ภูมิภาค 30 ก.ย.- กรณีรถกระบะพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บ 6 คน วันนี้ตำรวจสมุทรปราการเดินหน้าหาหลักฐานดำเนินคดีกับคนขับรถกระบะ ด้านพ่อคนขับรถกระบะเปิดใจทั้งน้ำตา ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับเสียใจอย่างที่สุดที่เกิดเหตุสลดขึ้น
นายเลิศ สุขจันทร์ อายุ 55 ปี พ่อของนายนิตยา คนขับรถกระบะ และนายรณชัย ผู้บาดเจ็บ เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า หลังเกิดเหตุมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกชายทั้ง 2 คนสั้นๆ ลูกชายเล่าว่า ขับรถพานักศึกษาฝึกงานไปดูคอนเสิร์ตหมอลำ หลังดื่มสังสรรค์กันที่งานเลี้ยงส่งวันจบการฝึกงานที่อู่ แต่ขณะอยู่ที่งานคอนเสิร์ต ลูกชายสังเกตเห็นกลุ่มนักศึกษาบางคนมีอาการมึนเมาตามประสาวัยรุ่น ลูกชายจึงชักชวนกลุ่มนักศึกษาขึ้นรถกลับที่พัก เพราะเกรงว่าหากอยู่ต่ออาจมีเรื่องมีราว
แต่ขณะขับออกมาจากงานคอนเสิร์ต มีรถคันนึงขับช้าอยู่ด้านหน้ารถลูกชาย ลูกจึงเร่งเครื่องและหักเลี้ยวหลบรถอีกคันที่อยู่ด้านหน้า ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ จากนั้นลูกชายก็ไม่รู้สึกตัว จนมาถึงโรงพยาบาล ทั้งนี้ อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตทุกคน รู้สึกเสียใจมาก ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับสภาพ ยอมรับการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม และจะไปร่วมงานศพของนักศึกษาที่ จ.ศรีสะเกษ ด้วย
นายเลิศ บอกด้วยว่า อาการของลูกชายที่เป็นคนขับรถ คือมีเลือดไหลในสมอง ขณะนี้ยังรอผลวินิจฉัยจากแพทย์ว่าต้องผ่าตัดหรือไม่ เพราะหากเลือดหยุดไหล อาจไม่ต้องผ่าตัด ส่วนลูกชายอีกคน แพทย์ต้องผ่าตัดขาที่หัก
จ่อสอบปากคำคนเจ็บ-รวบรวมหลักฐานแจ้งความคนขับกระบะ
ด้านคดีความ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.บางแก้ว บอกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประสานไปยังแพทย์ เพื่อขอสอบปากคำคนเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าจะสอบได้ 1-2 ปาก ส่วนคนขับรถอาการยังสาหัส เจ้าหน้าที่จะรีบสอบปากคำทันที่ที่ทำได้ ส่วนหลักฐานจากกล้องวงจรปิด อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบตลอดเส้นทางที่รถกระบะขับพากลุ่มนักศึกษาออกจากงานคอนเสิร์ต และเตรียมให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพิสูจน์ซากรถว่าสามารถระบุความเร็วรถก่อนเกิดอุบัติเหตุได้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งข้อหากับคนขับ
สุดสะเทือนใจ แม่ นศ.ร่ำไห้ นั่งเฝ้าหน้าโลงศพลูก
ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ มีภาพความสะเทือนใจของหลายครอบครัวที่สูญเสียบุตรหลาน เช่น ที่บ้านของนางสมใจ และนายสมศักดิ์ พ่อและแม่ของนายโกวิทย์ สิมลี หนึ่งในนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ ต่างนั่งเฝ้าที่หน้าโลงศพของลูกชาย โดยเฉพาะแม่ของ “น้องวิทย์” ตั้งแต่ร่างของลูกถูกส่งมาถึงบ้านตอน 03.00 น. แม่สมใจไม่ไปไหน นั่งเฝ้าอยู่หน้าโลงศพลูก โดยไม่ยอมกินข้าวกินปลา ได้แต่นั่งพูดผ่านโลงศพกับลูกชาย โดยที่น้องสาวต้องคอยนั่งปลอบอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา
ขณะที่เพื่อนบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าเกิดเหตุสลดกับน้องวิทย์ เพราะน้องเป็นเด็กร่าเริง นิสัยดี ไม่เกเร ชอบช่วยเหลือคนในหมู่บ้าน เป็นที่รักของทุกคน ทั้งนี้ ร่างของน้องวิทย์ ครอบครัวจะตั้งสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน ก่อนฌาปนกิจตามประเพณี
ขณะที่บ้านเกิดของ “น้องกอล์ฟ” หรือ นายสุริยันต์ สีถาน ที่บ้านน้ำอ้อม และ “น้องก้อง” หรือนายโชคชัย ทานนท์ ที่บ้านจานทุ่ง อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ครอบครัวจัดงานศพขึ้นเรียบง่าย ชาวบ้านและญาติพี่น้องที่ทราบข่าวการสูญเสียต่างทยอยร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า ซึ่งนักศึกษาทั้ง 2 คน มีกำหนดฌาปนกิจในวันพุธที่ 2 ตุลาคม ที่เมรุวัดประจำหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย