เชียงใหม่ 27 ต.ค. – สยอง! ฆาตกรรมเศรษฐีนีวัย 58 ปี ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ก่อนยัดศพไว้ในตู้เย็นนานกว่า 1 สัปดาห์ รถ BMW ป้ายแดงหายไปอีก 1 คัน ตำรวจเร่งสืบสวนหาคนร้ายที่ลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหด
เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 90/3 หมู่บ้านหลวง ในซอยเยื้องกับวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นโชย และมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากภายในบ้าน เมื่อเข้าไปยังบริเวณด้านหลังอาคารที่ถูกต่อเติมเป็นห้องครัว พบต้นเหตุของกลิ่นเน่าและน้ำเหลืองที่ไหลออกมาจากตู้เย็น จึงเปิดตู้เย็นดู พบศพหญิงถูกมัดมือไหล่หลัง ใช้ถุงคุมศีรษะ ใช้เทปกาวพันรอบตัว ปิดปาก และพันเท้า อย่างเหี้ยมโหด ยัดไว้ในตู้เย็น ซึ่งยังเสียบปลั๊กทำความเย็นไว้ตลอด และรอบๆ ตู้เย็นยังพบมีการนำผงปูนซีเมนต์มาโรยไว้ เพื่อกลบกลิ่นและซับน้ำเหลือง สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อยเนื่องจากเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ จึงยังไม่สามารถยืนยันว่าเป็นผู้ตายได้ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น นางวรรณี จิระเจริญยิ่ง เจ้าของบ้านวัย 58 ปี ซึ่งเป็นเศรษฐีนีจากกรุงเทพฯ ที่พึ่งมาซื้อตึกหลังนี้ในราคาหลายล้านบาทเมื่อ 4-5 เดือนก่อน โดยอยู่อาศัยเพียงลำพัง ระหว่างมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง เนื่องจากญาติไม่สามารถติดต่อนางวรรณีได้ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นและมีน้ำเหลืองไหลจากบ้าน แล้วแจ้งให้ตำรวจเข้าตรวจสอบจนพบศพ
ตำรวจได้นำศพออกจากตู้เย็น ส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์อย่างชัดเจนอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบว่า รถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูป้ายแดงของ นางวรรณี หายไปจากบ้านด้วย โดยญาติให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นางวรรณี มีฐานะร่ำรวยเนื่องจากครอบครัวทำธุรกิจหลายอย่าง ซื้อตึกแห่งนี้ไว้เพื่ออาศัยระหว่างมาปฏิบัติธรรม
นายประเสิรฐ์ นันต๊ะเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง ที่มีที่พักตรงข้าม กับบ้านที่เกิดเหตุบอกว่า ผู้ตายไม่สุงสิงกับใคร แต่เป็นคนใจดี แต่ละวันผู้ตายจะไปซื้อกับข้าว และพักผ่อนอยู่ในบ้านช่วงบ่าย ก็จะไปวัดปฏิบัติธรรม และรถยนต์หายไป ผู้ตายยังก่อสร้างบ้านใหญ่อีก 1 หลัง และเรียกร้องให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ พันตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ ว่าเป็น นางวรรณี ที่หายตัวไปหรือไม่ ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง แต่เบื้องต้นเป็นการฆาตกรรมแน่นอน ส่วนผู้ตายมาปฏิบัติธรรม และมีเงินของกงสีใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าทำธุรกิจอะไร ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งแกะรอยหาตัวคนร้าย เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก .- สำนักข่าวไทย