กทม.10 พ.ย.- ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เตรียมนำผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อ ผบช.ภ.3 เอาผิดขบวนการแอบอ้างเป็นตัวแทนสินค้าลิขสิทธิ์ เข้าล่อซื้อ รีดไถ่เงิน จากผู้ขายรายย่อย ที่ไม่รู้กฎหมาย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์สดทางเพจเฟสบุ๊ก ในหัวข้อ “ลุกขึ้นสู้กับการรีดไถ่ลิขสิทธิ์” พร้อมระบุ หากการจับกุม ขบวนการเป็น ผู้ต้องหารายใหญ่ ละเมิดลิขสิทธิ์ เห็นว่าเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะเป็นการทำผิดกฎหมาย แต่ปัจจบัน มีคนมาจัดตั้งบริษัท อ้างได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแม่ต่างประเทศ มาจับกุมลิขสิทธิ์การ์ตูนต่างๆ รีดไถ่จากชาวบ้าน คนขาย รายย่อย เยาวชน ที่ช่วยครอบครัวหาเงิน ที่ไม่รู้กฎหมาย เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะพวกเขา ไม่รู้ว่าสินค้าประเภทใดจำหน่ายได้หรือไม่ ตามตลาดต่างๆ ทั้ง สำเพ็ง โบ๊เบ๊ ก็มีขายเป็น จำนวนมาก และเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ จะต้องรวมตัวกันขึ้นมาต่อสู้ แจ้งความ ดำเนินคดี กับพวกแอบอ้าง รีดไถ่เงิน
โดยนายอัจฉริยะ ยังได้ยกตัวอย่าง กรณีที่หญิงผู้เสียหายทำงานเลี้ยงลูกพิการ ที่ จ. กำแพงเพชร ถูกขบวนการล่อซื้อ สินค้าลิขสิทธิ์ โดยสั่งให้ทำถุงใส่แก้วลายโดเรม่อน แต่ถูกจับกุม เรียกเงิน 3 หมื่น แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ที่ สภ.พรานกระต่าย โดยตำรวจไม่ได้มีการสอบปากคำลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันตัวแทนลิขสิทธิ์ก็ข่มขู่ทุกรูปแบบ จนหญิงคนดังกล่าวยอมจ่ายเงินให้ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี กรณีที่ร้านทำเล็บ รูปแมว ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 โดยตัวแทนลิขสิทธิ์ จับกุม แต่เมื่อมาถึง สภ.กลับไม่ใช่โดเรม่อน เป็นแมวธรรมดา เมื่อดำเนินคดีข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ ตัวแทนลิขสิทธิ์ ก็เปลี่ยนข้อหาเป็นละเมิด เครื่องหมายการค้า เมื่อเอาผิดไม่ได้อีก ก็เปลี่ยนเป็นข้อหา ไม่ติดสลาก โดยขบวนการดังกล่าว เป็นแก๊งอาสาตำรวจและอดีตนักข่าวนครบาล อยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) เวลา 10 นาฬิกา นายอัจฉริยะ จะนำผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ที่ถูกล่อซื้อ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดยนัดรวมพลกันที่ สภ.เมืองนครราชสีมา โดยผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อสามารถมารวมตัวได้ โดยจะมีการเอาผิด ขบวนการ นายประจักษ์ โพธิ์ผล ที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ และ นาย นัน กิ่งเพชร หรือ นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ ที่จับกุม เด็กหญิง วัย 15 ปี ที่ทำกระทงรูปการ์ตูน ใน จ.นครราชสีมา ในข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ แจ้งความเท็จ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
ส่วนในวันอังคาร (12 พ.ย.) เวลา 10 .00 น. จะนำผู้เสียหาย เข้าพบ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และขอให้ มีการตรวจสอบ การรีดไถ่ กรรโชกทรัพย์ จากกลุ่มคนอ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ ในพื้นที่ สน. พญาไท / สน.บางซื่อ โดยเฉพาะ สน.พญาไท มีคดีเกิดขึ้นอันดับ 1 โดยให้ตรวจสอบ รายงานประจำวัน เล่ม ข. ของ สน.พญาไท ย้อนหลัง จากข้อมูล พบว่า สน.ดังกล่าว มีการแบ่งส่วนแบ่งคดี เช่น การจับกุมที่เป็นคดี ตำรวจทำคดี จะได้รับส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซนต์ ส่วนที่ไม่เป็นคดี จะได้รับส่วนแบ่งขั้นต่ำ 1,000 บาท ชุดจับกุม ได้ส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซนต์ แต่ทั้งนี้การจับกุมต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งคนไม่มีสีไม่สามารถทำได้แบบนี้ได้แน่นอน
นอกจากนี้ยังฝากไปถึง กระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแล กรมทรัพย์สินทางปัญญา ควรสั่งการ ให้มีการทำลายละเอียด สินค้าที่เป็นลิขสิทธิ์ เผยแพร่ ในเว็บไซต์ เพื่อประชาชนทราบ จะไม่ตกเป็นเหยื่อขบวนการรีดไถ่ และหากผู้เสียหายรายย่อย มีการรวมตัวกัน เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย ทั่วประเทศ ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าว และควรตรวจสอบตัวแทนลิขสิทธิ์ ที่ไดรับมอบอำนาว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ -สำนักข่าวไทย