อุดรธานี 12 พ.ย. – ตำรวจภูธรภาค 4 สรุปการจับกุมคดีแชร์แม่มณีได้ผู้ต้องหารวม 8 คน ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 130 ล้านบาท
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ พ.ต.ท.บรรยวัสถ์ ไตรสุทธิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการดีเอสไอเขตพื้นที่ 4 ร่วมแถลงการจับกุมคดีแชร์แม่มณี พร้อมเครือข่ายและยึดทรัพย์ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หลอกให้ลงทุนออมเงินกับแม่มณีผ่านทาง Facebook ลักษณะแชร์ลูกโซ่ ผลตอบแทน 93% ต่อเดือน พร้อมเงินต้นมีผู้เสียหายในเขตพื้นที่ 457 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 221 ล้านบาท
โดยมีทรัพย์ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยเงินสด 17,500,000 บาท และอายัดบัญชี 15,800,000 บาท รถยนต์อีก 12 คัน บิ๊กไบค์ 1 คัน และอายัดทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งอาคารพาณิชย์ บ้านพร้อมที่ดิน ทองรูปพรรณ รวมกว่า 89 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์ที่ตรวจยึดได้กว่า 130,700,000 บาท ทั้งหมดเป็นของกลางที่ยึดได้เฉพาะในภาค 4 ขณะเดียวกันยังจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย ทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำอุดรธานี
ตำรวจยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ให้ไปแจ้งความและให้ปากคำที่ดีเอสไอภายในจังหวัด เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ไว้รักษาผลประโยชน์ของตนเอง เพราะหากคดีแล้วเสร็จ ศาลจะสั่งให้คืนทรัพย์ หากไม่แจ้งความไว้เป็นหลักฐานก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินในส่วนนั้น
ที่รัฐสภา กลุ่มเหยื่อแชร์ลูกโซ่แม่มณี แชร์โอดีแคปปิตอล และกลุ่มแชร์อื่นๆ กว่า 50 ราย ยื่นเรื่องต่อ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบ และเสริมสร้างธรรมมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อเสนอร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะแชร์ลูกโซ่ เพื่อตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่เป็นหน่วยงานของรัฐคุ้มครองประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาแชร์ลูกโซ่และแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนรวมทั้งเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดจากจำคุก 3-5 ปี เป็น 7-14 ปีด้วย ด้าน พล.ร.อ.ศิษฐวัชร กล่าวว่า จะรับเรื่องนี้ไปศึกษาควบคู่กับการศึกษาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป.- สำนักข่าวไทย