กทม.18 ต.ค.-ตำรวจ มั่นใจเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ถูกออกหมายจับล่าสุดคดีการเสียชีวิตของ “พริตตี้ลันลาเบล” แม้ยังปากแข็งปฏิเสธ
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมพลตำรวจตรีนิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช น., พลตำรวจตรี สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ พริตตี้ลันลาเบล หลังเมื่อวานนี้ที่ (17 ต.ค.) ศาลอาญาธนบุรี ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีเพิ่ม 5 คนประกอบด้วย นายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี, นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี พี่ชายนายคิว, น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา อายุ 24 ปี แฟนสาวนายคิว, นายโกเมศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 35 ปี และนายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี อายุ 27 ปี ซึ่งอยู่ในงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง ในข้อหา สนับสนุนนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร กระทำความผิดในฐานพาผู้อื่นเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำจิตครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
พลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนชุดคลี่คลายคดีได้สืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานกว่า 40 ปาก รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และเอกสารถึง 150 หน้า จนสามารถขอศาลออกหมายจับนายน้ำอุ่นได้ ล่าสุด สามารถขอหมายจับผู้ต้องหาที่ให้การสนับสนุนนายน้ำอุ่นอีก 5 คน อย่างไรก็ตาม ตลอดการสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ส่วนหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่ขอหมายจับและได้รับการอนุมัติจากศาล ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี ยืนยันตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หรืละเลยต่อพยานหลักฐาน ไม่ว่าพยานหลักฐานชิ้นนั้นจะมาจากแหล่งใดก็ตาม การขอศาลออกหมายจับและได้รับการอนุมัติ เพราะมีการนำผลจากกระทรวงยุติธรรมบางส่วนมาประกอบด้วย ส่วนห้วงเวลาการเสียชีวิต ของพริตตี้ลัลลาเบล ยังคงรอผลอย่างเป็นทางการ จากแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงรอผลการตรวจซ้ำจากกระทรวงยุติธรรม
มีรายงานว่า ช่วงเวลาการตายของพริตตี้ลัลลาเบล อาจจะเสียชีวิตในรถยนต์หรือคอนโดมิเนียมของนายน้ำอุ่น แต่ต้องรอผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย