อานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ คาดช่วยปีหน้าโตร้อยละ 5-7

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เผยรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นทันเวลา ช่วยภาพรวมอสังหาปีนี้ติดลบน้อยลง หนุนปีหน้ากลับมาโตร้อยละ 5-7  ส่วนสถานการณ์ที่อยู่อาศัย 6 เดือนแรกปีนี้ ทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออก บ้านเหลือขายยังเพิ่มขึ้น 


นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ชุดใหม่ออกมา นับเป็นการออกมาตรการที่ทันเวลากับสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในภาวะชะลอตัว เพราะช่วยทำให้อัตราการดูดซับที่อยู่อาศัยดีขึ้น แต่ด้วยมาตรการที่กว่าจะเห็นผลช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม หรือ 2 เดือนสุดท้ายของปีแล้ว มาตรการจึงเพียงช่วยให้ติดลบน้อยลง ไม่ติดลบร้อยละ 5-7  เท่ากับที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้  

ทั้งนี้ ศูนย์อสังหาริมทรัพย์จะประกาศการประเมินภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้ใหม่อีกครั้งเดือนพฤศจิกายน และผลจากการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ปลายปีนี้จะเป็นอานิสงส์ช่วยเป็นแรงส่งหนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยปีหน้ากลับมาโตเป็นบวกประมาณร้อยละ 5-7 ทั้งนี้ ขอฝากด้านสินเชื่อที่เกณฑ์การพิจารณายังเข้มงวด หากช่วยพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อลงได้ ก็จะช่วยให้คนซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาโตได้ จากปัจจุบันการเข้มงวดปล่อยสินเชื่อทำให้หลายคนที่ต้องการซื้อบ้านถูกปฏิเสธสินเชื่อไม่สามารถซื้อบ้านได้ สำหรับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2562 ประเมินจากมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ละปีจะมีมูลค่าประมาณ 700,000 ล้านบาท  


นายวิชัย เปิดเผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายครึ่งแรกปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก และพิษณุโลก มีโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 360 โครงการ มีหน่วยเหลือขาย 14,019 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 49,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 4.3 ร้อยละ 11.1 และร้อยละ 10.1 ตามลำดับ จากช่วงครึ่งแรกปี 2561 มี 345 โครงการ มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 12,616 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 45,402 ล้านบาท

ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี  ระยอง ตาก และฉะเชิงเทรา พบว่ายังมีโครงการอยู่ระหว่างขาย 1,062 โครงการ มีหน่วยเหลือขาย 62,060 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 200,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 11.6 ร้อยละ 12.2 และร้อยละ 13.6 ตามลำดับ ขณะที่ช่วงครึ่งแรกปี 2561 มี 952 โครงการ มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 55,327 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 176,108 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]