กรุงเทพฯ 10 พ.ย. –กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่จ.ยะลา เยี่ยมผู้บาดเจ็บและร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตกรณีคนร้ายยิงโจมตีป้อม ชรบ. พร้อมให้กำลังใจผู้สูญเสียและติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยา
นายสมณ์ พรหมรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายยิงโจมตีป้อมยามจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบล ลำพะยา จังหวัดยะลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยเมื่อวานนี้ (9พ.ย.)ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและญาติ ผู้บาดเจ็บจำนวน 4 ก่อนเดินทางไปสถานีตำรวจภูธรลำใหม่ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานจากญาติผู้เสียชีวิต และสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติม จากนั้นได้เดินทางไปร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวไทยพุทธ จำนวน 13 ราย ณ วัดลำใหม่ จังหวัดยะลา วัดบ้านไร่พัฒนาราม วัดป่าสวย จังหวัดปัตตานี และวัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) จังหวัดยะลา โดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายด้วย ณ วัดสิริปุณณาราม จังหวัดยะลา ด้วย
นายสมณ์ กล่าวชื่นชมหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ระดมกำลังอย่างเต็มความสามารถ ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และขอขอบคุณ ศอ.บต. ที่ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างทันท่วงที โดยได้เข้าร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ประชาชน และอาสาสมัครทุกคนที่เสียชีวิต และขอให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกคนให้กลับมามีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้ในเร็ววัน ทั้งนี้ จะนำผลการติดตามรับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงในพื้นที่เสนอต่อที่ประชุม กสม. เพื่อปรับปรุงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งการทำข้อเท็จจริงเสนอต่อหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศตามหน้าที่และอำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต่อไป.-สำนักข่าวไทย
