คลังเปิดตัวโครงการบ้านในฝันรับปีใหม่

กรุงเทพฯ 8  พ.ย. – คลังจับมือพันธมิตรเปิดตัวโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” หวังช่วยกระตุ้นยอดซื้อและเป็นแรงส่งภาคอสังหาฯ ปีหน้าโตกว่าร้อยละ 5 เอกชนยังกังวลติดล็อคมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ


นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดตัวโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” โดยมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เข้าร่วมเปิดตัวโครงการ เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2562 ให้กลับมาคึกคัก ผู้ประกอบการสามารถระบายสตอกบ้านได้และคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีบ้านเป็นของตัวเอง ได้แก่ กลุ่มคนเริ่มทำงานใหม่ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อ เพื่อให้ลูกหลานหรือทายาทที่ต้องเป็นการซื้ออยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ (เพื่อการอยู่อาศัย) และห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ไม่เคยผ่านการครอบครองโดยบุคคลอื่นมาก่อน และราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะนำป้ายโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” ไปติดหน้าโครงการ  

นายชาญกฤช กล่าวว่า มาตรการนี้นอกจากช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปี 2562 แล้ว  หากมาตรการประสบผลสำเร็จจะมีส่วนช่วยหนุนให้อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2563 โตเกินกว่าร้อยละ 5 ซึ่งกระทรวงการคลังมั่นใจว่าประชาชนไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษแบบนี้มาก่อน และธุรกิจอื่น ๆ ยังได้ประโยชน์เพิ่มเติมพ่วงไปด้วย คือ ธุรกิจก่อสร้างที่จะมีงานปีหน้า กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพัฒนาการคมนาคม โดยมาตรการนี้ช่วยให้มีที่พักอาศัยจริง ค่าโอนค่าจดจำนองที่มูลค่าเกือบ 100,000 บาท ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ฟรี การตัดสินใจซื้อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังมีโปรโมชั่นให้อีก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ โดยคิดดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรก ช่วยประชาชนประหยัดค่างวดผ่อนบ้านหลายแสนบาท ธอส.มีวงเงินสินเชื่อรวม 50,000 ล้านบาท การให้สินเชื่อใช้หลักผู้มาขอสินเชื่อก่อนได้ก่อน วงเงินหมดแล้วไม่มีการต่อมาตรการ ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ ของขวัญปีใหม่ที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องการมอบให้ประชาชน จึงขอให้ประชาชนอย่าพลาดโอกาสนี้ 


สำหรับโครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยวัตถุประสงค์หลักของกระทรวงการคลัง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเอง สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว ซึ่งเป็นการส่งเสริมการออมที่มีความสำคัญประการหนึ่ง โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 35,000 ยูนิต ซึ่งผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ทุกรายสามารถเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยติดต่อลงทะเบียนผ่าน ธอส.ที่มีสาขากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมสามารถขอดาวน์โหลดไฟล์โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่ เพื่อทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดหน้าโครงการได้ทันที 

ทั้งนี้ หวังว่าแคมเปญดังกล่าวจะเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่มีและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง สามารถกระตุ้นยอดขายและเร่งให้เกิดการโอนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ได้เป็นอย่างดี อันจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจพัฒนาการคมนาคมมีความคึกคักมากขึ้น และช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง


นางสาวอาภา อรรภบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การมีส่วนร่วมให้โปรโมชั่นพิเศษแก่ผู้ซื้อบ้านจะเป็นไปตามดุลพินิจและกำลังของผู้ประกอบการแต่ละรายจะมอบให้กับลูกค้า สำหรับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ช่วยลดภาระประชาชนที่ต้องการซื้อบ้าน 1 ล้านละ 30,000 บาท ของราคาที่ซื้อ ถือว่าเป็นจำนวนที่มาก เพราะได้โควตาคนละ 3 ล้านบาท มาตรการนี้ออกมานอกจากเป็นการรณรงค์ซื้อบ้านแล้วยังช่วยให้ประชาชนมีบ้าน และช่วยกระตุ้นผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจริงที่ยังรีรออยู่ นับเป็นโอกาสดีทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน ขณะที่ผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ส่วนลดและสิ่งของเพิ่มเติม เป็นผลช่วยด้านจิตวิทยาเป็นอันมาก ช่วยตลาดคึกคักมากขึ้น โดยปกติช่วงปลายปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากหลายคนมีรายได้พิเศษปลายปีต้นปีอยู่แล้ว ก็คิดว่าแผนใช้เงินไปอยู่ในทรัพย์สินที่ใช้อยู่อาศัยได้จริงไม่ได้กินใช้ฟุ่มเฟือย  จากสถิติการโอนอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเทศในภาพรวม อาคารชุดปกติมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 50 ของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยทั้งหมด ส่วนกรุงเทพฯ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 60 ของภาพรวมอสังหริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ซึ่งเฉพาะสตอกอาคารชุดในกรุงเทพฯ มียอดคงค้างประมาณ 35,000 หน่วย มั่นใจว่าประมาณ 20,000 หน่วยเป็นอาคารชุด 

นางสาวอาภา กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีความกังวลว่าเมื่อประชาชนตัดสินใจซื้อแล้ว ด้วยมาตรการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ (LTV)  ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำให้ขอสินเชื่อไม่ได้รับการอนุมัติ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสินค้าที่อยู่อาศัยนับที่การโอนไม่รับการขาย ดังนั้น ควรจะหาแนวทางผ่อนผันชั่วคราว แต่จากการติดตามข่าว ทราบว่ากระทรวงการคลังจะไม่ไปจัดการเรื่องมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ  

“เป็นเรื่องที่กังวลใจว่าออกมาตรการกระตุ้นการขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่มีมาตรการเสริมมารองรับการโอน การบรรลุผลต้องตามไปดูว่าจะสัมฤทธิ์มากน้อยเพียงใด เพราะไม่ครบลูป แต่การออกมาตรการกระตุ้น อัตราการซื้อหรือการดูดซับที่อยู่อาศัยน่าจะดีขึ้นบ้าง” นางสาวอาภา กล่าว  

สำหรับยอดซื้ออาคารชุดของต่างชาติที่เคยมียอดซื้อประมาณ 90,000  ล้านบาท ขณะนี้หายไปหมด เพราะมองว่าผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ จึงมีการย้ายไปลงทุนซื้อในประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น กัมพูชาและยังไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย 

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้คาดว่ามีหน่วยพร้อมเปิดขายในช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 35,000 หน่วย และมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ผู้ซื้อบ้านในช่วงที่มีการลดราคา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมี   2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1  เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย และจะลดต้องจดทะเบียนการโอน รวมถึงจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ส่วนอีกมาตรการ ครม.เห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 2.5  คงที่ 3 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งภาครัฐประเมินเบื้องต้นว่าการลดค่าโอนและจดจำนองจะสูญเสียรายได้ 2,600 ล้านบาท ส่วนมาตรการลดดอกเบี้ย ธอส. รัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ 1,200 ล้านบาท  ประเมินว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโต และส่งผลดีไปยังภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจคมนาคม  อีดทั้งหวังว่าหลังจาก ธอส.เป็นผู้นำตลาดในการลดดอกเบี้ยเงินกู้ จะทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ตาม 

ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เดือนตุลาคม 2562 ประมาณ 34,731 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 57  ของที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จทั้งหมด และคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จปี 2563 อีก 145,269 หน่วย จึงมีที่อยู่อาศัยรวมกว่า 180,000 หน่วย ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าของได้จำนวนเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]