กทม. 21 ต.ค.-เกมเมอร์ชื่อดัง ชี้เกมมีประโยชน์ แต่ผู้ปกครองควรดูแลเด็กใกล้ชิด ขณะที่จิตแพทย์ชี้เกมมีผลต่อพฤติกรรมรุนแรง ก้าวร้าว แนะรัฐบาลออกกฎหมายควบคุมจำกัดประเภทและอายุของผู้เล่น
นายภควัต ลือพัฒนสุข หรือลุงพี Game Caster เกมเมอร์ชื่อดัง ที่มีคนติดตามกว่า 1.7 ล้านคน เปิดเผยว่า ตนเข้าวงการเกมตั้งแต่เด็ก ซึ่งพ่อแม่บอกว่าเกมไม่มีประโยชน์ จึงพิสูจน์ตัวเอง ว่าเกมสร้างประโยชน์ได้ทั้งเรื่องภาษาและอาชีพ จึงเรียนรู้เพิ่มเติมต่อยอด สร้างผลงานให้พ่อแม่ยอมรับ ซึ่งอาชีพนักแคสเกมหรือพากย์เกม ขณะนี้มีความมั่นคง แต่ในอนาคตยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร จึงต้องมีอาชีพเสริมสำรองไว้ ทั้งการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและการรับทำคอนเทนต์ลงยูทูบ จึงอยากให้ผู้ปกครองเข้าใจมองมุมบวก ว่าเกมมีประโยชน์กว่าที่คิด
ส่วนตัวเห็นคลิปที่เป็นข่าวแล้วรู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าสิ่งที่ทำมาตลอด 10 ปีในการสร้างภาพลักษณ์ว่าเกมมีประโยชน์ ตอนนี้กลับกลายเป็นภาพด้านลบ และในยุคดิจิทัลผู้ปกครองควรดูแลเด็กที่เล่นเกมอย่างใกล้ชิด เพราะแนวโน้มเกมในอนาคตจะมีความเสมือนจริงมากขึ้น จนบางครั้งอาจทำให้เด็กแยกไม่ออกระหว่างโลกของความเป็นจริงกับโลกเสมือนจริง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ผลกระทบจากเกมเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะมีเรื่องของสังคมและการเลี้ยงดูมาเกี่ยวข้องด้วย
“ตลอดชีวิตผมเล่นเกมมา จนมีตัวตนได้ทุกวันนี้ก็เพราะเกม ทำไมผมยังไม่มีปัญหาจากเกม สิ่งที่เกิดขึ้นผู้ปกครองควรจะต้องแนะนำด้วยว่าหากเล่นเกมแล้วเราจะได้ประโยชน์จากเกมอย่างไร ชี้แนะแนวทางให้ลูก คลิปที่ออกมาทำให้ภาพลักษณ์ตรงนี้เสียไป สิ่งที่ผมพยายามบอกเสมอว่าเล่นเกมแล้วมีประโยชน์ตอนนี้ก็ทำได้ยากขึ้น”
นพ.ธีรนันท์ มิตรภานนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รพ.พญาไท 1 มองว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยีทำให้เกมมีความสนุกหลากหลายและเสมือนจริง ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นที่ติดเกม ผู้ใหญ่ก็ติดเกมด้วย ซึ่งการเล่นเกมเป็นเวลานานติดต่อกัน 2 ปี มีผลกับสมอง ทำให่สมองฝ่อ นอกจากนี้ยังมีผลต่ออารมณ์ที่รุนแรง มีภาวะวิตกกังวล ก้าวร้าว และซึมเศร้า ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยที่เกิดจากอาการติดเกมเพิ่มมากขึ้น วิธีการแก้ปัญหา ผู้ปกครองควรจะกำหนดเวลาให้เด็กสามารถเล่นเกมได้วันละ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นให้พบผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการเล่นเกมมีโทษเหมือนยาเสพติด ทำให้คนหมกมุ่น
“สังคมไทยตอนนี้น่าห่วงมาก เพราะคนติดเกมกันเยอะดังนั้นผู้ปกครองควรจะทำความเข้าใจกับเด็ก และรัฐบาลควรมีกฎหมายมาควบคุมดูแลเหมือนในต่างประเทศที่มีการกำหนดประเภทและอายุของเด็กที่จะเข้ามาเล่นเกม เพราะบางเกมมีความเสมือนจริงมากและมีการแสดงออกถึงความรุนแรงที่ชัดเจน ส่วนสัญญาณว่าเราจะเป็นคนติดเกมหรือไม่ให้ดูว่าเรามีความต้องการมากขึ้น ขาดไม่ได้และหมกมุ่น หงุดหงิด อึดอัด ถ้าไม่ได้เล่นเกมหรือขาดของสิ่งนั้น เมื่อสังเกตุและรู้อาการแล้ว ต้องค่อยๆปรับพฤติกรรมและพบแพทย์ และที่เด็กบอกว่าทำการบ้านเหนื่อยแล้วต้องการพักผ่อนนั้น เกมไม่ใช่ทางออกของการพักผ่อน เพราะมีการใช้สมองที่มากกว่าปกติ มีการสื่อสาร ใช้สายตามองหน้าจอจะเห็นได้ชัดเมื่อเล่นเกมจะมีอาการเครียดและหงุดหงิดง่าย” นพ.ธีรนันท์ กล่าว
บริษัท “Newzoo” ซึ่งวิจัยด้านการตลาดเกม รายงานไว้ว่า เมื่อปี 2560 มูลค่าตลาดวงการเกมในไทยปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 597 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 18,000 ล้านบาทเศษ ขณะที่ในปี 2561 มีคนเล่นเกมชาวไทย 18.3 ล้านคน รายได้รวมจากธุรกิจสูงถึง 19,000 ล้านบาท ทำให้ไทยเป็นอันดับที่ 20 ของโลกในแง่ของรายได้จากเกม และอุตสาหกรรมเกมของไทย สามารถสร้างรายได้มากเป็นลำดับที่ 19 ในโลกเป็นที่ 3 ในเอเชีย รองจากจีนและเกาหลีใต้
สำหรับสัดส่วนผู้เล่นเกมเป็นผู้หญิง 47% ผู้ชาย 53% ส่วนช่วงอายุที่เล่นมากที่สุด คือ เป็นผู้ชายอายุ 21-35 ปี และตามด้วยผู้หญิงอายุ 21-35 ปี โดยผู้เล่นในวัยทำงานเล่นเกมคลายเครียดขึ้น แต่ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงยุคใหม่ ถือว่าสัดส่วนการเล่นเกมใกล้เคียงกัน
ขณะที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO จัดให้การติดเกมเป็นโรคชนิดหนึ่ง คือ Gaming disorder เป็นอาการทางจิตที่รุนแรง และต้องบำบัดรักษา ซึ่งมีสัญญาณบ่งชี้ได้ 6 ด้าน ประกอบด้วย
1.เมื่อต้องหยุดเล่นหรือถูกขัดจังหวะจะรู้สึกโกรธ หงุดหงิด ฉุนเฉียว อย่างรุนแรง แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น และคุมอารมณ์ไม่ได้
2.แยกตัวออกจากสังคม ตัดขาดจากโลกภายนอก เลือกที่จะใช้เวลาอยู่หน้าจอมากกว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
3.ละเลยการเรียน การทำงาน ตลอดจนกิจวัตรประจำวันต่างๆ
4.คิดและหมกมุ่นอยู่แต่กับการเล่นเกม วางแผนเพื่อที่จะเอาชนะในการเล่นครั้งต่อไป และจะโมโหฉุนเฉียว ถ้าเล่นเกมแพ้
5.ไม่สามารถหยุดเล่นได้ ทั้งๆ ที่ทราบดีว่ามีผลกระทบต่อตนเองอย่างมาก
6.พฤติกรรมทางด้านลบอื่นๆ เช่น พูดโกหก หรือขโมยเงินเพื่อเอาไปเล่นเกม ไม่ยอมไปโรงเรียน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเคยรายงานสถานการณ์เกมและ E-Sport ในไทยให้คณะรัฐมนตรีเข้าใจสถานการณ์ โดยมีผลทั้งเชิงลบและเชิงบวก โดยในด้านดีมีทั้งเกิดอาชีพใหม่ๆ ทั้งแคสเตอร์เกม หรือนักรีวิว หรือนักสตรีมเมอร์เกม รวมถึงนักกีฬา E-Sport และอาชีพที่เกี่ยวข้อง สร้างความจูงใจให้เด็กเล่นเกมได้อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงอานิสงส์ด้านธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีกีฬาอีสปอร์ตที่จะเข้าสู่ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์
แต่ผลในด้านลบ อาจทำให้เด็กติดเกม มีอาการปวดหลัง มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา หรืออาจไปถึงติดการพนัน นอกจากนี้นักกีฬา E-Sport อาจมีอาชีพระยะเวลาสั้น ไม่มั่นคง และการเติบโตของวงการเกมอาจทำให้เสียดุลการค้า เพราะจะเงินจะไหลออกไปต่างประเทศ ทั้งนี้ แนวทางที่จะต้องนำมาใช้ดูแลวงการดังกล่าวจะมีการการกำหนดเรตติ้งเพื่อควบคุมอายุผู้เล่น รวมถึงออกระเบียบควบคุม และสร้างบุคลากรพัฒนาวงการเกมในประเทศ.-สำนักข่าวไทย
