“น้ำอุ่น” รอดนอนคุก คดี “ลันลาเบล” ศาลให้ประกันตัว

กทม.14 ต.ค.- ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก “น้ำอุ่น” กับพวกอีก 5 พร้อมให้ชดใช้กว่า 7 แสน คดีการตาย “พริตตี้ลัลลาเบล” ล่าสุดศาลอาญาธนบุรีอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว วงเงินประกัน 350,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-6 สมาชิกแก๊งบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง ให้ประกันตัววงเงินประกัน 150,000 บาท


ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีการเสียชีวิตของ”พริตตี้ลัลลาเบล” มีนายรัชเดชหรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร จำเลยที่ 1, นายชัยพล หรือคิว พรรณนา จำเลยที่ 2 , นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร จำเลยที่3, น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญภา จำเลยที่ 4 , นายกฤษฎาหรือโนบิ โลหิตดี จำเลยที่ 5, นายโกเศศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ จำเลยที่ 6

 สืบเนื่องจากวันที่ 16 กันยายน 2562 เวลากลางวัน จำเลยทั้งหกได้สมคบกันกระทำความผิดฐานซ่องโจร จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย และจำเลยที่ 2 ถึง จำเลยที่ 6 เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กระทำความผิด ซึ่งจำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ


ทั้งนี้มารดาผู้ตายได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วม และยื่นคำร้องขอให้จำเลยทั้งหกชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

ศาลสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม 30 ปาก สืบพยานจำเลย  6 ปาก แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงสรุปความเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งหก ซึ่งมีพยานโจทก์เบิกความยืนยันในชั้นศาลสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยทั้งหก บันทึกการสนทนาในแอปพลิเคชันไลก์ รายงานผลการสืบสวนพฤติกรรมของบุคคล บันทึกการชี้ตัวของพยานซึ่งได้กระทำทันทีหลังเกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ

เมื่อศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ชี้ว่าจำเลยที่ 1 จบการศึกษาถึงระดับปริญญาตรี แต่ขณะที่ผู้ตายอยู่ในสภาพหมดสติมีอาการโคม่า กลับพาไปยังห้องพักในคอนโดมิเนียมของจำเลยที่ 1 จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายอาจได้รับอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที  


ส่วนจำเลยที่ 2-6 เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงในลักษณะนี้มาก่อน รู้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนามอมเหล้าผู้ตาย แต่ไม่ขัดขวางห้ามปราม กลับชักชวนให้ผู้ตายดื่มสุรา และยอมให้จำเลยที่ 1 พาผู้ตายซึ่งหมดสติออกไปจากงานเลี้ยง การกระทำของจำเลยที่ 2 -6 ดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการพาผู้ตายไปเพื่อการอนาจาร ส่วนความผิดฐานซ่องโจร โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้เห็นว่า จำเลยทั้งหกสมคบหรือตกลงจะกระทำความผิดแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2-6 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 เท่านั้น ให้ยกฟ้องในความผิดฐานซ่องโจร

ศาลพิพากษาลงโทษ นายน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุก 8 ปี, ลงโทษจำเลยที่ 2 -6 ฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานดังกล่าวให้จำคุกคนละ 5 ปี 4  เดือน และให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมจำนวน 748,660 บาทข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

หลังคำพิพากษา นายชวลิต และนางศุภามาศ นรพันธ์พิพัฒน์ บิดา มารดา”ลันลาเบล” เปิดใจทั้งน้ำตาว่า พอใจกับคำพิพากษา ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา กว่าจะผ่านไปแต่ละวันยากลำบาก วันนี้(14 ต.ค.)เหมือนคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว และจะเลี้ยงน้องแบมแบม หลานสาวให้ดีที่สุด ทุกวันนี้หลานสาวยังถามหา”แม่อยู่บนสวรรค์ มีเครื่องบินแล้วเมื่อไหร่จะกลับมา” มองว่าอาชีพพริตตี้ทุกคนสามารถทำได้ และทุกอาชีพก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิงระมัดระวังตัวและว่าตอนนี้ขาดรายได้จึงหันมาทำขนมขาย สามารถอุดหนุนได้ที่เพจ fb แบมแบมคาราเมล คอร์นเฟลค

ด้านนายชวลิต บิดา กล่าวว่า แม้จำเลยจะติดคุก สุดท้ายก็ออกมาได้อยู่ดี แต่ลูกสาวตนไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ทุกวันนี้ทำงานหนักเหมือนต้องนับหนึ่งใหม่ หลังเกิดเรื่อง อีกฝ่าย ก็ไม่เคยแม้แต่จะติดต่ออะไรมา

ขณะที่ทนายความระบุว่า อัตราโทษที่ได้รับก็สมควรแก่เหตุแล้ว ส่วนจำเลยทั้ง 6 คน จะขอยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ หลังจากนี้ สิ่งสำคัญคือ อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพ่อแม่ของ”ลัลลาเบล”เพราะต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูหลานสาว ซึ่งมีความลำบากมาก ในคำพิเคราะห์ของศาลมีการระบุถึง จำเลยที่ 1 ได้กระทำอนาจารผู้ตาย โดยใช้กลอุบายหลอกล่อให้ผู้ตายดื่มสุราในปริมาณมากและอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ตายหมดสติอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืน และได้พาผู้ตายซึ่งหมดสติขึ้นรถยนต์ไปที่คอนโดฯของจำเลยที่ 1 โดยมีเจตนาที่จะล่วงละเมิดทางเพศผู้ตาย ประกอบกับมีพยานโจทก์นายแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพให้ความเห็นว่า ผู้ตายเสียชีวิตในช่วงเวลา 15.00-19.00 น. สาเหตุการตายเกิดจากภาวะการหายใจล้มเหลวอันเนื่องจากพิษของเอทิลแอลกอฮอล์ (เอทานอล) อย่างฉับพลัน ผู้ตายมีปริมาณเอทานอลในเลือดสูงถึง431.76   มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าการดื่มสุราตามปกติ ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้ แต่หากมีการนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาก็สามารถจะช่วยชีวิตได้ ประกอบกับผู้ตายสวมใส่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ซึ่งจับการทำงานของหัวใจได้ว่ามีเลือดไหลเวียนครั้งสุดท้ายในเวลา 17.10 น. จึงเชื่อว่าผู้ตายถึงแก่ความตายระหว่าง เวลา 17.10 -19.00 น.

ล่าสุดศาลอาญาธนบุรีอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 โดยตีวงเงินประกัน 350,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-6 สมาชิกแก๊งบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง ศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยตีวงเงินประกัน 150,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข ทั้งนี้ นายเกิดผล ทนายความระบุว่า หลังจากนี้จะคัดคำพิพากษาของศาลเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งตรวจสอบ จยย.ต้องสงสัย ลานจอดรถสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ EOD เร่งตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย กลางลานจอดรถสนามบินภูเก็ต ด้าน ทภก. แจ้งไม่กระทบเที่ยวบิน แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง วันที่ 25 มิ.ย.68 ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับแจ้ง พบรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทภก. จำนวน 2 คัน ก่อนจะขับออกไปเพียง 1 คัน และทิ้งรถอีกคันไว้โดยไม่มีการแสดงตัวเป็นเจ้าของ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) กำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด โดย ทภก. ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan : ACP บทที่ 4 การตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม กรณี ตรวจพบในพื้นที่ของสนามบิน เมื่อเวลา 16.20 น. […]

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

กัมพูชาเข้มไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย

สุรินทร์ 25 มิ.ย. – ไทยเปิดด่านตามหลักมนุษยธรรม แต่กัมพูชายังเข้ม จุดช่องจอมไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย จุดผ่านแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังจากปิดด่าน ทำให้เกิดผลกระทบชาวกัมพูชากับนักเรียนกัมพูชาที่ต้องข้ามฝั่งมาเรียน โดยชาวกัมพูชาบางคนมารอตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา ยืนยันว่าจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันได้ และกลับมาเป็นเช่นเดิม ขณะที่คนขับรถส่งเด็กนักเรียน เล่าว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้ขึ้นมารับนักเรียนฝั่งกัมพูชาไปเรียนที่ฝั่งประเทศไทยไม่ได้ เป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว มีทั้งนักเรียนอนุบาลและมัธยม ฝั่งไทยเปิดด่านตนมารอรับนักเรียนฝั่งกัมพูชา เพื่อมาเรียนที่ประเทศไทยทุกวัน แต่นักเรียนฝั่งกัมพูชาข้ามมาประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากฝั่งกัมพูชาไม่เปิดประตูให้ข้ามด่านมายังไทย แม้ฝั่งไทยจะอนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ให้นักเรียนสามารถข้ามแดนไป-กลับได้ เพื่อมาโรงเรียน แต่เช้าวันนี้ รถรับ-ส่ง นักเรียน ที่เข้าไปรับนักเรียนชาวกัมพูชาที่หน้าด่าน ต้องตีรถเปล่ากลับ เนื่องจากกัมพูชาไม่เปิดประตูให้นักเรียนกัมพูชาข้ามเข้ามาเรียนในไทย ล่าสุดประตูฝั่งกัมพูชาเปิดเวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะให้ชาวกัมพูชาที่ป่วยกลับประเทศกัมพูชา หากเอกสารไม่ครบต้องไปประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการส่งกลับ รวมผู้ป่วยและพ่อค้าแม่ค้าที่ตกค้างมากกว่า 500 คน ส่วนรถตกค้างประมาณ 50 คัน ส่วนใหญ่เป็นของผู้ค้าในตลาดชายแดนช่องจอม ทั้งนี้ ฝั่งกัมพูชาปิดประตูเวลา […]