กทม. 30 ก.ย.-กทม. เตรียมติดตั้งหอฟอกอากาศสูง 4 เมตร แก้ปัญหา PM 2.5 เบื้องต้นนำร่อง 1 จุดใกล้ BTS สยาม หากได้ผลเตรียมขยายไปยังจุดอื่นๆ
นายชาตรี วัฒนเขจร ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร จากการติดตามสภาพอากาศและประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม สภาพอากาศจะดีขึ้น เพราะจะมีลมและฝนกระจายในพื้นที่ จะทำให้สภาพอากาศปิดคลี่คลายลง ซึ่งระหว่างนี้ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้ ผอ.เขตทุกเขต ติดตามสภาพค่าฝุ่นละอองเพื่อแจ้งเตือนประชาชน และแก้ปัญหาประสานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งการระบายรถ การจราจร การก่อสร้างอาคารที่ทำให้เกิดฝุ่น และการห้ามเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง เบื้องต้นสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เนื่องจากการตรวจสภาพอากาศพบว่า ยังไม่มีพื้นที่ใดที่ค่าฝุ่นละอองยังไม่สูงถึง 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนที่มีบริษัทเอกชน คือ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอการติดตั้งหอฟอกอากาศ ซึ่งเป็นนวัตกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น เบื้องต้นจะติดตั้ง 1 เครื่องเร็วๆ นี้บริเวณใต้สถานี BTS สยาม ทางเข้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน โดยจะตรวจวัดปริมาณความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM 2.5 ทั้งก่อนและหลังการติดตั้ง หากได้ผลดีจะขอความร่วมมือภาคเอกชนโดยเฉพาะอาคารสูง, ห้างสรรพสินค้า และสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ ติดตั้งต่อไป
สำหรับหอฟอกอากาศ มีขนาดสูงประมาณ 4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ตัวเครื่องทําจากสเตนเลส หนักประมาณ 200 กก. ระบบการทำงานจะใช้หลักการดึงอากาศจากรอบตัวเครื่อง เพื่อกรองฝุ่น 2 ขั้นตอน และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ทางด้านบน ซึ่งมีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 17,000 ลบ.ม./ชม. ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตร.ม. โดยใช้แผ่นกรองชนิด HEPA Filter และกำลังไฟฟ้า 3.5 kW ราคาประมาณ 5.3 ล้านบาทต่อเครื่อง ทั้งนี้ ในอนาคตคาดว่า จะติดตั้งหอฟอกอากาศในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น หรือพื้นที่ที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก จำนวน 24 หอ เช่น สถานีรถไฟฟ้าซอยอารีย์ แยกราชประสงค์ฝั่งพระพรหม แยกอโศก สถานีรถไฟฟ้าจตุจักร ช่องนนทรี เซ็นทรัลลาดพร้าว พร้อมพงษ์ เพลินจิต ศาลาแดง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นอกจากนี้ ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ระบุว่า กทม. เตรียมจัดซื้อรถพ่นละอองน้ำ จำนวน 6 คัน กระจายตามกลุ่มเขตละ 1 คัน ราคาคันละ 9 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะใช้งบประมาณในปี 2563 เมื่อได้งบแล้วจะกำหนดสเปก แต่เบื้องต้นจะยังจัดซื้อไม่ทันสิ้นปีนี้ เบื้องต้นรถพ่นละอองน้ำที่จะซื้อมาใช้ ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย แต่ประสิทธิภาพสูงจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ทุกชนิด พ่นน้ำได้มากกว่า 10 เมตร และในต่างประเทศอย่างจีน, อินเดีย และยุโรปหลายประเทศใช้กันอยู่ เชื่อว่าหากนำมาใช้จะช่วยแก้ปัญหาได้มาก เพราะปัจจุบันที่ใช้อยู่คือการนำเอารถดับเพลิงมาพ่นละอองน้ำ ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้มาก.-สำนักข่าวไทย