“สมคิด” หารือนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ

ญี่ปุ่น  8 พ.ย. – “สมคิด” จีบนักลงทุนญี่ปุ่นเกาะฮอกไกโด ร่วมยกระดับเกษตรอัจฉริยะไทย พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทย  ธ.ก.ส.ขานรับพร้อมยกทีม นำสมาร์ทฟาร์มเมอร์เยือนญี่ปุ่น ต่อยอดพัฒนาเกษตรอัจฉริยะและเกษตรเชิงท่องเที่ยว หวังสร้างเศรษฐกิจภูมิภาค 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะทีมไทยแลนด์ เดินทางเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่  7-10 พฤศจิกายน 2562 นายสมคิด กล่าวกับนักลงทุนญี่ปุ่น จังหวัดฮอกไกโด ระหว่างเจรจาลงทุน  ยอมรับว่าความสัมพันธ์กับเอกชนฮอกไกโดยังไม่ลึกซึ้งมากพอ  จึงต้องการดึงนักลงทุนฮอกไกโดมาร่วมมือพัฒนาด้านเกษตรและการท่องเที่ยว โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมให้สิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมให้กับนักลงทุน เพราะยังมีกองทุนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันดูแลเพิ่มเติม  โดยเฉพาะการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ ในภาคเหนือของไทย  เพราะมีศักยภาพพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เหมือนกับฮอกไกโด จึงฝากประธานหอการค้าญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) แนะนำการลงทุนเอกชนญี่ปุ่นไปลงทุนในประเทศไทย  ขณะที่ไทยพร้อมส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาเจรจาเรื่องเกษตรสมัยใหม่เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ยอมรับว่าเกาะฮอกไกโดได้พัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับภาคเกษตรได้ลงตัว คนไทย 30 ล้านคนอยู่ในภาคเกษตรแต่ยากจน เพราะผลผลิตและรายได้ต่ำล้าหลังไม่เหมือนกับเกษตรญี่ปุ่น จึงต้องยกระดับเกษตรไทย เพื่อให้มีการตลาดรองรับ และเชื่อมโยงกับภาคท่องเที่ยวจะช่วยพัฒนาให้เกษตรพ้นจากความยากจน จึงได้กำชับผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาร่วมคณะครั้งนี้ด้วย จึงต้องเปลี่ยนบทบาทการทำงานของ ธ.ก.ส.ยกระดับระบบการผลิต เชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาเกษตรกรและพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวชนบท ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเริ่มเน้นเกษตรอุตสาหกรรมมากขึ้น หลังจากนี้จะหารือเจรจาร่วมกันระหว่างญี่ปุ่นและกระทรวงอุตสาหกรรมและ ธ.ก.ส.อย่างใกล้ชิดมากขึ้น 


ด้านผู้บริหารเจโทรฮอกไกโด ระบุว่าหลังจากเปิดเที่ยวบินเพิ่มเติมจากไทยมายังเกาะฮอกไกโดมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาเที่ยวเกาะฮอกไกโด 230,000 คนในปี 2562 ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ รองรับการท่องเที่ยวจำนวนมาก  สำหรับแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน นักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว จึงได้คัดเลือก  5 บริษัทขยายการลงทุนไปในประเทศไทย 

นางดวงใจ อัศวจินตจิตต์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า แต่ละปีการยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุนจากญี่ปุ่นร้อยละ 40 ของนักลงทุนต่างชาติ ยังมีบริษัทจากฮอกไกโดค่อนข้างน้อยเพียงแค่  2  รายได้รับการส่งเสริมลงทุนในไทย จึงต้องขยายความร่วมมือลงทุนมากขึ้น ไทยเป็นศูนย์กลาง CLMVT ประชากร 200 ล้านคน เป็นตลาดขนาดใหญ่เศรษฐกิจกำลังเติบโต เมื่อไทยต้องเป็นศูนย์กลางจึงต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหมด 110 โครงการด้วยเงินลงทุนจำนวนมาก  และยังพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  5 โครงการขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง  เมืองการบิน 

ขณะนี้เอกชนเน้นพัฒนาเกษตรเทคโนโลยีมากขึ้น ไทยเดินหน้าปรับ Eco System เพราะได้รับจัดอันดับ 21 ของโลกในการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจให้กับภาคเอกชนไทย เพื่อรองรับการลงทุนของต่างชาติและให้ต่างชาติถือห้นุในธุรกิจ และบีโอไอยังสนับสนุนภาคเกษตร สมาร์ทฟาร์มเมอร์ เพื่อขยายการลงทุนในประเทศไทย เพื่อให้สิทธิประโยชน์ภาษี และการถือครองที่ดิน ไทยเป็นแหล่งรองรับการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นที่สำคัญ  และยังมีโอกาสขยายการลงทุนออกไปประเทศเพื่อนบ้าน และยังต้องร่วมมือกับฮอกไกโดได้อีกหลายด้าน 


นักลงทุนญี่ปุ่นแจ้งในที่ประชุมว่าช่างเสริมสวยญี่ปุ่นยังไม่สามารถประกอบอาชีพในประเทศไทยได้ เพราะกฎหมายยังห้ามต่างด้าวประกอบอาชีพช่างเสริมสวยในประเทศไทย จึงเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจช่างเสริมสวย เน้นชาวญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันได้มีคนไทยมาใช้บริการมากขึ้น ขณะนี้มีภาคเอกชนญี่ปุ่น @Trippinochiangmai บริหารจัดการเว็บด้านท่องเที่ยว เพื่อจัดทำเว็บไซต์ เพื่อจัดทำแผนท่องเที่ยวดึงชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวเชียงใหม่ จึงต้องการหาพันธมิตรไทยร่วมจัดทำด้านเว็บเพื่อท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น รวมถึงการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองในประเทศไทยรองรับสินค้านมถั่วเหลืองญี่ปุ่น 

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ  ธ.ก.ส. กล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรของไทย จึงพร้อมนำเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นไปพัฒนาเกษตรกร เพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร และอยากให้ไปชวนเกษตรกรไทยปรับเปลี่ยนจากการผลิตแบบเดิมมารองรับตลาดที่ญี่ปุ่นต้องการ โดยพร้อมนำคณะผู้บริหาร สมาร์ทฟาร์มเมอร์ แกนนำชุมชนชุดใหญ่เดินทางสร้างสัมพันธ์กับเอกชนจังหวัดฮอกไกโดอีกครั้ง เพื่อเจรจาเพิ่มเติม เพราะปีนี้ ธ.ก.ส.ตั้งเป้าหมายปั้นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ให้ได้นับแสนรายทั่วประเทศ  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย