10 ประเทศอาเซียนพร้อมจับมือเดินข้างกันในเวทีโลก

นครนิวยอร์ก 25 ก.ย.-นายกฯ ย้ำเวทีเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วน เพื่อความยั่งยืนระหว่างประเทศ จากความแข็งแกร่งภายในสังคมไทย  ย้ำ10 สมาชิกอาเซียนพร้อมเป็นเสือ 10 ตัวจับมือเดินเคียงกันในเวทีโลก งงคนมาประท้วงแต่ไม่รู้จักประเทศไทย ทุกประเทศมีปัญหาแตกต่างกัน  ถ้าร่วมมือกันจะแก้ปัญหาได้  


“รวีวรรณ สมรภูมิ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน 2562  รายงานว่า วานนี้(25 ก.ย.) เวลา 23.36 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง  นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนระหว่างประเทศ จากความแข็งแกร่งภายในสังคมไทย”  ในงาน Lunch talk จัดโดย Asia Society โดยกล่าวว่า หลายคนบอกว่าประเทศไทยขัดแย้งสูง เป็นผู้ป่วยอาเซียนหรือไม่ ขอย้ำว่าใครจะมองเป็นเสือตัวที่เท่าไหร่ ตนไม่สนใจ

“แต่ผู้นำอาเซียนทุกประเทศสัญญากับผมแล้วว่าจะเป็นเสือ 10 ตัวที่เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ไม่ทะเลาะกัน จูงมือไปด้วยกัน เสือก็เสือ ถ้าใครบอกจะเป็นที่ 1จะโดนตีตั้งแต่วันที่ 2 แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องไปด้วยกัน พี่จูงเพื่อน น้องจูงเพื่อน เพื่อนจูงเพื่อน ไม่อย่างนั้นเราจะแสดงบทบาทของภูมิภาคในต่างประเทศไม่ได้ ถ้าประเทศไทยไม่เข้มแข็ง 9 ประเทศไม่เข้มแข็ง อาเซียนก็ไม่เข้มแข็ง แล้วใครจะคุยกับอาเซียน ใครจะคุยกับประเทศไทยหรือประเทศอื่น ๆ แหล่งสินค้าตลาดของอเมริกาจะอยู่ที่ไหน ล้วนอยู่ในอาเซียนและไทยทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกประเทศมีปัญหาหมด เพียงแต่เป็นปัญหาภายใน ถามว่าประเทศไหนไม่เคยขัดแย้ง ก็ขัดแย้งกันหมดทั่วโลก เพียงแต่แก้ปัญหานี้อย่างไร  จะเดินหน้าประเทศกันต่อได้อย่างไร ตนจึงเข้ามาเพื่อหยุดปัญหาเหล่านั้น หยุดความขัดแย้งไม่ให้บานปลายอีก แล้วเดินหน้าไปสู่การปฏิบัติ การเป็นประชาธิปไตยด้วยการสร้างระเบียบต่าง ๆ รัฐบาลที่ผ่านมาทำกฎหมายไปกว่า 400 ฉบับ แต่ก่อนหน้านี้น้อยกว่านี้มาก ต้องเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นภาระแก่ประชาชน ต้องเป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ประชาชน ทำเช่นเดียวกับสหรัฐ เป็นสิ่งที่ไทยมองความเป็นสากล เป็นหลัก ไม่ได้มองเฉพาะแค่ตัวตนเอง ไม่ก้าวล่วงเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถา มีหญิงต่างชาติคนหนึ่งตะโกนบริเวณหน้าห้องปาฐกถา เรียกชื่อพล.อ.ประยุทธ์  ว่า “มิสเตอร์ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาขอความร่วมมือให้ออกไปจากพื้นที่ ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็ยอมออกไปแต่โดยดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า “ฮัลโหล แต้งกิ้ว เวรี่มัช” ขอบคุณ แล้วกล่าวปาฐกถาต่อว่า ทราบดีว่าประชาธิปไตยเป็นสากลที่ทุกคนยอมรับ เป็นโรงเรียน เป็น ระบบมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบัน 


“ผมยอมรับ แต่ขอว่าต้องเข้าใจเรานิดหนึ่งว่าอะไรคือปัญหาและปัญหาอยู่ตรงไหน ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เราควรจะทำแค่ไหน ถ้าเราได้ความร่วมมือแบบนี้มันแก้ได้หมด ความขัดแย้งก็ลงลดลง หรืออย่างเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ก็จะไม่เกิดขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีคนมาประท้วงที่หน้าโรงแรมพลาซ่าแอทธินี สถานที่พักว่า มีคนมาประท้วง 20 กว่าคน แต่กลับไม่ใช่คนไทยสักคน ยังไม่ทราบเลยว่ามาจากไหน แต่ไม่ได้สนใจคนเหล่านี้ที่มาประท้วง แต่เมื่อมีคนไปถามว่าประเทศไทยอยู่ไหน กลับไม่รู้จักประเทศไทย ก็งง ๆ นะ แต่ไม่สนใจ เพราะมีงานสำคัญกว่าจะไปทะเลาะกับคนเหล่านี้ให้เสียเวลา 

“ผมเป็นรัฐบาลมา 5 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 6 เจอมาทุกปัญหา ก็รับฟังปัญหา นำกลไกต่าง ๆ ของเดิมกลับมาปรับมาแก้ อ่านตำราศึกษาอ่านหนังสือ ไม่ได้ใช้วิธีการทางทหารที่เป็นวิชาการทางทหาร ผมทำอย่างเดียวคือทำงานด้วยความเสียสละ อดทน อดกลั้น จริงจังเพราะวินัยทหารคือทำงานแล้วต้องสำเร็จ  ถ้าไม่สำเร็จอย่าไปทำ ทหารต้องสั่งคนไปรบ ส่งคนไปตาย หากยึดที่หมายไม่ได้ก็ตายไปเลย นั่นคือทหารและผมก็สำเร็จทุกครั้งถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าเราทำไม่ได้ เราทำไม่เก่งก็ตายไป นั่นคือความเสียสละ นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจผมเสมอมา ผมไม่เคยคิดถึงประโยชน์ตัวเอง ไม่คิดถึงความเสี่ยงของตัวเอง ครอบครัวเป็นห่วงผม แต่เขาก็ยอมเพราะสละผมไปแล้ว ครอบครัวก็สละผมให้กับประเทศชาติไปแล้ว แล้วผมจะไปเรียกร้องอะไรจากใคร แต่เขาเข้าใจผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ใครมีคำสั่งศาลถือว่าไม่ใช่คนดี ซึ่งเมื่อกล่าวถึงตรงนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถามผู้บริหารเอเชียโซไซตี้ว่าสนับสนุนคนเหล่านี้หรือไม่ บางเรื่องไม่ใช่คดีการเมืองแต่เป็นคดีอาญา ยืนยันตนไม่เคยทำผิดกฏหมาย แม้ว่าจะเข้ามาลักษณะนี้ และไม่ได้อยากเข้ามา แต่เพราะไทยมีปัญหา ไม่อยากให้เกิดสงครามการเมืองจึงต้องเข้ามายุติปัญหา กฎหมายจะบังคับได้ ไม่ได้อยู่ที่ประชาชน เจ้าหน้าที่เป็นคนดูแลบริหารจัดการ แต่ต้องไม่ทุจริต 

“ทุกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ถือป้ายเมื่อกี้คือใคร ทั้งที่โรดแมปทำแล้ว เลือกตั้งทำแล้ว ขอยืนยันประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับ ใครจะว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย ผมเลือกตั้งได้อาทิตย์เดียว รัฐบาลสหรัฐเป็นประเทศแรก ๆ ที่ออกแถลงการณ์ยอมรับผลการเลือกตั้งของไทย แล้วลงลายมือชื่อด้วยลายมือของนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แล้วใครมาว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย หลายประเทศล้วนแต่มายินดีกับผม การทะเลาะกันเป็นเรื่องภายใน ซึ่งทุกประเทศมีกันทั้งนั้น เลือกตั้งมีปัญหา ทุกประเทศก็มีหมด แต่เราอย่าไปทำไปฟังในสิ่งที่ไม่ใช่ ที่บิดเบือน สื่อโซเชียลต่าง ๆ อย่าไปฟังมากนัก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนเวลาตื่นเช้า แต่งตัวก่อนจะออกนอกบ้านจะก้มดูตัวเองเสมอ หล่อหรือยัง แต่ตนไม่เคยดูกระจกแบบนั้น แต่งตัวเสร็จ ตรงไหนไม่ดี ลูกน้องจะคอยบอก บางครั้งก็เนคไทไม่เรียบร้อย  ตนเป็นแบบนี้ ไม่อยากเสียเวลา จะได้มีเวลาไปคิดอย่างอื่น จึงต้องมีรปภ.ไว้ดูแล ถ้าแต่งกายไม่เรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]