ตัดวงจรโรคระบาดใบด่างมันสำปะหลัง

กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – กรมวิชาการเกษตรเร่งตัดตอนวงจรโรคระบาดใบด่างมันสำปะหลัง ควบคุมการขนย้ายต้นพันธุ์และท่อนพันธุ์อย่างเข้มงวด ยกพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นต้นแบบหยุดยั้งการระบาดของโรค  พร้อมแนะนำให้เกษตรกรซื้อต้นพันธุ์และท่อนพันธุ์มันสะอาดจาก 38 จังหวัด


นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ขณะนี้พบการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังใน 15 จังหวัด  ได้แก่ อุบลราชธานี  ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี  ฉะเชิงเทรา ชลบุรี กาญจนบุรี สระแก้ว ระยอง นครสวรรค์ ลพบุรี ขอนแก่น และมหาสารคาม รวมพื้นที่ 55,924 ไร่  โดยทำลายต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตามหลักวิชาการไปแล้ว 13,111 ไร่   

ทั้งนี้ การระบาดเพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการใช้ท่อนพันธุ์ติดโรคที่มาจากแหล่งระบาดของโรค กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร จึงร่วมกันกำหนดแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลังอย่างเข้มงวด ได้แก่ ควบคุมการขนย้ายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากแหล่งที่พบการระบาดของโรค โดยใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542  อีกทั้งสำรวจและเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง


อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการสำรวจการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในจังหวัดนครราชสีมาพบว่ามีการระบาดของโรคใบด่างลดลงเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาได้ออกประกาศการควบคุมการขนย้ายต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง และหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาต  และวิธีการขนย้ายต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง   ซึ่งเป็นการป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังจากพื้นที่มีการระบาดของโรคไม่ให้แพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น  รวมทั้งได้ดำเนินการสำรวจและกำจัดต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคใบด่างออกจากแปลงหรือทำลายแปลงที่มีการระบาดของโรคทันที จึงจะใช้เป็นต้นแบบในจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งแนะนำเกษตรกรให้ซื้อท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดในพื้นที่ไม่พบการระบาดของโรคใบด่าง 38 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์  กำแพงเพชร  จันทบุรี  ชัยนาท  ชัยภูมิ  เชียงราย  เชียงใหม่  ตาก  นครนายก  นครพนม  นราธิวาส  น่าน  บึงกาฬ  ปทุมธานี  ประจวบคิรีขันธ์  พะเยา  พิจิตร  พิษณุโลก  เพชรบุรี  เพชรบูรณ์  แพร่  มุกดาหาร  ยโสธร  ร้อยเอ็ด  ราชบุรี  ลำปาง  ลำพูน  เลย  สกลนคร สระบุรี  สุโขทัย  สุพรรณบุรี  หนองคาย  หนองบัวลำภู  อำนาจเจริญ  อุดรธานี  อุตรดิตถ์  และอุทัยธานี 

“ขอย้ำเตือนเกษตรกรทั้ง 53 จังหวัด ที่ปลูกมันสำปะหลังให้เลือกซื้อท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากแหล่งที่ไม่มีการระบาดของโรคใบและไม่ควรใช้พันธุ์มันสำปะหลังที่อ่อนแอต่อโรคใบด่าง  หมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลังอย่างสม่ำเสมอ  หากพบการระบาดของโรคให้รีบดำเนินการทำลายตามหลักวิชาการที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำทันทีเพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคไปยงพื้นที่อื่นซึ่งหากทำได้ทุกจังหวัดจะเป็นการตัดวงจรโรคใบด่างมันสำปะหลังที่ได้ผลดีที่สุด” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]

ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”

กทม. 13 พ.ค.-ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”​ ไขก๊อก สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และความกังวลถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แล้ว และพล.อ.ประวิตรได้อวยพรขอให้ทั้ง2คนโชคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พลังประชารัฐ คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี2562 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ใน พรรคพลังประชารัฐ คือรองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค.-319.-สำนักข่าวไทย

นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน

ปทุมธานี 13 พ.ค. – นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน ทำชนะเลือกตั้ง ชี้หญ้าหวานมีประโยชน์ ให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ได้หมายถึงหญ้าอีกแบบที่คนไปตีความกัน จากกรณีนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ควงภรรยา และลูกพีช หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชาย นั่งแถลงข่าวประกาศชัยชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี และนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวตำบลธัญบุรี ในเขตเทศบาลตำบลธัญบุรี ที่ให้ความไว้วางใจตนและครอบครัว มาเป็นตัวแทนรับใช้พี่น้องชาวธัญบุรี พร้อมมีช่วงหนึ่งที่ระบุว่า ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน ถ้ากินหญ้าขม ผมคงไม่ได้รับชัยชนะ พ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีทานหญ้าหวาน และจะทานตลอดไป หลังจากที่นายกเบี้ยวพูดจบ ก็ได้รับเสียงเฮจากกองเชียร์ ที่แห่แหนไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ขณะที่ชาวโซเชียลบางส่วนกลับเห็นต่างว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะตีความไปได้หลายความหมาย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปหานายกเบี้ยวถึงเรื่องนี้ นายกเบี้ยวบอกเพียงสั้นๆ ว่า คนตีความกันไปใหญ่โต แต่เจตนาของตน คือ หญ้าหวานเป็นของมีประโยชน์ และคนธัญบุรี ก็ชอบกินของที่มีประโยชน์ ด้านกัน จอมพลัง คู่กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นมือที่ 3 เข้าแทรกเรื่องที่นายสมิทธิพัฒน์ จะเข้าไปเยียวยาลุงกับป้า ที่ถูกลูกพีชขับรถบีเอ็มป้ายแดงเบียด […]