อาลัย “อนุ” หนุ่มกู้ภัยอยุธยา ฮีโร่ช่วยน้ำท่วมเสียชีวิตรายที่ 3

ภูมิภาค 3 ต.ค.- หนุ่มอาสามูลนิธิพุทไธสวรรย์ ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมที่ร้อยเอ็ด เกิดป่วยกะทันหันติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิต นับเป็นกู้ภัยรายที่ 3 ที่เสียชีวิตจากการช่วยน้ำท่วมในภาคอีสานในช่วงนี้


ที่วัดสหกรณ์ธรรมนิมิต ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวสุขสมอรรถจัดพิธีรดน้ำศพนายอนุ สุขสมอรรถ อายุ 30 ปี ที่เสียชีวิตจากการไปช่วยเหลือน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด


น้าของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้ตายมีพี่น้อง 4 คน เป็นลูกคนโต ปกติจะคอยช่วยแม่ขายกระเพาะปลา พอตกกลางคืนก็จะออกไปช่วยเหลือสังคมเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์จุดกิตติ อ.วังน้อย เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 1 กันยายน ร่วมเดินทางไปกับมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน ช่วงที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด เกิดป่วย และมีไข้ขึ้นสูงกะทันหัน จึงเดินทางกลับมาบ้าน และอาการไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 6 กันยายน พาหลานชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชธานี จากนั้นไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลวังน้อย แต่อาการไม่ดีขึ้น ไข้ขึ้นสูงอยู่ตลอด จนต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อาการก็ไม่ดีขึ้น แพทย์แจ้งว่า ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและกำลังขึ้นไปที่สมอง จึงให้ญาติทำใจ  ตอนนี้ครอบครัว พ่อแม่ ต่างโศกเศร้า แต่ยังภูมิใจที่ลูกเกิดมาเป็นคนดีช่วยเหลือสังคมจนวินาทีสุดท้าย


ด้านนายพรศักดิ์ เรรุราช หัวหน้าชุดกู้ภัยจุดกิตติอำเภอวังน้อย อาของผู้ตาย  เล่าว่า ช่วงวันที่ 1และ 2 กันยายน ทีมกู้ภัยลงพื้นที่อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม มีฝนตกอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา และตกเย็นวันที่ 2 นายอนุบอกว่า รู้สึกหนาวสั่น และมีไข้ขึ้นสูง จึงให้นายอนุ นอนพักผ่อน วันรุ่งขึ้นทีมงานลงพื้นที่ต่อ และเห็นว่านายอนุ อาการไม่ดี จึงได้ถอนกำลังกลับ จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนนี้ทุกคนต่างโศกเศร้าและเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายอนุ ทั้งนี้ พิธีฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม เวลา 16.00 น.

การลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมผู้ประสบภัยในภาคอีสานปีนี้ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิตถึง 3 รายแล้ว โดยนายอนุ เป็นรายที่ 3 ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน นายมนตรี บู่คำ หรือ “ป๋าแสง” ประธานบริหารกิจการ ประสานงาน อปพร.จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ประสานงานชุดเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย เกิดอาการหมดสติและหัวใจหยุดเต้นบริเวณท่าน้ำตลาดใหญ่ ระหว่างการเตรียมเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ และเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในช่วงสายวันที่ 1 ต.ค. ท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกศิษย์ โดยป๋าแสงลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่เดือน 28 สิงหาคม 2562 จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2562 โดยไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอตลอด 1 เดือน

สำหรับกำหนดการจะมีสวดพระอภิธรรมจนถึงวันที่ 6 ต.ค.62 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในเวลา 16.00 น .ที่วัดแจ้ง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี

และอีกราย วันที่ 14 กันยายน นายดำรงศักดิ์ เจียดประโคน อาสาสมัครกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมประจำจุด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เจ้าของนามเรียกขาน “จรรยา 802” และยังเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านกรวด ที่เสียชีวิตด้วยอาการปอดติดเชื้อและติดเชื้อในกระแสเลือด หลังกลับจากนำทีมอาสากู้ภัยนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี

โกงความตายจากป่วยช่วยน้ำท่วม กู้ภัยที่จันทบุรีอาการดีขึ้น

ส่วนที่ จ.จันทบุรี นางสุจิตรา ศรีนาม ภริยานายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจันทบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายอำเภอแหลมสิงห์ นำคณะเหล่ากาชาด นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินบำรุงขวัญ เข้าเยี่ยมอาการของนายตระกูล อภิชิตวงศ์นุชิต อายุ 51 ปี หรือ พี่กุ้ง ชาว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ อาสมัครกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ที่เข้ามารับการรักษาตัวจากอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ขั้นวิกฤติจนหัวใจหยุดเต้น หลังเดินทางกลับจากไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด และยังกลับมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำป่าเทือกเขาสระบาปไหลหลากธารน้ำตกพลิ้ว เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ จ.จันทบุรี จนตัวเองประสบอุบัติเหตุถูกไม้กระแทกขา ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาด และเริ่มมีอาการป่วยหนักสุดมีไข้ขึ้นสูง จนพี่น้องต้องพาตัวเข้าโรงพยาบาล แต่อาการทรุดหนัก จึงถูกรีเฟอร์ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ซึ่งอาการหนักมาก ให้ญาติทำใจ จนในที่สุดก็ช็อกหมดสติไป ก่อนแพทย์ช่วยปั๊มหัวใจทำให้รอดกลับมาจากความตาย

นายตระกูล บอกอีกว่า ขณะนี้อาการดีขึ้นมากตามลำดับ และเมื่อกลับไปหายดีเป็นปกติแล้ว ยืนยันหนักแน่นว่าจะกลับไปเป็น อาสากู้ภัยทำงานช่วยเหลือสังคมอีกเช่นเดิม เพราะมันอยู่ในสายเลือด และเชื่อว่าบุญกุศลที่ตัวเองสั่งสมมาได้บันดาลให้ตนเอง รอดจากความตาย เพื่อมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย