กรุงเทพฯ 26 ก.ย.- ศาลฎีกาพิพากษาแก้ยกฟ้อง “พิจิตต” อดีตผู้ว่าฯ กทม. คดีทุจริตจัดซื้อที่จอดรถ-ส่วนลูกน้องติดคุกตามพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่ากรุงเทพมหานคร กับพวกซึ่งเป็นคณะทำงานของกรุงเทพมหานคร รวม 8 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตฯ / ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สินสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ / และร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีใช้อำนาจในหน้าที่ในขณะนั้นให้กรุงเทพมหานครจัดซื้อที่ดินใช้เป็นที่จอดรถขยะ รถน้ำ และรถอื่นๆ ของ กทม. ย่านบางซื่อ ในราคา 270 ล้านบาท ซึ่งแพงเกินจริง เป็นเงินกว่า 36 ล้านบาท และรับค่านายหน้าขายที่ดิน เป็นเงิน 18 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2538-2540
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสมคาด หรือนายชยุต สืบตระกูล อดีตเลขานุการผู้ว่ากรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 4 รวม 8 ปี และจำคุกนายชวน พัฒนวรานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางซื่อ จำเลยที่ 8 รวม 10 ปี / ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกนายพิจิตต จำเลย 1 และ นายสมคาด คนละ 5 ปี ส่วนนายชวนจำคุก 7 ปี ส่วนจำเลยอื่นให้ยกฟ้อง
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทนายความได้แจ้งว่านายสมคาด ป่วยกระทันหันเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เนื่องจากไม่มีใบรับรองแพทย์มายื่น ศาลจึงสั่งให้ตามตัวนายสมคาดมาฟังคำพิพากษา หากไม่มาจะออกหมายจับ จนกระทั่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายสมคาดได้เดินมามาฟังคำพิพากษาศาลฎ
โดยศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาไม่เพียงพอจะชี้ให้เห็นว่านายพิจิตตกระทำความผิดตามฟ้อง ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษาแก้ยกฟ้องนายพิจิตต / ส่วนนายสมคาดและนายชวน ให้พิพากษาตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 5 ปี และ 7 ปีตามลำดับ
ด้านนายพิจิตต เปิดเผยว่าตลอด 19 ปีที่ต่อสู้คดีมา จนถึงตอนนี้ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก แต่ยังคงยืนยันว่าทำเพื่อสังคมด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด ไม่เคยหวังผลประโยชน์ หลังจากนี้ก็จะทำสาธารณประโยชน์ต่อไป แต่ยังคงเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติโดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นผู้ว่า กทม. ได้นั้น ควรจะมีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และส่วนตัวก็ยินดีที่จะมาช่วยเหลืองานของ กทม. โดยไม่รับตำแหน่งใดๆ.-สำนักข่าวไทย