กรุงเทพฯ 13 ต.ค.-“ศรีสุวรรณ” เตรียมร้อง ป.ป.ช. สอบ “ธนาธร” ให้ท้ายม็อบฮ่องกง-ฝ่าฝืนจริยธรรม กระทบความสัมพันธ์และเกียรติภูมิประเทศ พร้อมยื่นสอบ “พล.อ.อภิรัชต์” ไม่เป็นกลางทางการเมือง สร้างความขัดแย้ง แทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย ผิดระเบียบและวินัยทหาร 15 ต.ค.นี้
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพลเฟสบุ๊คส่วนตัว เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้ จะไปยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เพื่อให้ไต่สวน
สอบสวนพฤติการณ์และการกระทำของนายธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ
ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้อยแรงหรือไม่ กรณีนายโจชัว
หว่อง
หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โพสต์รูปถ่ายคู่กับนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า
มีโอกาสได้พบเจอและแลกเปลี่ยนทัศนะทางการเมืองกับนายธนาธร ระหว่างร่วมงานประชุม “Open Future
Forum” ในฮ่องกง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเสี่ยงที่จะกลายเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมาทันที หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy
in Bangkok เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
ได้โพสต์ข้อความบางส่วน ระบุ นักการเมืองไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน
ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของนายธนาธรในเวทีการประชุมข้างต้นทำนองว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ภาพที่นายธนาธรถ่ายคู่กับนายโจชัว หว่อง
กลายเป็นข่าวในเชิงสัญลักษณ์ที่แพร่หลายในสื่อของประเทศจีนและทั่วโลก รวมทั้งในโซเชียลมีเดีย ทำให้ดูเสมือนว่านักการเมืองไทยได้สมคบหรือติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน
ตามที่เพจเฟซบุ๊กของสถานเอกอัคราชฑูตจีนโพสต์ แม้นายธนาธรจะออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว
ว่าได้พบนายโจซัว หว่อง เพียง 5 นาทีก็มิได้หมายความว่าจะมิได้ติดต่อกันในทางอื่นได้
ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความละเอียดอ่อนในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทย-จีน
ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ
และความมั่นคงของรัฐได้
หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ ยังโพสต์ด้วยว่าจะยื่นให้ ป.ป.ช. ไต่สวน สอบสวน
ว่าคำพูดและการกระทำดังกล่าวของพล.อ.อภิรัชต์
คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก จัดบรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา
จงใจที่จะฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯและกฎหมายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อนายทหารอื่นๆที่ยังเคารพในเกียรติยศ
ศักดิ์ศรี ของการเป็นทหารอาชีพ ไม่ฝักใฝ่ทางการเมือง และมีความเป็นกลาง
เพราะในการบรรยายดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงลักษณะความไม่เป็นกลางทางการเมือง สะท้อนให้เห็นว่ามีทัศนคติทางการเมืองแบบเลือกข้าง ซึ่งขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาททางการเมือง
ที่ผู้นำเหล่าทัพที่ไหนๆในโลกเขาไม่นิยมทำกัน
โดยที่ผู้นำเหล่าทัพไม่ควรเลือกข้างทางการเมือง
หรือแสดงความเห็นในลักษณะประกาศจุดยืน
จนอาจเป็นการแทรกแซงกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย จนทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในประเทศเสียเอง ทั้งที่ พล.อ.อภิรัชต์ เคยเป็นถึงอดีตเลขาธิการ
คสช. ซึ่งพยายามสร้างความปรองดอง-สร้างการสมานฉันท์ขึ้นภายในประเทศ
และเป็นถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม และเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ซึ่งหากมีข้อขัดข้องใด ๆ ควรนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในกรรมาธิการหรือที่ประชุมของวุฒิสภา หรือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเห็นว่าการพูดของพล.อ.อภิรัชต์ อาจเป็นการฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม
2551 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร 2476 นอกจากนั้นในฐานะที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา
ยังอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อีกด้วย. สำนักข่าวไทย