เปิดคลิปหนุ่มแว่นหัวร้อนด่ากราดคู่กรณี ลั่นไม่อยากเป็นคนไทย

นครปฐม  23 ต.ค.-หนุ่มแว่นลูกเศรษฐีดีกรีนักเรียนนอกกลับรถไม่สนกระบะ ก่อนถูกชน แต่ฟิวส์ขาดเรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน แถมด่ากราดคู่กรณีแบบคนไร้สติว่าคนไทยด้อยพัฒนา ด้าน สตช. ตรวจสอบความผิดอาญา หากพบผิดจริงจ่อดำเนินคดี


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “โต้ เจ็ดโด้” โพสต์คลิปวิดีโอสุดร้อนแรงของวันนี้ (23 ต.ค.) พร้อมระบุแคปชั่นว่า “กลับรถไม่ดูรถ มาทางตรงเลยน่ะเสี่ย ลงมาด่ากุยับเลย ไม่ตะบันหน้าให้ก็บุญแล้ว” โดยในคลิปวิดีโอความยาว 5 นาที เผยให้เห็นชายคนหนึ่งสวมแว่น เสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ เข้ามาต่อว่าผู้ถ่ายคลิป โดยมีหญิงสาวที่มาด้วยกันยกมือไหว้ขอโทษ

โดยเหตุเกิดขึ้นหลังมีการขับรถเฉี่ยวชนกันบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และชายคนดังกล่าวได้ต่อว่าด่าทอ ดูถูกเหยียดหยามคู่กรณีเหมือนคนไม่ได้สติ แถมมีการด่าเกินเลยไปยังนายกรัฐมนตรี พร้อมอ้างว่าตัวเองเป็นนักเรียนนอก เป็นลูกเศรษฐี มีเงินในบัญชี 1 ล้าน ไม่สนใจคนไทย และอายุแค่ 24 ปี แต่มีรถป้ายแดง นอกจากนี้ยังอวดอ้างสรรพคุณว่ารู้จักนายตำรวจ หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ไปที่บ้าน คาดว่าอาจคุยกับแม่ ซึ่งได้มีการตะคอกใส่คนในสายโทรศัพท์ว่า “มีโจรชนกูอ่ะ” พร้อมเดินผลักอกคู่กรณี จนทำให้ผู้ที่สัญจรไปมาต้องพยายามตะโกนมาห้ามปราม

ทั้งนี้ หญิงสาวคนดังกล่าวได้พยายามห้ามปรามหลายครั้ง และถามว่าจะรอประกันไหม แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่รอ และจะเอารถเข้าศูนย์เลย เพราะตนเองมีเงิน จะเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณี 1 ล้านบาท ก่อนที่จะเกลี้ยกล่อมให้นำรถซีวิคที่จอดอยู่กลางถนนชิดขอบทาง หลังจากนั้นหญิงสาวที่มาด้วยถามว่าจะขึ้นโรงพักอีกคดีไหม ซึ่งชายคนดังกล่าวบอกว่า “ขึ้น” และตนจะหนีคดี นอกจากนี้มีบางจังหวะพูดถึงสถาบันอย่างไม่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่า “กูเกลียดประเทศไทย” และ “ถอนสัญชาติเลย” เพราะ “ไม่อยากอยู่ที่นี่ มีแต่คนชั้นต่ำ”

สำหรับผู้รับชมคลิปนี้มีมากกว่า 10 ล้านครั้ง ภายในเวลาเพียง 5 ชม. และมีการแชร์ออกไป 1.7 แสนครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกิน 1 แสนรายการ ชนิดเรียกได้ว่านาทีต่อนาที โดยคอมเมนต์ของเหล่าชาวเฟซบุ๊ก ส่วนใหญ่ตำหนิพฤติกรรมที่ไม่มีจิตสำนึก บางส่วนมองว่าชายใส่แว่นอาจมีปัญหาทางจิต และบางส่วนก็สงสารหญิงสาวในคลิป รวมถึงชื่นชมผู้ถ่ายคลิปคู่กรณีที่ใจเย็น พูดจาด้วยความสุภาพ
    
