fbpx

เพื่อไทยเรียกร้องรัฐบาลหาทางเจรจาสหรัฐฯ ก่อนตัดสิทธิ GSP

พรรคเพื่อไทย 29 ต.ค.-พรรคเพื่อไทย เรียกร้องรัฐบาลหาทางเจรจาสหรัฐฯ ก่อนถูกตัดสิทธิ GSP ติงนายกฯ เข้าใจผิดประเทศโตเร็ว ชี้รายได้ต่อตัวคนไทยต่ำกว่าเกณฑ์ได้รับสิทธิ ด้าน กมธ.ต่างประเทศฯ เตรียมเชิญกระทรวงพาณิชย์-ต่างประเทศ หารือทางออกช่วยผู้ประกอบการส่งออก


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีที่สหรัฐเตรียมระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ประเทศพัฒนาแล้วให้กับประเทศกำลังพัฒนาและ ด้อยพัฒนา หรือ GSP กับประเทศไทย

โดยนายศราวุธ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะนำเรื่องที่ไทยจะถูกสหรัฐตัดสิทธิ GSP หารือว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าการที่ไทยถูกตัดสิทธิ เพราะโตเร็วเกินไป มีการพัฒนาสูงนั้น เห็นว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลที่ถูกต้อง เพราะหากมองตามข้อเท็จจริง จะพบว่าประเทศที่จะได้รับสิทธิ GSP จะต้องมีรายได้ต่อหัวไม่เกิน 12,476 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งไทยมีรายได้ต่อหัวของคนไทยอยู่ที่ 7,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี รวมถึงต้องพิจารณาว่าประเทศไทยแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานได้ตรงตามมาตรฐานสากลแล้วหรือไม่ ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ยังเหลืออีก 6 เดือนก่อนที่จะถูกตัดสิทธิ รัฐบาลต้องเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ เพราะหลายประเทศที่ถูกตัดสิทธิ GSP ก็เดินหน้าเจรจาสำเร็จมาหลายประเทศแล้ว ขณะเดียวกันรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบด้านภาษี ทั้งนี้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะเชิญกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ มาหารือเพื่อหามาตรการเยียวยากลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบครั้งนี้


ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน และควรหาทางเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอคืนสิทธิ GSP เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหลายประเทศก็เคยเจรจากับสหรัฐฯ จนได้รับสิทธิคืน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรตีกิน และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีที่จะให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นว่าประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องถูกตัดสิทธิ GSP รัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด