สนามช้าง 5 ต.ค. – คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และกลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ สนใจเข้าร่วมชมงาน Moto GP 2019 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
เข้าสู่วันที่ 2 ของการจัดงานพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ หรือ Moto GP 2019 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเลียบชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 ของฤดูกาล และนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับเวิลด์คลาสรายการนี้ จากความร่วมมือของทั้งภาครัฐ และเอกชน วันที่ 4-6 ตุลาคม ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สำหรับบรรยากาศตลอดช่วงเช้าวันนี้เริ่มการซ้อมครั้งที่ 3 เวลา 09.00น. และการจัดอันดับสตาร์ทในรอบควอลิฟายของทั้ง 3 คลาส ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 12.20 น. ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้โซนกิจกรรมต่างๆ เช่น หมู่บ้านอีสานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกทัพมาแสดง การสาธิตการทำอาหารพื้นถิ่น และบูธกิจกรรมอื่นๆ มีน้ำท่วมขังประมาณ 3-4 เซนติเมตร ส่วนในสนามแข่งขันมีระบบการระบายน้ำที่ดีจึงไม่เป็นผลต่อการซ้อมในรอบที่ 3 ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะบิ๊กไบค์ยังคงทยอยเข้าร่วมชมงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานทุกภาคส่วนต่างให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์ให้ไทยกลายเป็นสปอร์ตทัวร์ริซึ่ม หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการเป็น Gastronomy Tourist หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหาร สู่การท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourist โดยเชื่อมโยงกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยในส่วนของ ททท. จะสร้างภาพจำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย เบื้องต้นขณะนี้การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบโมโตจีพี ที่ จ.บุรีรัมย์ กอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ มาราธอน ไตรกีฬา และไหว้ครูมวยไทย ได้ถูกบรรจุลงในแผน Sport Tourist ของ ททท. ไว้แล้ว ขณะเดียวกันนักกีฬาชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้สร้างรายได้การจากท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ในส่วนของรายการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (6ต.ค.62) จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในรุ่นโมโตทรีจะเริ่มต้นในเวลา 11.00น. ต่อด้วยโมโตทูในเวลา 12.20น. และปิดท้ายด้วยรุ่นโมโตจีพีซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเวลา 14.00น. ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้ชมงานประมาณ 3 แสนคน มากกว่าปีก่อนที่ 2.2 แสนคน เกิดเงินสะพัดในจังหวัดบุรีรัมย์ 600 ล้านบาท และเกิดรายได้หมุนเวียนภายในประเทศไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท .-สำนักข่าวไทย