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยตรวจสอบไปยังชายใส่แว่นดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเป็นนักเรียนนอก จบจากฝรั่งเศส แถมเปิดเพจสอนภาษาฝรั่งเศส และที่สำคัญเบื้องต้นมีรายงานข่าวว่าชายคนดังกล่าวเป็นถึงลูกนักการทูตของประเทศหนึ่งในแถบยุโรป ซึ่งในเฟซบุ๊กของเจ้าตัวขณะนี้ปิดไปแล้ว แต่ก่อนหน้านี้มีภาพชายคนดังกล่าวใช้ชีวิตในฝรั่งเศสและฟินแลนด์ มีการโพสต์ภาพนั่งกับรถยี่ห้อเฟอร์รารี่อีกด้วย


นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ยังมีการแฉพฤติกรรมเคยมีการขับรถปาดหน้ารถคู่กรณีรายอื่นเมื่้อวันศุกร์ แถมชูนิ้วกลางให้บนทางด่วน บริเวณแยกอโศก โดยชูนิ้วยาวนานกว่า 30 นาที ขณะรถติดบริเวณด่านอโศก แถมมีการกวักมือเรียกคู่กรณีให้ลงไปพูดคุย แต่คู่กรณีเห็นว่าเรื่องราวอาจบานปลาย เลยไม่สนใจ และชาวเน็ตยังเปิดเผยพฤติกรรมที่มีลักษณะคล้ายกัน หลังจากที่ชายคนดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นใช้รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ ประสบอุบัติเหตุชนกับรถคู่กรณีบนถนนสายหนึ่้ง และหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้เข้าไปขย่มรถเหมือนคนไม่ได้สติ ก่อนลงมาชี้หน้าคู่กรณี

ล่าสุดบริษัทเอกชนต้นสังกัดของชายคนดังกล่าว คือ กาซ่า ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีนี้ว่า “จากเหตุการณ์ตามคลิปที่โพสต์ลงสื่อ social media ต่างๆ ซึ่งมีพนักงานของบริษัท กาซ่า ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ใช้คำพูดและแสดงกิริยาก้าวร้าวรุนแรง รวมถึงหมิ่นประเทศไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ ทางบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พนักงานดังกล่าวพ้นสภาพการเป็นพนักงานทันที”

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา บริเวณจุดกลับรถด้านหน้าพุทธมณฑล โดยฝ่ายรถยนต์เก๋งขับมาจากฝั่งถนนเพชรเกษม มากลับรถบริเวณดังกล่าว ต่อมาฝ่ายรถยนต์กระบะได้ขับขี่มาในทิศทางตรงจากศาลายา แล้วมาถึงบริเวณจุดกลับรถ จึงได้เกิดการเฉี่ยวชนกัน แล้วมีการกระทบกระทั่งและพูดจาด่าว่ากัน ตามคลิปที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคู่กรณีได้ใช้สิทธิกับบริษัทประกันภัยตกลงไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายซ่อมรถที่เกิดจากการเกิดเฉี่ยวชนให้แก่กัน ส่วนประเด็นที่มีการด่าว่าหรือดูหมิ่นต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นความผิดต่อส่วนตัว หรือเป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน หากเป็นความผิดต่อส่วนตัวแล้วฝ่ายที่เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่รัฐสามารถกล่าวโทษได้

ส่วนกรณีชายคนดังกล่าวพูดลักษณะว่า “ตนเองอายุ 24 ปี เป็นลูกเศรษฐี มีรถป้ายแดงคันละล้านสอง มีทุกอย่างที่คู่กรณีไม่มี และตนไม่แคร์ตำรวจ เพราะตนรู้จักนายตำรวจใหญ่” นั้น แม้จะเป็นการพูดส่วนตัวของคู่กรณี ก็ไม่อยากให้มาพูดพาดพิงหรือส่งผลเสียต่อองค์กรอื่น และหากตรวจสอบแล้วพบว่าการกระทำจากเหตุการณ์ข้างต้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายใดจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ไม่มีการยกเว้นว่ารู้จักผู้ใดหรือไม่ โดยที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างลักษณะนี้เยอะ ทำให้ประชาชนมององค์กรตำรวจไม่ดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สหรัฐประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36%

วอชิงตัน 8 ก.ค. – สหรัฐประกาศมาตรการล่าสุดเรียกเก็บภาษี 36% จากสินค้านำเข้าจากประเทศไทย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเตือนอย่างชัดเจนไม่ให้ไทยใช้มาตการตอบโต้ และเรียกร้องให้ประเทศไทยเปิดตลาดเพิ่มเติม การเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่แข็งกร้าวและกว้างขวางของวอชิงตัน เพื่อแก้ไขสิ่งที่พวกเขาถือเป็น “ความไม่สมดุลทางการค้า” กับคู่ค้าทั่วโลก ในจดหมายที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Tuth Social) ของเขาในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม นายทรัมป์ระบุว่าภาษีตอบโต้ 36% นี้จะใช้กับ “สินค้าไทยทุกประเภท นอกเหนือจากภาษีเฉพาะภาคส่วนที่มีอยู่” และจะเรียกเก็บกับสินค้าที่ขนส่งผ่านประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้นด้วย จดหมายของนายทรัมป์ยังระบุว่าอัตราภาษีนี้ยังน้อยกว่าสิ่งที่ประเทศไทยจำเป็นต้องทำเพื่อขจัดความไม่สมดุลทางการค้าที่สำคัญ เขายังกล่าวว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีหากประเทศไทย หรือบริษัทของไทย ตัดสินใจสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันความต้องการที่จะทำการค้ากับประเทศไทยต่อไป แต่ยืนกรานว่าจะต้อง “สมดุลและเป็นธรรม”เขายังเชิญประเทศไทยให้เข้าร่วมเศรษฐกิจพิเศษของสหรัฐ โดยยอมรับว่าสหรัฐได้เจรจาการค้ากับประเทศไทยมาหลายปีแล้ว เนื่องจากปัญหาความไม่สมดุลที่ยืดเยื้อ นอกจากนั้นยังตือนว่า หากประเทศไทยตัดสินใจขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากภาษี 36% ที่ประกาศไปแล้ว นายทรัมป์ย้ำเหตุผลของเขาด้วยว่า การขาดดุลการค้าก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม จดหมายดังกล่าวยังเสนอแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการปรับปรุงอัตราภาษีด้วย นายทรัมป์ระบุว่าหากประเทศไทย […]

“แพทองธาร” เผย วธ. จ่อแจงปมกัมพูชาเสนอชุดไทยในงานแต่ง ขึ้นมรดกโลก

ทำเนียบ 8 ก.ค.-“แพทองธาร” เผย ก.วัฒนธรรม เตรียมแจงปมกัมพูชาเสนอชุดไทยในงานแต่ง ขึ้นทะเบียนมรดกโลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้น โดยพร้อมจะออกค่าใช้จ่ายเอง นางสาวแพทองธาร ได้หันมาถามสื่อมวลชน ว่านึกว่าจะถามเรื่องชุดไทย ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รวมถึงกรณีชุดไทยด้วย ที่กัมพูชาสอดแทรกขึ้นทะเบียนมรดกโลกในการแต่งงานแบบโบราณของกัมพูชา ไทยจะทำหนังสือทักท้วงเรื่องนี้หรือไม่โดย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่ากระทรวงวัฒนธรรมกำลังเตรียมออกแถลงคำชี้แจงเรื่องนี้ จากนั้นนางสาวแพทองธาร ได้แวะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “Taste of Southern อัตลักษณ์พื้นถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มาจัดแสดงบริเวณโถงตึกบัญชาการ โดยอุดหนุนสินค้าเป็นผ้าซาตินสองผืนลายพระราชทานสิริราชพัสตราภรณ์.-316.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด ทลายเครือข่ายก๊กอาน คนสนิท “ฮุนเซน”

กทม. 8 ก.ค.-ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด เปิดยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่ายก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino คนสนิท “ฮุนเซน” ยึดรถหรู-เงิน 27 ล้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่ กทม.สมุทรปราการ ชลบุรี […]

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]