ค้นอาคารพาณิชย์ที่อุดรฯ เจอทองปลอม “แม่มณี” ใช้ไลฟ์สร้างภาพ

ภูมิภาค, กรุงเทพฯ 31 ต.ค.-ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และ สภ.เมืองอุดรธานี นำหมายศาลเข้าค้นอาคารพาณิชย์ใน จ.อุดรธานี พบว่า “แม่มณี” เปิดร้านทองปลอมเพื่อสร้างโปรไฟล์อวดลูกข่าย 


กำลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี และ สภ.เมืองอุดรธานี เข้าค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 3 ห้อง เลขที่ 80/39, 80/41 และ 80/42 ซ.จินตคาม ถ.อำเภอ เทศบาลนครอุดรธานี ที่ น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ หรือ แม่มณี ทิพย์ประเวช เจ้าของวงแชร์ออมเงิน-ออมทองแม่มณี กับ นายเมธี หรือบอส ชิณภา อายุ 20 ปี สามีหนุ่ม ซื้อและเช่าไว้ ตำรวจให้ช่างกุญแจเปิดล็อกประตูบานเลื่อนออก ชั้นล่างพบโต๊ะทำงาน โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ กล่องเครื่องสำอาง และตุ๊กตา ชั้น 2 เป็นห้องนอน ห้องนอนเด็ก ชั้นที่ 3 ห้องด้านหน้าเป็นห้องนอนพบกล่องพัสดุไปรษณีย์ เมื่อเปิดออกมาพบใบถอนเงินธนาคาร มีลายเซ็นนายเมธี ชิณภา จำนวนมาก


ส่วนห้องที่ 2 ของชั้น 3 ที่หน้าห้องติดป้ายว่า บ.ห้างทองแม่มณี (2019) จำกัด ภายในตกแต่งห้องเป็นร้านขายทอง ที่มีตู้โชว์ทองและเคาน์เตอร์โชว์ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ แหวน เลสข้อมือ จำนวนมาก เหมือนร้านทองทั่วไป มีป้ายราคาทองคำประจำวัน และพบตู้เซฟ 1 ตู้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและตัวแทนสมาคมร้านทองอุดรธานีมาตรวจสอบ พบว่าเป็นทองชุบ ที่คาดว่าแม่มณีใช้สำหรับไลฟ์โชว์ลูกข่ายให้ทราบว่าเป็นเจ้าของกิจการร้านทอง และสร้างโปรไฟล์ของตัวเองให้ดูดี


ส่วนอาคารเลขที่ 80/41 เป็นอาคารที่แม่มณีเช่า เจ้าของห้องเช่าและเจ้าของอาคารนำกุญแจสำรองมาเปิดให้ ที่ชั้น 1 กระจกหน้าอาคารติดป้ายแบรนด์เครื่องสำอางของแม่มณี ตกแต่งโซฟา ม่าน เป็นแบบหลุยส์ ราคาแพง สินค้าและเครื่องสำอางหลายกล่องที่ใช้สำหรับไลฟ์รีวิว และตู้เชฟขนาดใหญ่ ส่วนชั้น 2 เป็นห้องนอนหรูตกแต่งด้วยตู้ เตียงหลุยส์ และตู้เชฟ ชั้น 3 ห้องด้านหน้าเป็นห้องนอนธรรดา ส่วนห้องด้านหลังเป็นห้องพระ มีหุ้นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ดังเท่าตัวจริง 3 รูป ที่คาดว่าแม่มณี ใช้สร้างภาพว่าเป็นคนชอบทำบุญ สร้างพระ สร้างโปรไฟล์ตัวเอง

ส่วนอาคารเลขที่ 80/42 ที่ซื้อไว้ พบว่าเป็นห้องโล่ง ไม่มีสิ่งของอยู่ภายใน ส่วนอาคารพานิชย์ตรงกันข้ามเลขที่ 452/10 ที่แม่มณีซื้อไว้ ยังขอหมายค้นไม่ได้ เพราะไม่ชัดเจนเรื่องผู้ครอบครอง

นอกจากนี้ นำหมายศาลจังหวัดอุดรธานีเข้าค้นบ้านเอื้ออาทรอุดรธานี 3 หมู่ 1 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นบ้านที่แม่มณี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังนี้และมารดาอาศัยอยู่ พบบ้านถูกปิดเงียบไม่มีคนอยู่ เพื่อนบ้านระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีคนเข้ามาทำความสะอาด ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ได้เข้าค้น เพราะไม่มีพยานนำเข้าตรวจค้น ตำรวจจึงใช้การติดหมายอายัดบ้านไว้ก่อน รอเข้าตรวจค้นอีกครั้ง

