สืบเส้นทางปืนหายจากคลังโรงพักท่าหิน หมายจับเพิ่มคนรับซื้อ

ลพบุรี 26 ต.ค.- ผบช.ภาค 1 สั่งเร่งขยายผลปืนราชการที่ลพบุรีหายจากคลัง สภ.ท่าหิน 49 กระบอก ตามกลับคืนได้แล้ว 18 กระบอก ขณะที่ดาบตำรวจผู้ดูแลถูกสอบวินัยร้ายแรงและให้ออกจากราชการไว้ก่อน ล่าสุดออกหมายจับเพิ่มคนรับซื้อปืน


กรณีอาวุธปืนทางราชการในคลังของ สภ.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี มีทั้งปืนสั้นและปืนยาวจำนวน 50 กระบอก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของ ด.ต.ชรินทร์ บุตรดี  ตำแหน่งผู้ควบคุมของหลวงประจำ สภ.ท่าหิน ต่อมาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีคนใหม่สั่งการทุกสถานีตำรวจตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอาวุธปืนของหลวงในคลัง ปรากฏว่าปืนของ สภ.ท่าหิน หายไป 49 กระบอก จึงสั่งให้ผู้ควบคุมของหลวงประจำ สภ.ท่าหิน รายงานชี้แจงกระทั่งทราบว่ามีการขโมยไปนั้น


พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญการตำรวจภูธรภาค 1 ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวตำรวจที่กระทำผิดไว้แล้วที่ สภ.ท่าหิน จากนี้จะดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนเหตุจูงใจหรือมีผู้รู้เห็นและให้การช่วยเหลือหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างสืบสวน  ซึ่งทราบว่าสามารถติดตามนำอาวุธปืนกลับคืนมาได้บางส่วนจำนวน 18 กระบอก

ด้าน พ.ต.อ.ณัชภูม วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน สั่งให้ดำเนินคดีอาญากับ ด.ต.ชรินทร์  และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน และเร่งสืบหาปืนที่เหลือกลับมาให้ครบทั้งหมด รวมทั้งขยายผลผู้เกี่ยวข้อง ล่าสุดตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย เป็นชาย อายุ 44 ปี คนรับซื้อปืน ในข้อหารับซื้อของโจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำที่ บก.ภ.จว.ลพบุรี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย