค่าเสียประโยชน์ในการใช้รถ ที่จะต้องมีรถยนต์มาให้ใช้ไปพรางก่อนในช่วงนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ชาวเมียนมาหนีภัยข้ามมาฝั่งไทยต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เมียนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล พร้อมส่ง MiG-29 ถล่มฝ่ายต่อต้าน ทำประชาชนเมียนมาหนีภัย ข้ามมาฝั่งไทย ต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”