สารพันปัญหา “ชิมช้อปใช้”

กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชิม ช้อป ใช้” ให้สิทธิ 1,000 บาท ใช้จ่ายท่องเที่ยว แต่ตอนนี้มีเสียงสะท้อนมากมาย หลังประชาชนใช้สิทธิแล้วพบปัญหา อาทิ ระบบสแกนคิวร์อาร์โค้ดไม่อ่านค่า ต้องรอคิวนานในการจ่ายเงิน ขณะที่ฝั่งร้านค้าเองก็เจอปัญหาเช่นกัน


หลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่ 23 กันยายนที่ผ่านมา กับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว “ชิมช้อปใช้” แจกเงินคนละ 1,000 บาท ให้ใช้จ่ายท่องเที่ยวในจังหวัดที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน หลังรอ SMS และอีเมลยืนยัน และรับเงินผ่านระบบเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ หรือ G-Wallet ประชาชนกลุ่มแรกเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เพียงแค่เริ่มใช้ ก็มีเสียงสะท้อนถึงหลากหลายปัญหาจากการใช้สิทธิชิมช้อปใช้นี้


ชายคนนี้ลงทะเบียนในระบบตั้งแต่วันแรก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถใช้จ่ายผ่านแอปเป๋าตังค์ได้ เขาบอกว่าเมื่อสแกนคิวร์อาร์โค้ดกับร้านค้า กลับไม่มีการอ่านค่า พยายามโทรสอบถามกับคอลเซ็นเตอร์ ก็ไม่มีใครรับสาย หากครบกำหนดแล้วยังใช้ไม่ได้คงต้องทิ้งสิทธิ


ขณะที่หญิงสาวคนนี้บอกว่า หลังได้รับสิทธิ เธอนำไปใช้ซื้อของในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งตั้งแต่ 28 กันยายน แต่รอนานมาก จึงไปใหม่อีกครั้งวันที่ 29 กันยายน รอบนี้รอนานถึง 2 ชั่วโมง จนถอดใจ วันนี้มาใช้สิทธิอีกครั้งที่ห้างสรรพสินค้าอีกแห่ง ดีใจที่ใช้สิทธิได้ หลังต้องลองมาแล้ว 3 รอบ จึงอยากให้มีการเพิ่มจำนวนร้านค้า และจำนวนช่องจ่ายเงิน

เจ้าของร้านขายกาแฟร้านนี้บอกว่า ลงทะเบียนในส่วนของร้านค้าและใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีลูกค้ามาใช้สิทธิชิมช้อปใช้ที่ร้าน ส่วนหนึ่งมองว่า การกำหนดคิวร์อาร์โค้ดไว้ในโทรศัพท์ของเธอเพียงเครื่องเดียว ทำให้ใช้ยาก เนื่องจากเธอมักไม่อยู่ร้าน  มีพนักงานร้านดูแล จึงอยากให้มีการทำคิวร์อาร์โค้ดติดตั้งไว้ที่ร้าน เพื่อให้ลูกค้าใช้ได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบปัญหาจากร้านค้าอื่นที่ร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ อาทิ เมื่อลูกค้าสแกนจ่ายเงินแล้ว แต่เงินไม่เข้าร้านค้าผ่านแอป รวมทั้งปัญหาระบบล่มที่พบทั้งฝั่งร้านค้าและคนใช้สิทธิ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ใข และขยายเวลาการใช้สิทธิออกไป เพราะหากระบบยังล่ม หลายคนกังวลว่าจะใช้สิทธิตามกำหนดภายใน 14 วันไม่ทัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง