ตร.บุคคโล สอบเพิ่มแก๊งปาร์ตี้-ครอบครัวลันลาเบล ให้ปากคำ สภ.บางบัวทอง

กรุงเทพฯ, นนทบุรี 3 ต.ค.- ยิ่งขุดยิ่งเจอหลักฐานที่เกี่ยวโยงกับคดี “ลันลาเบล” ที่ล่าสุดมีการสอบขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มลับเรียกเก็บค่าสมาชิกสำหรับดูภาพลามกและการร่วมเพศโชว์สด โดยวันนี้แก๊งปาร์ตี้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.บุคคโล ขณะที่ครอบครัวลันลาเบล เข้าให้ปากคำที่ สภ.บางบัวทอง และในวันพรุ่งนี้ จะทราบผลชันสูตรขั้นสูงในการเสียชีวิตของลันลาเบล


แก๊งปาร์ตี้ 5 คน ที่มาให้ปากคำวันนี้ ประกอบด้วย นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ นายชัยพล พรรณา หรือ คิว น.ส.พิกุลทอง บุญภา หรือ เฟิร์ส นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือ ปิงปอง ซึ่งทั้งสี่เป็นผู้ต้องหาคดีซ่องโจร และร่วมกันอนาจารฯ ในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง ส่วนอีกคน คือ วาววา แฟนสาวของรุ่ง ผู้ที่อยู่ในงานปาร์ตี้วันเกิดเหตุด้วย ทั้งหมดเดินทางมาพร้อมทนายความเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ตามที่ได้ประสานมาพบในประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย


ขณะที่ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เดินทางมาร่วมสอบปากคำทั้ง 5 คน ด้วยตัวเอง บอกว่าต้องการเก็บบางประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันในโซเชียลฯ แต่ไม่เกี่ยวกับประเด็นผลการชันสูตร โดยแยกสอบคนละห้อง และในวันนี้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น ผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ในบางประเด็นที่ยังสงสัย เพื่อทำให้ประเด็นของช่วงเวลาการเสียชีวิตชัดเจน และแคบลงมากที่สุด

การสอบสวนนานเกือบ  4 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ มีเพียง วาววา แฟนสาวของรุ่ง ยอมรับ อยู่ในเหตุการณ์ และเห็นน้ำอุ่นอยู่กับเบลจริง แต่ตนเองได้กลับออกจากบ้านมาก่อน ไม่เห็นว่าน้ำอุ่นพาเบลออกมาในสภาพไหน ยืนยันว่า รุ่ง แฟนหนุ่มตน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้แน่นอน


ส่วนทนายความให้ข้อมูลว่า  การสอบปากคำในวันนี้เป็นเรื่องลำดับเวลา หรือไทม์ไลน์ ขณะจัดปาร์ตี้  ซึ่งตำรวจเคยสอบถามไปแล้ว ไม่มีเรื่องอื่นเพิ่มเติม ซึ่งลูกความของตนไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งหมดต่างเต็มใจให้ปากคำ ขณะนี้ตำรวจยังไม่เรียกสอบปากคำบุคคลอื่นที่อยู่ในบ้านปาร์ตี้ นอกจาก 5 คนนี้

สำหรับผลชันสูตรขั้นสูงจะออกมาในวันพรุ่งนี้  โดยตำรวจจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ในเวลาประมาณ 09.00-10.00 น. เพื่อรับผลชันสูตรขั้นสูงมาประกอบสำนวน แต่จะยังไม่มีการแถลงผลชันสูตรให้สื่อมวลชนทราบ

“อัจฉริยะ” งัดหลักฐานเด็ดเปิดกลุ่มลับเรียกเก็บค่าสมาชิก

หลักฐานในคดีนี้ยังมีออกมาต่อเนื่อง จากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม วันนี้นำคลิปวิดีโอและภาพถ่ายลามกอนาจารของ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีซ่องโจรและอนาจาร ในบ้านจัดปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง มอบให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อขยายผล หลังพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับทาง Camfrog Line และ Facebook เก็บค่าสมาชิก สำหรับดูภาพลามกและการร่วมเพศโชว์สด

นายอัจฉริยะ บอกว่า  คลิปมีความยาวกว่า 40 นาที  เป็นภาพ 1 ใน 8 ผู้ต้องหา แสดงการร่วมเพศกับหญิงสาว และมีการนำไปเผยแพร่ผ่านทางกลุ่มลับต่างๆ เรียกเก็บค่าบริการรายเดือนขั้นต่ำ 300 บาท แต่หากเป็นสมาชิก VIP จะเรียกเก็บเดือนละ 500-1,000 บาท แต่ละกลุ่มมีสมาชิกหลักพันคน เบื้องต้นพบว่า มีการร่วมเพศโชว์มากกว่า 10 คลิป จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการด้วย ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านหลังดังกล่าวมีการจัดงานปาร์ตี้และจ้างพริตตี้มาเอนเตอร์เทนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ขณะที่ พล.ต.ต.ธนายุตม์ ระบุว่า เป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฏในสำนวนมาก่อน ซึ่งจะมอบให้คณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตรวจสอบขยายผล เบื้องต้นจะดูว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่  และจะเข้าข่ายการนำภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือทำเพื่อวัตถุประสงค์แห่งการค้าหรือไม่ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนความคืบหน้าคดีในความรับผิดชอบของ สภ.บางบัวทอง ล่าสุด สอบปากคำพยานบุคคลครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น

ครอบครัว “ลันลาเบล” ให้ปากคำตำรวจ สภ.บางบัวทอง

ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านบางบัวทอง วันนี้ ครอบครัว “ลันลาเบล” ทั้งพ่อ แม่ และแฟน รวมถึงเพื่อนของลันลาเบล เข้าให้ปากคำที่ สภ.บางบัวทอง  ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งหมดได้รับการประสานจาก สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ปากคำในคดีการเสียชีวิตของลันลาเบล

ทนายความของครอบครัวบอกว่า เป็นการประสานมาเร่งด่วนเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ทราบประเด็น ซึ่งครอบครัวก็มีข้อสงสัยที่จะสอบถามพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เช่นกัน ส่วนประเด็นเรื่องผลตรวจผ้าห่มและกางเกงใน หรือระยะที่ชัดเจนการเสียชีวิตของลันลาเบล ตำรวจยังไม่ได้แจ้งเพิ่มเติม

ขณะที่เพื่อนของลันลาเบลบอกว่า มีข้อสงสัยหลายเรื่อง และไม่รู้ว่ากลุ่มที่จัดปาร์ตี้ปกปิดอะไรหรือไม่ ซึ่งวันที่ไปตามลันลาเบล ก็บอกไม่รู้จักกับน้ำอุ่น เพราะเป็นพริตตี้ที่จ้างมาเหมือนกัน และในวันนั้นก็ได้เจอ “เดียร์” ซึ่งเมาแล้ว ตนไม่รู้จักเดียร์ เพิ่งเจอครั้งแรก คนที่บ้านบางบัวทองเชิญตนเข้าไปในบ้าน แต่ตนไม่ได้เข้าไป

ตรวจสารคัดหลั่งในบ้านปาร์ตี้บางบัวทองอีกรอบ

ขณะเดียวกัน วันนี้ ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองปฏิบัติการทางนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบที่บ้านปาร์ตี้อีกรอบ หลังก่อนหน้านี้ พบคราบต้องสงสัยบนโซฟา 3 จุด และจุดอื่นๆ อีก 5 จุด โดยวันนี้พบคราบต้องสงสัยเพิ่มอีก 3 จุดใหญ่ บนโซฟา บางจุดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแต่ไม่ชัดมากนัก นอกจากนี้ยังได้เก็บผ้านวมจากห้องชั้น 2 ที่พริตตี้เดียร์นอน มาอีก 1 ผืน โดยจะส่งหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องปฏิบัติการ ว่าเป็นคราบอะไร หรือมี DNA ของผู้ใดหรือไม่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]