พรรคเพื่อไทย 4 ต.ค.-7 พรรคฝ่ายค้าน ชี้ กอ.รมน.แจ้งความ ม.116 หวังผลทางการเมือง ปิดปากฝ่ายค้าน เตรียมแจ้งความนายทหาร กอ.รมน.กลับ ฐานแจ้งความเท็จ
แกนนำและตัวแทนจาก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมหารือถึงกรณีที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้รับมอบอำนาจจากแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ตามมาตรา 116 กับแกนนำ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านและนักวิชาการรวม 12 คน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายพรรค กล่าวว่า การดำเนินการของ กอ.รมน.เรื่องนี้ไม่เข้าข่ายตามมาตรา 116 และถือว่าเป็นการใช้มาตรานี้ฟุ่มเฟือย เพราะการจัดเวทีเสวนารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จังหวัดปัตตานี เป็นการให้ข้อมูลทางวิชาการและใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ชี้ให้เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านย้ำมาตลอดว่าจะไม่ไปแตะต้องหมวด 1 และหมวด2ที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน จึงไม่เข้าข่ายตามมาตรา116 ที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย หรือเป็นมูลเหตุจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดิน และไม่ได้สร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขั้นที่จะก่อความไม่สงบ จึงมองว่าการกระทำดังกล่าวมุ่งหวังผลทางการเมืองเพื่อปิดปากนักการเมือง เบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตว่า กอ.รมน.ที่ไปแจ้งความดำเนินคดี เป็นหน่วยงานขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ดังนั้นในทางกฎหมายจึงเท่ากับว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการให้ไปแจ้งความดำเนินคดี จึงจำเป็นจะต้องมีการคุยกันในอีกมิติว่า อำนาจในการเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยไม่มีมาตรา 44 ทำได้หรือไม่ เพราะ กอ.รมน.ต้องปฏิบัติตามมติ ครม. และหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า 7 พรรคฝ่ายค้านจะประสานนักวิชาการที่รณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกกล่าวหา เพื่อดำเนินคดี ฐานแจ้งความเท็จ กับผู้แจ้งความและผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งจะดูว่ารวมไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า ขณะนี้เราอยู่ในยุคของประชาธิปไตย แม้จะไม่เต็มใบก็ตาม แต่เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชนดังนั้นการแจ้งความกับส.ส 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านเท่ากับเป็นการแจ้งความประชาชน ถ้าแน่จริงก็ควรไปแจ้งความ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ถวายสัตย์ไม่ครบ จะดีกว่า
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การดำเนินงานสร้างความมั่นคง ควรใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ไม่ควรให้ใช้อำนาจหน้าที่ไปละเมิดสิทธิของประชาชน เพราะสุดท้ายอาจจะเป็นเงื่อนไข ทำให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อนเอง และหลังจากนี้ก็จะมีมาตรการดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้ โดยในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.นี้จะไปดำเนินคดีกับนายทหารที่มาแจ้งความดำเนินคดีกับพวกตน .-สำนักข่าวไทย