ส่วนการค้นเข้าบ้านพักชุมชนพาสุกมั่นคง ถนนนเรศวร เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของแม่นายบอส สามีแม่มณี พบมารดานายบอสอยู่ที่บ้าน ตำรวจตรวจยึดเอกสาร, สมุดเงินบัญชีเงินฝากธนาคาร และกรมธรรม์ประกันชีวิตของนายบอส ที่ทำขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และถูกส่งกรมธรรม์ทางไปรษณีย์ วงเงินประกันชีวิต 19 ล้านบาท จ่ายเบี้ยประกันครั้งแรก 1,050,133 บาท ผู้รับผลประโยชน์เรียงลำดับคือ น.ส.วันทนีย์, นายเมธี และบุตรสาว ตามลำดับ ตำรวจจึงเชิญตัวแม่นายบอสไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองอุดรธานี จากการตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจอายัดทรัพย์ และตรวจยึดไว้ ห้ามเคลื่อนย้าย และจะทำบัญชีสรุปว่าตรวจยึดอะไรบ้าง

ผู้เสียหายคดี “แชร์แม่มณี” แจ้งความ ปอศ.ต่อเนื่อง

ด้าน พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เปิดเผยว่า คดี “แชร์แม่มณี” ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียหายนำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีรวม 103 ราย วันนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก 60 ราย ล่าสุด ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ตำรวจเตรียมโอนสำนวนคดีที่สอบปากคำไปก่อนหน้านี้ให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ ส่วนผู้เสียหาย”บ้านแชร์มะนาว” ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ในทางสอบสวนจึงยังไม่ทราบว่ามีความเชื่อมโยงกับแชร์แม่มณีหรือไม่ หรือตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงเช่นกัน

ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์แชร์รูปดาราว่าอาจเกี่ยวข้องกับแม่มณี ยังไม่มีการเชิญผู้ใดมาให้ปากคำ แต่เมื่อดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะพิจารณาเชิญดาราที่ปรากฏตามภาพมาให้ปากคำหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดีเอสไอ ส่วนการติดตามจับกุม น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ แม่มณี หรือเดียร์ เจ้าของ “แชร์แม่มณี” ตำรวจหลายหน่วยงานกำลังติดตาม   

ตำรวจเชื่อแม่มณียังอยู่ในไทย

ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค  4 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ระดมหาเบาะแสติดตามจับกุมตัว  “แม่มณี” และแฟนหนุ่ม ที่กำลังหลบหนีหมายจับของ ปอศ. และหมายจับของตำรวจภูธรภาค 4 โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วกว่า 50 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นมั่นใจว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยังกบดานในไทย ขณะเดียวกัน ประสานไปยังด่านตรวจคนเมืองในพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มงวดตรวจตราและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหนีออกนอกประเทศ     

ผู้เสียหายทยอยแจ้งความเอาผิด “มะนาว”

ส่วนที่ สภ.เมืองราชบุรี มีผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี น.ส.จุฑาทิพย์  นิ่มนวล หรือ มะนาว โซฮอต อย่างต่อเนื่อง ร.ต.ท.ชนะภัย วงษ์บุบผา พนักงานสอบสวน ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานมีผู้เสียหายมาจากพื้นที่ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มาแจ้งความถูกมะนาวหลอกเงินสูญเงิน 28,000 บาท ส่วนอีกรายมาจาก ต.หน้าเมือง ถูกโกงเงินไป 145,000 บาท ส่วนที่เหลือยังขอไม่เปิดเผยรายละเอียด ทำให้ขณะนี้รวมเหยื่อผู้เสียหายที่ได้เดินทางมาแจ้งความ เป็นคดีแม่มณี 2 ราย มะนาว 4 ราย ความเสียหายเป็นเงิน 1.1 ล้านบาท  

ดีเอสไอรับคดีแชร์แม่มณีเป็นคดีพิเศษ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีแชร์แม่มณีเป็นคดีพิเศษแล้ว โดยยอดผู้เสียหายจากการร่วมลงทุนแชร์แม่มณีที่ลงทะเบียนผ่านระบบคิวอาร์โค้ดของดีเอสไอมี 2,765 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 756 ล้านบาท ในส่วนผู้เสียหายที่มายื่นเรื่องด้วยตนเอง 300 ราย มูลค่าความเสียหาย 150 ล้านบาท ในจำนวนนี้ยังไม่รวมผู้เสียหายที่ได้ไปแจ้งความกับสถานีตำรวจ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร