fbpx

แจงขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์ต้องไม่มีพิษและผ่านการทดลองประสิทธิภาพ

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – กรมวิชาการเกษตรย้ำเกณฑ์การขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยต่อเกษตรกร  ผู้บริโภค  และสิ่งแวดล้อม ต้องผ่านการประเมินข้อมูลพิษวิทยา การขอนำเข้าหรือผลิตตัวอย่าง และการทดลองประสิทธิภาพ   


นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ว่า  มีหลักเกณฑ์พิจารณา 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการประเมินข้อมูลพิษวิทยา ซึ่งคณะทำงานเพื่อพิจารณาชีวภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจากพืชที่ใช้ควบคุมศัตรูพืชจะประเมินข้อมูลพิษวิทยาที่สำคัญ ประกอบด้วย คุณสมบัติทางกายภาพ เคมี และด้านเทคนิคของชีวภัณฑ์  พิษวิทยาและข้อมูลการรับสัมผัส  สารพิษตกค้างใน/บนผลิตภัณฑ์อาหารและสิ่งแวดล้อม  ผลของชีวภัณฑ์ต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย  กรรมวิธีการผลิตและแหล่งที่มาของเชื้อ ขั้นตอนต่อมา คือ การขอนำเข้าหรือผลิตตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยผู้ประกอบการต้องยื่นคำขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างวัตถุอันตราย ซึ่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน เพื่อวิเคราะห์ตามข้อกำหนดของวัตถุอันตรายและเพื่อทดสอบประสิทธิภาพเมื่อผลวิเคราะห์ตรงตามมาตรฐานผู้ประกอบการต้องนำตัวอย่างไปทดลองประสิทธิภาพภายใต้การควบคุมของนักวิชาการกรมวิชาการเกษตร 


ขั้นตอนสุดท้าย คือ การทดลองประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการต้องยื่นคำขออนุญาตทำการทดลองประสิทธิภาพวัตถุอันตรายขั้นการทดลองเบื้องต้นและแผนการทดสอบประสิทธิภาพ เมื่อการทดลองสิ้นสุดให้ส่งรายงานผลการทดลองประสิทธิภาพ พร้อมข้อความที่ขอระบุในฉลากที่ได้รับความเห็นชอบแล้วหากการดำเนินการดังกล่าวผ่านการพิจารณาผู้ประกอบการทำต้องหนังสือส่งผลการประเมินข้อมูลพิษวิทยาผลการทดลองประสิทธิภาพและผลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยื่นที่กลุ่มควบคุมวัตถุอันตราย  กรมวิชาการเกษตร  เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตร  หากคณะอนุกรรมการฯ เห็นควรให้ขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายพนักงานเจ้าหน้าที่จะออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายให้แก่ผู้ประกอบการต่อไป

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนฯ ให้ความสำคัญต่อการพิจารณาขึ้นทะเบียนกลุ่มวัตถุอันตรายที่มีความปลอดภัยทุกด้าน ได้แก่ สารสกัดจากธรรมชาติ  สารชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช  เป็นลำดับแรก  ปัจจุบันมีสารชีวภัณฑ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรแล้ว 73 ทะเบียนดังนี้  Bacillus thuringiensis  57 ทะเบียน ใช้ป้องกันกำจัดหนอนใยผัก หนอนกระทู้  หนอนเจาะฝักลายจุด  และหนอนหัวดำ Bacillus amyloliquefaciens 1 ทะเบียน ใช้ป้องกันกำจัดโรคแอนแทรคโนสในพริก Bacillus subtilis 8 ทะเบียน ใช้ป้องกันกำจัดโรคกาบใบแห้งในข้าว และโรคแอนแทรคโนสในพริก Beauveria bassiana 2 ทะเบียน ใช้ป้องกันกำจัดแมลงหวี่ขาว Metarhiziumanisopliae  2 ทะเบียน  ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยจักจั่นฝ้ายในมะเขือเปราะ Nuclear Polyhedrosis Virus (NPV) 1 ทะเบียน  ใช้ป้องกันกำจัดหนอนกระทู้หอม และ Trichoderma harzianum 2 ทะเบียน ใช้ป้องกันกำจัดโรคแอนแทรคโนสในพริก

“ผู้ขอขึ้นทะเบียนทุกรายจะต้องทดลองประสิทธิภาพกับพืชและศัตรูพืชตามที่ระบุไว้ในฉลาก เพื่อพิสูจน์ว่า วัตถุอันตรายที่ขอขึ้นทะเบียนสามารถใช้ได้ผลจริงในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช  ที่สำคัญจะต้องผ่านการประเมินข้อมูลพิษวิทยา  เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกร  ผู้บริโภค  และสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้จะเป็นสารชีวภัณฑ์จากจุลินทรีย์หรือสารสกัดจากพืชก็ต้องขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายตามกฎหมาย” นางสาวเสริมสุขกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