อุบลราชธานี 2 ต.ค. – วงการกู้ภัยอุบลเศร้า สูญเสีย “ป๋าแสง” ประธาน อปพร.อุบลราชธานี ที่ล้มหมดสติขณะเตรียมเรือท้องแบนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน อ.เมือง และวารินชำราบ มานานนับเดือน
เมื่อเวลา 10.00 น. วงการกู้ภัยเมืองดอกบัวได้รับข่าวร้าย เมื่อมีการแชร์ข้อความในโชเชียลถึงการเสียชีวิตของนายมนตรี บู่คำ (ป๋าแสง) ประธานบริหารกิจการประสานงาน อปพร.อุบลราชธานี ผู้ประสานงานชุดเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังหมดสติและหัวใจหยุดเต้นบริเวณท่าน้ำตลาดใหญ่ ระหว่าเตรียมเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน อ.เมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และได้เข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในช่วงสายวันที่ 1 ต.ค. ท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกศิษย์ในวงการกู้ภัย
ต่อมาได้ย้ายร่างของนายมนตรี มาที่ศาลาวัดแจ้ง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี และมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 18.00 น. โดยนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี และหัวหน้าส่วนราชการร่วมเคารพศพ โดยมีกำหนดฌาปนกิจวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.นี้
น.ส.นิ่มจุฑาทิพ บู่คำ อายุ 32 บุตรสาว เล่าว่า พ่อลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม จนถึงวันที่ 27 กันยายน โดยไม่ได้พักผ่อนเพียงพอตลอด 1 เดือน ด้วยความที่อายุมาก มีโรคความดัน เบาหวาน และอาการแน่นหน้าอกเริ่มแสดงออกตั้งปลายปี 2560 แต่ก็ดูแลตัวเองมาโดยตลอด สุขภาพโดยรวมพ่อเป็นคนแข็งแรง ไม่คิดว่าพ่อจะมาจากไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวรักและภูมิใจในตัวพ่อและสิ่งที่พ่อรัก
นายมนตรี บู่คำ หรือ (ป๋าแสง) อายุ 63 ปี เข้าสูงวงการเมื่อปี 2541 ในนามของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เป็นบุคคลที่เสียสละทั้งกาย ใจ และทรัพย์ส่วนตัวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ อีกทั้งยังเป็นวิทยากรในการอบรมกู้ภัย การใช้เรือยนต์ ท้องแบน เจ็ตสกี จนได้รับรางวัลเชิดชูทรงเกียรติตลอดมา การสูญเสียครั้งนี้นายมนตรี ได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของคนอุบลน ที่ทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดที่ชุมชนท่ากอไผ่ เทศบาลเมืองวารินชำราบ แม้จะยังมีน้ำท่วมขัง แต่ระดับแม่น้ำมูลที่เหลือไม่ถึง 80 เซนติเมตร จะเสมอตลิ่ง เป็นสัญญาณบวกให้ชาวบ้านทราบว่าใกล้จะได้กลับเข้าบ้านพักแล้ว
ชุมชนบ้านท่ากอไผ่ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังทั้งหมด 270 ครัวเรือน ทุกครอบครัวยังอยู่ในสถานะอพยพ ส่วนใหญ่ตั้งเต็นท์อยู่จุดพักพิงชั่วคราวเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย มีคนยังอยู่ในบ้านเพราะห่วงทรัพย์สินราว 20 คน โดยจุดเทียนนอนเฝ้าบ้านในเวลากลางคืน ที่เหลือใช้เรือเทียวเข้าไปดูแลในช่วงกลางวัน ขณะที่ระดับแม่น้ำมูลด้าน อ.วารินชำราบ เหลือราว 70 เซนติเมตร เท่านั้น ก็จะมีความสูง 7 เมตร เท่ากับตลิ่ง
สถานการณ์แม่น้ำมูลที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัดอุบลราชธานี เตรียมจัดกิจกรรม kick off จิตอาสาภัยพิบัติ เราทำความดี ด้วยหัวใจ ปฏิบัติการสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมูล คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมทั้งจังหวัดจะคลี่คลายเกือบทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์
ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดอุบลราชธานี ได้ทยอยเข้าตรวจสอบสภาพแวดล้อม มิเตอร์ไฟฟ้า และสภาพภายในบ้าน หากประเมินแล้วปลอดภัย ก็จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ทันที
ส่านที่ชุมชนวัดวารินทราราม เทศบาลเมืองวารินชำราบล่าสุด ระดับน้ำลดลงแล้ว เหลือบ้านเรือนที่ยังถูกน้ำท่วมขังราว 70 หลัง แต่บ้านที่น้ำลดส่วนใหญ่ยังไม่สามารถกลับเข้ามาอาศัยได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ใช้ จึงทำได้เพียงทยอยล้างทำความสะอาดบ้าน อุปกรณ์ต่างๆ จมน้ำเสียหายเป็นจำนวนมาก
ส่วนระดับแม่น้ำมูลด้านอำเภอวารินชำราบ เหลืออีกราว 60 เซนติเมตรเท่านั้น ก็จะลดเท่ากับตลิ่ง. – สำนักข่าวไทย