ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าเปิดให้บริการปี 63

กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – สมอ.และสถาบันยานยนต์ ประกาศพร้อมเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าไตรมาส 3 ปี 63  


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรรมยานยนต์ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยมุ่งสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมอ.ร่วมกับสถาบันยานยนต์เตรียมที่จะเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าไตรมาส 3 ปี 2563  ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท จะให้บริการทดสอบมาตรฐานและความปลอดภัยแบตเตอรี่ครบวงจรแห่งแรกในอาเซียนตามมาตรฐานระดับสากล UNECE R100 และ R136 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้านำแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำการทดสอบได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประหยัดเวลา ผู้ประกอบการไม่ต้องส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบยังต่างประเทศ นอกจากนี้ สถาบันยานยนต์ฯ ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาและฐานข้อมูล เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางเทคนิควิชาการ งานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง 

นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้าง ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ศูนย์การทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า การลงทุนก่อสร้างศูนย์ฯ เป็นไปตามแผนและระยะแรกเปิดให้บริการปีหน้าจะให้บริการทดสอบแบตเตอรี่ได้ทันที 5 จาก 9 รายการทดสอบ ตามมาตรฐานสากล UNECE R100 ได้แก่ ชุดทดสอบความแข็งแกร่งของโครงสร้างชุดแบตเตอรี่  ชุดทดสอบการลัดวงจร  ชุดทดสอบระบบป้องกันการชาร์จเกิน  ชุดทดสอบระบบดิสชาร์จเกิน  และชุดทดสอบการป้องกันอุณหภูมิเกิน 


สำหรับศูนย์ทดสอบแห่งนี้ คาดว่าจะให้บริการทดสอบครบทุกรายการภายในปี 2564 ทำให้เป็นศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถทำการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจรที่สุดในอาเซียน โดยห้องปฏิบัติการทดสอบนี้จะสามารถทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน UNECE R100  สำหรับยานยนต์  และ UNECE R136  สำหรับรถจักรยานยนต์  รวมถึงสามารถทดสอบ เพื่อการวิจัยและพัฒนาในการปรับปรุงสมรรถนะของแบตเตอรี่ระดับเซลล์  โมดูล  และระบบ ขณะนี้มีผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้แก่ ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมให้ผลิตยานยนต์สมัยใหม่ประเภท Hybrid 4 ราย  Plug-in Hybrid 4 ราย  ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 1 ราย และยังรอการอนุมัติจากบีโอไอ 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าเปิดทำการแล้วอีก 4 ราย จะช่วยผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้า ยกระดับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้นและผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยจากมาตรฐานการทดสอบที่กำหนดอย่างสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย