BIG STORY : บุกตรวจค้นบ้านจัดปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง

นนทบุรี 23 ก.ย.-ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และรอง ผบช.ภ.1 นำทีมพิสูจน์หลักฐาน และสุนัขตำรวจ บุกตรวจบ้านจัดงานปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง พบหลักฐานหลายอย่าง โดยเฉพาะสารสีขาวบรรจุซองพลาสติกจะส่งให้ห้องแล็บพิสูจน์ว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยภายหลังประชุมคลี่คลายคดีการเสียชีวิตปริศนาของนางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลันลาเบล ว่าได้รับรายงานผลนิติวิทยาศาสตร์จากโรงพยาบาลจุฬาฯ แล้ว โดยผลชันสูตรระบุว่าเสียชีวิตจากการดื่มสุรา หรือทางการแพทย์เรียกว่า Alcohol intoxication ซึ่งตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย ไม่พบยีนหรือโครโมโซมหรือ ดีเอ็นเอของผู้อื่นในร่างกายของลันลาเบล รวมถึงไม่พบร่องรอยการต่อสู้บนร่างกาย แต่ผลดังกล่าวเป็นผลการชันสูตรเบื้องต้นเท่านั้น พร้อมย้ำวันนี้ยังขอศาลออกหมายจับไม่ได้ เพราะต้องสอบปากคำพยานสำคัญอีก 5 ปาก ที่ส่วนใหญ่อยู่ในบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง หากทุกอย่างเสร็จสิ้นจะร่างคำร้องขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องช้าสุดคือวันที่ 25 กันยายน ส่วนหลักฐานที่มีในตอนนี้ เบื้องต้นมีผู้กระทำผิดคนเดียว แต่ไม่ขอยืนยันว่าเป็นนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น หรือไม่ หลังสอบสวนขยายผล หากมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มทันที


ส่วนที่มีข่าวเตรียมแจ้ง 3 ข้อหากับผู้กระทำผิด คือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กระทำอนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว พล.ต.ต.สัมฤทธิ์บอกว่า หลายข้อหาชุดสืบสวนสอบสวนจะนำมาพิจารณาควบคู่คำพิพากษาศาลฎีกาคดีเจตนาฆ่าโดยงดเว้น  

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เปิดเผยว่า ปอท. ตรวจสอบ Smart Watch ที่วัดชีพจรของลันลาเบลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งผลกลับไปให้พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล เพื่อนำไปรวบรวมเป็นหลักฐานในคดีลันลาเบลแล้ว แต่รายละเอียดต่างๆ ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดี ขอให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เป็นผู้ชี้แจงแต่เพียงผู้เดียว

ขณะเดียวกันที่ สน.บุคคโล มีความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้า นายชวลิต นรพันธ์พิพัฒน์ พ่อของลันลาเบล นำบราปีกนก 2 ชิ้น ซึ่งเป็นของลันลาเบล มามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับบราของที่พบในขณะที่ลันลาเบลเสียชีวิต ยืนยันยังมั่นใจการทำหน้าที่ของตำรวจ แม้คดีจะผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ แต่เชื่อว่าตำรวจกำลังเดินหน้าพิสูจน์ความจริง ไขความกระจ่างให้กับครอบครัว ส่วนน้ำอุ่นที่ตอนนี้ยังล่องหน หากพ่อเจอหน้าอยากบอกว่าให้พูดความจริง ส่วนเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ หากเจอหน้าอยากถามว่าทำไมเห็นลันลาเบลเมาไม่ได้สติ ไม่แจ้งให้ครอบครัวมารับ หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรปล่อยให้ไปกับคนที่ไม่รู้จัก พร้อมย้ำจะเก็บศพลันลาเบลไว้จนกว่าคดีจะคลี่คลาย

นอกจากนี้ในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนได้เรียกสอบพยานปากสำคัญ 5 ปากเพิ่ม ก่อนทำคำร้องขอศาลออกหมายจับ โดยคนแรกคือ นายชัยพล หรือ คิว พรรณา เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง ตามมาด้วยแฟนของคิว นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร พี่ชายคิว นายกิตติศักดิ์ วงศ์ประจันต์ หรือโทน พร้อมแฟนสาว ซึ่งเป็นเพื่อนและเป็นผู้พบศพลันลาเบลในคอนโดฯ ของน้ำอุ่น และเตรียมเชิญแพทย์นิติเวช จุฬาฯ ซึ่งเป็นคนผ่าชันสูตรลันลาเบล เพื่อให้มายืนยันผลชันสูตรอย่างละเอียดด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน “คิว” ได้อ้างว่าไม่ทราบว่าตำรวจเรียกมาสอบเพิ่มในประเด็นใด แต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนาฬิกาสีทองที่ปรากฏในคลิปลูบหน้าลันลาเบล จากนั้นโชว์นาฬิกาให้สื่อดูซ้ำ เพื่อเป็นการยืนยันว่านาฬิกาเป็นของน้ำอุ่น และคาดว่าน้ำอุ่นจะถอดเปลี่ยนตอนอยู่ในรถ นอกจากนี้ตนยังไว้เล็บยาว รวมถึงมีคลิปยืนยันที่เห็นชัดเจนว่านาฬิกาสีทองน้ำอุ่นใส่อยู่ตอนที่อยู่ในปาร์ตี้ ส่วนคนที่ช่วยน้ำอุ่นถือรองเท้าลันลาเบล ขณะน้ำอุ่นพาลันลาเบลขึ้นรถขับไปจากบ้านที่จัดปาร์ตี้ คิวบอกว่าเป็นเพื่อนชื่อปิงปองมาหา เพื่อยืมกุญแจรถ และเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน ขอชี้แจงตนมีอาชีพหลายอย่าง ทั้งเล่นหุ้น บิทคอยน์ ขายของในเกม การจ้างพริตตี้มาเอนเตอร์เทนแต่ละครั้งไม่ได้ออกเงินจ้างคนเดียว แต่เป็นการแชร์กันของกลุ่มเพื่อน


