เดือดร้อนหนักหลัง “บังฟัต” นำที่ไปจำนอง

กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – วันนี้ ผู้เสียหายในคดี “บังฟัต” สังหารหมู่ 8 ศพ ที่ จ.กระบี่ เมื่อปี 2561 เดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ครอบครัวเดือดร้อนมาตลอด โดยเฉพาะบ้าน 2 หลัง ที่ถูก “บังฟัต” นำไปจำนองกับธนาคาร ตอนนี้ถูกสำนักงานบังคับคดีติดประกาศยึด และประกาศขายทอดตลาด ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องย้ายออกจากบ้านวันไหน 


น้ำตาของ อาส้า บุตรเติบ ยังคงไหลออกมาทุกครั้ง เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่นายวรยุทธ สังหลัง หรือ ผู้ใหญ่บัติ ซึ่งเป็นลูกเขย พร้อมลูกหลาน รวม 8 ชีวิต ถูกนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต พร้อมพวก สังหารอย่างโหดเหี้ยม ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้ผ่านมาแล้ว 2 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิตบังฟัต และพวกรวม 7 คน ยกเว้นภรรยาบังฟัต ที่พิพากษาจำคุก 12 เดือน


ไม่เพียงชีวิตลูกหลานที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ บ้าน 2 หลัง ถูกสำนักงานบังคับคดี จ.กระบี่ ติดประกาศยึด และประกาศขายทอดตลาด เพราะไม่ใช่ชื่อของนายวรยุทธ ไม่ใช่ชื่อของนางอาส้าและสามีอีกแล้ว นับจากพวกเขาขายฝากบ้านให้กับบังฟัต ตอนนั้นบังฟัตใช้กลโกง ให้เซ็นชื่อโอนโฉนดบ้านให้บังฟัตกับนายทุนของเขา หลอกว่าหากผู้ใหญ่บัติชำระเงินที่ขายฝากครบ 600,000 บาท จะโอนชื่อกลับคืนให้ แต่บังฟัตและนายทุนนำโฉนดที่เป็นชื่อของตัวเองแล้วไปจำนองกับธนาคาร โดยบ้านหลังเกิดเหตุ จำนองกว่า 1.6 ล้านบาท


ส่วนบ้านหลังของพ่อตาแม่ยายผู้ใหญ่บัติ จำนองกว่า 700,000 บาท รวม 2 แปลง บังฟัตและนายทุนได้เงินไปกว่า 2.3 ล้านบาท จากนั้นไม่ผ่อนชำระ ปล่อยให้ธนาคารยึด ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้ผู้ใหญ่บัติและบังฟัตทะเลาะกัน และสุดท้ายบังฟัตพาพวกบุกสังหาร 8 ศพ ทุกวันนี้ประกาศของสำนักงานบังคับคดียังถูกติดไว้ที่หน้าบ้านทั้ง 2 หลัง ทั้งประกาศยึดบ้าน และประกาศขายทอดตลาด 4 ครั้ง 

การสูญเสียลูกหลาน 8 ชีวิต ทำให้ จรีย์ บุตรเติบ ต้องประคองครอบครัวให้ผ่านความยากลำบาก แต่ปัญหาอันมากมายรุมเร้าให้เขาเริ่มอ่อนล้า โดยเฉพาะบ้าน 2 หลัง ที่ตกเป็นของธนาคาร ซึ่งทนายความจากสภาทนายความฯ ช่วยเหลือทางคดีด้วยการร้องขัดทรัพย์ว่าบ้าน 2 หลังนั้นไม่ใช่ของบังฟัตและนายทุนของบังฟัต 

ทนายความของครอบครัว บอกว่า ศาลนัดพิจารณาการร้องขัดทรัพย์บ้านทั้ง 2 หลัง ต้นปี 2563 เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ ว่าใครเป็นเจ้าของบ้านตามกฎหมาย ซึ่งหากศาลมีคำสั่งว่าเป็นบ้านของบังฟัตและนายทุน ไม่ใช่บ้านของพวกเขา จะทำให้ครอบครัวนี้ต้องหาที่อยู่ใหม่ หรือหาเงินมาซื้อบ้านกลับคืนในการขายทอดตลาด 

และในวันนี้ พวกเขาเดินทางมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อให้ช่วยเหลือในความเดือดร้อนที่กำลังเผชิญอยู่อย่างมากมายในขณะนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา