ขอนแก่น 13 พ.ย. – ตำรวจภูธรภาค 4 สั่งการทุกโรงพักจับตาพฤติกรรมขบวนการต้มตุ๋นทางสื่อออนไลน์ เพื่อเดินหน้าเอาผิดในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะผู้ว่าฯ ขอนแก่น ออกมาเตือนสติประชาชนว่า การลงทุนน้อยแล้วได้ผลตอบแทนมหาศาล เป็นไปไม่ได้
มิจฉาชีพคนขายโปรเงินบุญ เงินรากหญ้าในกลุ่มไลน์สแควร์ห้องต่างๆ ยังคงป้อนข้อมูลเท็จหลอกชาวบ้านไม่ให้หวั่นไหวข่าวการตรวจสอบจากสื่อมวลชน หวังให้อยู่เป็นสมาชิกซื้อโปรต่อ ลุ้นผลตอบแทนระดับล้านล้าน จากเงินลงทุนเพียงหลักร้อย หลักพัน หากเป็นจริงนั่นหมายถึง คนไทยหลายคนจะมั่งคั่งแซงหน้าเจพฟ์ เบซอส เจ้าของแอมะซอน หลายเท่าตัว ตกอันดับคนรวยที่สุดโนโลกทันที
เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ถูกแต่งแต้มส่งต่อกันในกลุ่มไลน์ทุกวันจนเชื่อฝังใจ โดยใช้ความศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือ และสร้างภาพว่ากลุ่มมิจฉาชีพคือนักบุญที่จะเข้ามาปลดเปลื้องหนี้สินให้คนรากหญ้า แม้จะเคยกล่าวอ้างว่าทุกสายมีเงินมหาศาลจากแหล่งเดียวกัน แต่การให้ข้อมูลสมาชิกหลายครั้งก็ขัดแย้ง ทั้งเงินมรดกจากต่างแดน เงินเทรด เงินดิจิทัล โครงการใหม่ UN เป็นต้น ทั้งหมดแอบอ้างนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ อยู่เบื้องหลังเงินบุญ พร้อมกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลหักเงินก้อนนี้เข้าหลวงร้อยละ 60
แก๊งเงินบุญมีการนัดจ่ายทุกสัปดาห์ และเลื่อนทุกครั้งมาตลอดหลายปี วันนี้อ้างเหตุระบบธนาคารธนชาตล่มทั่วประเทศ แต่จากการตรวจสอบไม่เป็นความจริง จึงมีสมาชิกบางส่วนบ่นในห้องไลน์ด้วยความไม่พอใจ พร้อมปรากฏข้อความอัดอั้นตันใจของผู้เดือดร้อนจากการหลงเชื่อเงินบุญอย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าฯ ขอนแก่น เป็นตัวแทนภาครัฐออกมาแจ้งเตือนว่า โครงการลักษณะนี้ไม่มีอยู่จริง ประชาชนควรไตร่ตรองให้หนัก ตั้งสติ ตรวจสอบข่าวจากส่วนราชการต่างๆ
ขณะที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 4 ซึ่งตั้งกองใหม่รับผิดชอบคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะ พร้อมเปิดรับข้อมูลเบาะแสแก๊งต้มตุ๋นออนไลน์ เพื่อกวาดล้างจับกุมในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง และเตรียมประสานไปยังทุกโรงพักในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนจับตาดูความเคลื่อนไหวของมิจฉาชีพกลุ่มนี้.- สำนักข่าวไทย