นอกจากนี้แฟนนายคิวยังให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมน้ำอุ่นว่า เวลาเมาชอบมารุ่มร่าม ส่วนตัวไม่ชอบพฤติกรรมของน้ำอุ่น ปกติหากพบเห็นพยายามลวนลามพริตตี้ในบ้านจะห้ามปรามตลอด เพราะเป็นผู้หญิงด้วยกัน นายน้ำอุ่นชอบมางานที่บ้านเป็นปกติและชอบมาฟรีตลอด หวังมาตีสนิทกับพริตตี้ ส่วนกางเกงที่ลันลาเบลสวมออกจากบ้านเป็นของตน เพราะเห็นลันบาเบลสวมเดรสสั้น โป๊ ยืนยันการดื่มในงานปาร์ตี้เป็นการดื่มกินปกติ ไม่มีใครมอมเหล้าใคร และไม่มีการอัพยาเสพติด ทุกคนในบ้านตรวจหาสารเสพติดแล้วก็ไม่เจอ

ที่ สภ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยบอกว่าขณะนี้พยานหลักฐานและพยานบุคคลมีครบแล้ว แต่ขอเวลาประชุมสรุปอีกครั้ง ฝากถึงญาติผู้เสียชีวิต ตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและสาวให้ถึงคนที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งระหว่างที่ตำรวจมีการประชุมกัน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาเกาะติดความคืบหน้าคดี พร้อมพาพริตตี้สาว 2 คน เข้าให้ปากคำเพิ่ม โดยพริตตี้ 2 คนนี้เข้ารับงานช่วง 4 ทุ่ม วันเกิดเหตุ หรือเป็นช่วงกลางดึกหลังจากน้ำอุ่นพาลันลาเบลกลับไป แต่ขณะทำงานได้เกิดหมดสติ ตื่นมาอีกทีพบว่าไม่ได้สวมชุดชั้นใน จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามตัวกลุ่มคนดังกล่าวมาดำเนินคดี

นอกจากนี้นายอัจฉริยะยังได้ยื่นหลักฐานเป็นภาพชุดเดรสสีขาวที่ถูกถอดวางไว้บนโซฟา ซึ่งนายอัจฉริยะมั่นใจว่าชุดดังกล่าวเป็นของลันลาเบลที่ถูกเปลี่ยน และเชื่อว่าลันลาเบลถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงระบุว่ามีวิดีโอครบถ้วนว่าในบ้านปาร์ตี้มีใครอยู่บ้าง และมีด้วยกันกี่คน หลักฐานหลายอย่างยังไม่ได้เปิดเผย เชื่อหากตำรวจเห็นจะสามารถออกหมายจับได้ทั้งขบวนการ

ล่าสุดในช่วงเย็น หลังจากตำรวจใช้เวลาประชุมคดีกว่า 2 ชั่วโมง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และรอง ผบช.ภ.1 นำทีมพิสูจน์หลักฐาน และสุนัขตำรวจ บุกไปตรวจบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ พร้อมแสดงหมายค้น โดยมีผู้ใหญ่บ้านและนายกเทศมนตรีนำตรวจค้น เนื่องจากเจ้าของบ้านไปให้ปากคำอยู่ที่ สน.บุคคโล

การตรวจสอบภายในห้องจัดปาร์ตี้ พบโลหะสีเหลืองคล้ายทองคำ แหวน และนาฬิกาคล้ายที่ปรากฏในคลิป สุรา สิ่งเทียมอาวุธปืน รองเท้าผู้หญิง ผ้าคลุมไหล่ผู้หญิง สารเป็นเกล็ดสีขาวบรรจุในซองพลาสติกตกอยู่ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดตำรวจเก็บไปตรวจสอบ โดยเฉพาะสารสีขาวจะส่งไปให้ห้องแล็บพิสูจน์ว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่ ส่วนจุดอื่นๆ ของบ้านซึ่งมี 3 ห้องนอน ถูกปิดล็อกแน่นหนา.-สำนักข่าไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งสอบเพิ่มคดี “ลันลาเบล” ก่อนขอหมายจับ
เรียกสอบด่วน “เจ้าของปาร์ตี้-เพื่อนลันลาเบล”
ปอท.ส่งผลตรวจกรณี”ลัลลาเบล”ให้ สน.บุคคโลแล้ว
พริตตี้ “ลันลาเบล” ตายเพราะพิษสุรา
ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “น้ำอุ่น” 3 ข้อหา


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย