อาลัย “อนุ” หนุ่มกู้ภัยอยุธยา ฮีโร่ช่วยน้ำท่วมเสียชีวิตรายที่ 3

ภูมิภาค 3 ต.ค.- หนุ่มอาสามูลนิธิพุทไธสวรรย์ ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมที่ร้อยเอ็ด เกิดป่วยกะทันหันติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิต นับเป็นกู้ภัยรายที่ 3 ที่เสียชีวิตจากการช่วยน้ำท่วมในภาคอีสานในช่วงนี้


ที่วัดสหกรณ์ธรรมนิมิต ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวสุขสมอรรถจัดพิธีรดน้ำศพนายอนุ สุขสมอรรถ อายุ 30 ปี ที่เสียชีวิตจากการไปช่วยเหลือน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด


น้าของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้ตายมีพี่น้อง 4 คน เป็นลูกคนโต ปกติจะคอยช่วยแม่ขายกระเพาะปลา พอตกกลางคืนก็จะออกไปช่วยเหลือสังคมเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์จุดกิตติ อ.วังน้อย เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 1 กันยายน ร่วมเดินทางไปกับมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน ช่วงที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด เกิดป่วย และมีไข้ขึ้นสูงกะทันหัน จึงเดินทางกลับมาบ้าน และอาการไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 6 กันยายน พาหลานชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชธานี จากนั้นไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลวังน้อย แต่อาการไม่ดีขึ้น ไข้ขึ้นสูงอยู่ตลอด จนต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อาการก็ไม่ดีขึ้น แพทย์แจ้งว่า ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและกำลังขึ้นไปที่สมอง จึงให้ญาติทำใจ  ตอนนี้ครอบครัว พ่อแม่ ต่างโศกเศร้า แต่ยังภูมิใจที่ลูกเกิดมาเป็นคนดีช่วยเหลือสังคมจนวินาทีสุดท้าย


ด้านนายพรศักดิ์ เรรุราช หัวหน้าชุดกู้ภัยจุดกิตติอำเภอวังน้อย อาของผู้ตาย  เล่าว่า ช่วงวันที่ 1และ 2 กันยายน ทีมกู้ภัยลงพื้นที่อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม มีฝนตกอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา และตกเย็นวันที่ 2 นายอนุบอกว่า รู้สึกหนาวสั่น และมีไข้ขึ้นสูง จึงให้นายอนุ นอนพักผ่อน วันรุ่งขึ้นทีมงานลงพื้นที่ต่อ และเห็นว่านายอนุ อาการไม่ดี จึงได้ถอนกำลังกลับ จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนนี้ทุกคนต่างโศกเศร้าและเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายอนุ ทั้งนี้ พิธีฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม เวลา 16.00 น.

การลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมผู้ประสบภัยในภาคอีสานปีนี้ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิตถึง 3 รายแล้ว โดยนายอนุ เป็นรายที่ 3 ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน นายมนตรี บู่คำ หรือ “ป๋าแสง” ประธานบริหารกิจการ ประสานงาน อปพร.จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ประสานงานชุดเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย เกิดอาการหมดสติและหัวใจหยุดเต้นบริเวณท่าน้ำตลาดใหญ่ ระหว่างการเตรียมเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ และเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในช่วงสายวันที่ 1 ต.ค. ท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกศิษย์ โดยป๋าแสงลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่เดือน 28 สิงหาคม 2562 จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2562 โดยไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอตลอด 1 เดือน

สำหรับกำหนดการจะมีสวดพระอภิธรรมจนถึงวันที่ 6 ต.ค.62 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในเวลา 16.00 น .ที่วัดแจ้ง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี

และอีกราย วันที่ 14 กันยายน นายดำรงศักดิ์ เจียดประโคน อาสาสมัครกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมประจำจุด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เจ้าของนามเรียกขาน “จรรยา 802” และยังเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านกรวด ที่เสียชีวิตด้วยอาการปอดติดเชื้อและติดเชื้อในกระแสเลือด หลังกลับจากนำทีมอาสากู้ภัยนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี

โกงความตายจากป่วยช่วยน้ำท่วม กู้ภัยที่จันทบุรีอาการดีขึ้น

ส่วนที่ จ.จันทบุรี นางสุจิตรา ศรีนาม ภริยานายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจันทบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายอำเภอแหลมสิงห์ นำคณะเหล่ากาชาด นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินบำรุงขวัญ เข้าเยี่ยมอาการของนายตระกูล อภิชิตวงศ์นุชิต อายุ 51 ปี หรือ พี่กุ้ง ชาว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ อาสมัครกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ที่เข้ามารับการรักษาตัวจากอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ขั้นวิกฤติจนหัวใจหยุดเต้น หลังเดินทางกลับจากไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด และยังกลับมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำป่าเทือกเขาสระบาปไหลหลากธารน้ำตกพลิ้ว เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ จ.จันทบุรี จนตัวเองประสบอุบัติเหตุถูกไม้กระแทกขา ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาด และเริ่มมีอาการป่วยหนักสุดมีไข้ขึ้นสูง จนพี่น้องต้องพาตัวเข้าโรงพยาบาล แต่อาการทรุดหนัก จึงถูกรีเฟอร์ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ซึ่งอาการหนักมาก ให้ญาติทำใจ จนในที่สุดก็ช็อกหมดสติไป ก่อนแพทย์ช่วยปั๊มหัวใจทำให้รอดกลับมาจากความตาย

นายตระกูล บอกอีกว่า ขณะนี้อาการดีขึ้นมากตามลำดับ และเมื่อกลับไปหายดีเป็นปกติแล้ว ยืนยันหนักแน่นว่าจะกลับไปเป็น อาสากู้ภัยทำงานช่วยเหลือสังคมอีกเช่นเดิม เพราะมันอยู่ในสายเลือด และเชื่อว่าบุญกุศลที่ตัวเองสั่งสมมาได้บันดาลให้ตนเอง รอดจากความตาย เพื่อมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล