กลุ่มต้านสารพิษเรียกร้องนายกฯ ตัดสินใจยกเลิกใช้ 3 สาร

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – เครือข่ายสนับสนุนการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตรอันตราย 686 องค์กร เรียกร้องนายกฯ เร่งตัดสินใจยกเลิกใช้ 3 สาร ชี้หากปล่อยเป็นตามขั้นตอน โดยให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณามติที่ออกมาอาจไม่โปร่งใส


นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธีชีววิถี กล่าวถึงการลงนามของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในหนังสือแจ้งมติคณะทำงาน 4 ฝ่ายที่ให้ยกเลิกสารเคมี 3 ชนิด คือ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต รวมทั้งส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้ว โดยเห็นว่ากระทรวงเกษตรฯ ทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากเกษตรกรและผู้บริโภค คือ เหยื่อของสารพิษร้ายแรง 3 ชนิดมานาน ขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีไม่ปล่อยให้การตัดสินเรื่องสำคัญนี้เป็นไปตามขั้นตอนของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เนื่องจากคณะกรรมการฯ พิจารณาเรื่องนี้มา 2 ปีครึ่งแล้ว แต่ไม่มีความโปร่งใส ทุกครั้งจะอ้างว่าผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมยังไม่ชัดเจนและการใช้วิธีการอื่นมีต้นทุนสูงกว่า ซึ่งเป็นวัฎจักรซ้ำซากวนเวียนเป็นการตรึงประเทศให้ติดกับดักประเทศผลิตวัตถุดิบราคาถูกเพื่อส่งออก รวมทั้งเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมบางกลุ่มและผู้บริโภคในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลนำงบประมาณที่ระบุว่า ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจมาสนับสนุนเกษตรกร เพื่อมุ่งไปสู่ระบบการทำเกษตรและการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ได้แก่ จัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็กให้แก่เกษตรกรรายย่อย การปรับระบบการปลูกพืชให้ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการตัดสินใจใช้มาตรการทางการคลัง เพื่อกำหนดงบประมาณในการปรับเปลี่ยนให้เป็นเกษตรยั่งยืนนั้น เป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งหมด


“หากนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีไม่พูดถึงมาตรการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้ ตั้งข้อสงสัยว่า ไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนการยกเลิกสารพิษ ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข หรือคณะกรรมการวัตถุอันตรายเท่านั้น รวมทั้งเห็นว่าใจร้ายมากที่ปล่อยให้เกษตรกรรายย่อยต้องมาต่อสู้ มาทะเลาะกับผู้บริโภคที่ต้องการอาหารและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และเชื่อว่าไม่มีเกษตรกรคนใดที่เต็มใจใช้สารพิษ เพื่อทำร้ายตนเองและผู้อื่น หากมีทางเลือกปลอดภัยกว่า โดยไม่ต้องรับภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น” นายวิฑูรย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