ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 ต.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,593.28 จุด ลดลง 27.69 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 76,698.83 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,622.66 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,592.66 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเผชิญแรงขาย Stop loss หลังจากดัชนีหลุดระดับ low เดิมของรอบนี้ที่บริเวณ 1,605 จุดลงมา ฉุดให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดก่อนหน้านี้ออกมาด้วย ทำให้ตลาดเผชิญแรงขายค่อนข้างมากในช่วงบ่ายนี้
ขณะที่ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่มีทิศทางอ่อนแอ ซึ่งหลายฝ่ายมองเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 2.9% ขณะที่ธนชาต มองเติบโตเพียง 2.7% เท่านั้น อีกทั้งวานนี้ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยเป้าหมายธุรกิจปี 63 ที่อ่อนแอลง นับเป็นการตอกย้ำภาพเศรษฐกิจไม่ดีฉุดให้มีแรงขายทั้งกลุ่มแบงก์ รวมถึงกลุ่มรับเหมาที่ยังไม่ได้ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/62 ออกมาก็คาดว่าจะมีทิศทางอ่อนตัวลง ผนวกกับงานประมูลล่าช้าด้วย กดดันให้หุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ ทั้ง ITD , CK , STEC ร่วงลง 5-7% ในวันนี้
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจที่ซบเซาและจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนนั้น ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาพอสมควรแล้ว หลังจากนี้ต้องรอการทยอยประกาศผลประกอบไตรมาส 3/62 การกลุ่ม real sector ที่จะเริ่มออกในสัปดาห์หน้าว่าจะมีทิศทางอย่างไร และโบรกเกอร์จะทบทวนประมาณกำไรและราคาเป้าหมายอย่างไร แต่เบื้องต้นคาดว่าตลาดน่าจะไม่มี downside มากนักจากระดับปัจจุบัน
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายสัปดาห์หน้า ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมถึงความคืบหน้าพัฒนาการของสงครามการค้า โดยมองแนวรับบริเวณ 1,590 และ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,605 และ 1,620 จุด
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันขายสุทธิ 2,517.78 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 178.05 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,466.46 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,229.37 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย