คลังเปิดตัวโครงการบ้านในฝันรับปีใหม่

กรุงเทพฯ 8  พ.ย. – คลังจับมือพันธมิตรเปิดตัวโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” หวังช่วยกระตุ้นยอดซื้อและเป็นแรงส่งภาคอสังหาฯ ปีหน้าโตกว่าร้อยละ 5 เอกชนยังกังวลติดล็อคมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ


นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดตัวโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” โดยมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เข้าร่วมเปิดตัวโครงการ เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2562 ให้กลับมาคึกคัก ผู้ประกอบการสามารถระบายสตอกบ้านได้และคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีบ้านเป็นของตัวเอง ได้แก่ กลุ่มคนเริ่มทำงานใหม่ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อ เพื่อให้ลูกหลานหรือทายาทที่ต้องเป็นการซื้ออยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ (เพื่อการอยู่อาศัย) และห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ไม่เคยผ่านการครอบครองโดยบุคคลอื่นมาก่อน และราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะนำป้ายโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” ไปติดหน้าโครงการ  

นายชาญกฤช กล่าวว่า มาตรการนี้นอกจากช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปี 2562 แล้ว  หากมาตรการประสบผลสำเร็จจะมีส่วนช่วยหนุนให้อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2563 โตเกินกว่าร้อยละ 5 ซึ่งกระทรวงการคลังมั่นใจว่าประชาชนไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษแบบนี้มาก่อน และธุรกิจอื่น ๆ ยังได้ประโยชน์เพิ่มเติมพ่วงไปด้วย คือ ธุรกิจก่อสร้างที่จะมีงานปีหน้า กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพัฒนาการคมนาคม โดยมาตรการนี้ช่วยให้มีที่พักอาศัยจริง ค่าโอนค่าจดจำนองที่มูลค่าเกือบ 100,000 บาท ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ฟรี การตัดสินใจซื้อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังมีโปรโมชั่นให้อีก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ โดยคิดดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรก ช่วยประชาชนประหยัดค่างวดผ่อนบ้านหลายแสนบาท ธอส.มีวงเงินสินเชื่อรวม 50,000 ล้านบาท การให้สินเชื่อใช้หลักผู้มาขอสินเชื่อก่อนได้ก่อน วงเงินหมดแล้วไม่มีการต่อมาตรการ ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ ของขวัญปีใหม่ที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องการมอบให้ประชาชน จึงขอให้ประชาชนอย่าพลาดโอกาสนี้ 


สำหรับโครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยวัตถุประสงค์หลักของกระทรวงการคลัง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเอง สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว ซึ่งเป็นการส่งเสริมการออมที่มีความสำคัญประการหนึ่ง โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 35,000 ยูนิต ซึ่งผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ทุกรายสามารถเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยติดต่อลงทะเบียนผ่าน ธอส.ที่มีสาขากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมสามารถขอดาวน์โหลดไฟล์โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่ เพื่อทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดหน้าโครงการได้ทันที 

ทั้งนี้ หวังว่าแคมเปญดังกล่าวจะเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่มีและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง สามารถกระตุ้นยอดขายและเร่งให้เกิดการโอนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ได้เป็นอย่างดี อันจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจพัฒนาการคมนาคมมีความคึกคักมากขึ้น และช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง


นางสาวอาภา อรรภบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การมีส่วนร่วมให้โปรโมชั่นพิเศษแก่ผู้ซื้อบ้านจะเป็นไปตามดุลพินิจและกำลังของผู้ประกอบการแต่ละรายจะมอบให้กับลูกค้า สำหรับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ช่วยลดภาระประชาชนที่ต้องการซื้อบ้าน 1 ล้านละ 30,000 บาท ของราคาที่ซื้อ ถือว่าเป็นจำนวนที่มาก เพราะได้โควตาคนละ 3 ล้านบาท มาตรการนี้ออกมานอกจากเป็นการรณรงค์ซื้อบ้านแล้วยังช่วยให้ประชาชนมีบ้าน และช่วยกระตุ้นผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจริงที่ยังรีรออยู่ นับเป็นโอกาสดีทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน ขณะที่ผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ส่วนลดและสิ่งของเพิ่มเติม เป็นผลช่วยด้านจิตวิทยาเป็นอันมาก ช่วยตลาดคึกคักมากขึ้น โดยปกติช่วงปลายปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากหลายคนมีรายได้พิเศษปลายปีต้นปีอยู่แล้ว ก็คิดว่าแผนใช้เงินไปอยู่ในทรัพย์สินที่ใช้อยู่อาศัยได้จริงไม่ได้กินใช้ฟุ่มเฟือย  จากสถิติการโอนอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเทศในภาพรวม อาคารชุดปกติมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 50 ของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยทั้งหมด ส่วนกรุงเทพฯ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 60 ของภาพรวมอสังหริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ซึ่งเฉพาะสตอกอาคารชุดในกรุงเทพฯ มียอดคงค้างประมาณ 35,000 หน่วย มั่นใจว่าประมาณ 20,000 หน่วยเป็นอาคารชุด 

นางสาวอาภา กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีความกังวลว่าเมื่อประชาชนตัดสินใจซื้อแล้ว ด้วยมาตรการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ (LTV)  ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำให้ขอสินเชื่อไม่ได้รับการอนุมัติ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสินค้าที่อยู่อาศัยนับที่การโอนไม่รับการขาย ดังนั้น ควรจะหาแนวทางผ่อนผันชั่วคราว แต่จากการติดตามข่าว ทราบว่ากระทรวงการคลังจะไม่ไปจัดการเรื่องมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ  

“เป็นเรื่องที่กังวลใจว่าออกมาตรการกระตุ้นการขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่มีมาตรการเสริมมารองรับการโอน การบรรลุผลต้องตามไปดูว่าจะสัมฤทธิ์มากน้อยเพียงใด เพราะไม่ครบลูป แต่การออกมาตรการกระตุ้น อัตราการซื้อหรือการดูดซับที่อยู่อาศัยน่าจะดีขึ้นบ้าง” นางสาวอาภา กล่าว  

สำหรับยอดซื้ออาคารชุดของต่างชาติที่เคยมียอดซื้อประมาณ 90,000  ล้านบาท ขณะนี้หายไปหมด เพราะมองว่าผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ จึงมีการย้ายไปลงทุนซื้อในประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น กัมพูชาและยังไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย 

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้คาดว่ามีหน่วยพร้อมเปิดขายในช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 35,000 หน่วย และมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ผู้ซื้อบ้านในช่วงที่มีการลดราคา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมี   2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1  เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย และจะลดต้องจดทะเบียนการโอน รวมถึงจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ส่วนอีกมาตรการ ครม.เห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 2.5  คงที่ 3 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งภาครัฐประเมินเบื้องต้นว่าการลดค่าโอนและจดจำนองจะสูญเสียรายได้ 2,600 ล้านบาท ส่วนมาตรการลดดอกเบี้ย ธอส. รัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ 1,200 ล้านบาท  ประเมินว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโต และส่งผลดีไปยังภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจคมนาคม  อีดทั้งหวังว่าหลังจาก ธอส.เป็นผู้นำตลาดในการลดดอกเบี้ยเงินกู้ จะทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ตาม 

ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เดือนตุลาคม 2562 ประมาณ 34,731 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 57  ของที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จทั้งหมด และคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จปี 2563 อีก 145,269 หน่วย จึงมีที่อยู่อาศัยรวมกว่า 180,000 หน่วย ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าของได้จำนวนเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย