2 ต.ค.นี้ กทม.บิ๊กคลีนนิ่ง เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – 2 ต.ค.นี้ กทม.กำหนดบิ๊ก คลีนนิ่ง เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ 


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครครั้งที่ 18/2562 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมและวางแผน ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 เขตดินแดง


ในที่ประชุมฯ สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร ได้รายงานการดำเนินงานเตรียมความพร้อมงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค  เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ต.ค.2562 เวลา 15.30 น. 

โดยเส้นทางเสด็จฯ เริ่มจากท่าวาสุกรีสิ้นสุดที่ท่าราชวรดิฐ 


โดยกำหนดจัดเตรียมสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯสำหรับผู้มีตำแหน่ง  จำนวน  6 แห่ง ได้แก่ ท่าวาสุกรี  ท่าราชวรดิฐ  สวนสันติชัยปราการ สวนหลวงพระราม 8  ธนาคารแห่งประเทศไทย และศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย 

ส่วนสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ของประชาชนทั่วไปได้จัดเตรียมไว้ 2 เส้นทาง สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 36,150 คน ดังนี้ 1. เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแบ่งพื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ เป็น 4 ส่วน รองรับประชาชน จำนวน 25,150 คน ประกอบด้วย พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ บริเวณบ้านเรือนประชาชนและชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับประชาชนได้ประมาณ 360 คน ,  พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามสถานที่และหน่วยงานที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานกฤษฎีกา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อู่เรือธนาคารกรุงเทพ โรงพยาบาลศิริราชและกรมอู่ทหารเรือและ หอประชุม กองทัพเรือ รองรับข้าราชการและบุคลากรของหน่วยงาน ได้ประมาณ 4,000 คน พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ของประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ (Walk-in) 

พื้นที่สาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครฯ เช่น สวนสันติชัยปราการ สวนนาคราภิรมย์ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใต้สะพานพระราม 8 เป็นต้น รองรับประชาชน จำนวน 15,600 คน และพื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามสถานที่ของภาคเอกชน เช่น บริษัท ห้างร้าน ร้านอาหาร โรงแรม เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีการจำหน่ายบัตรชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รองรับประชาชนได้จำนวน 5,180 คน 

2. เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จำนวน 11,000 คน เส้นทางเสด็จฯ จากพระที่นั่งอัมพรสถานไปยังท่าวาสุกรี และเส้นทางเสด็จฯ กลับจากท่าราชวรดิฐ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต

สำหรับการปรับปรุงพื้นที่ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจัดเป็นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ โดยจัดสร้างพื้นยกระดับและอัฒจันทร์ จำนวน 6 แห่ง รองรับประชาชนได้ 10,700 คน ได้แก่ ใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) 4,000 คน สวนสันติชัยปราการ1,500 คน สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 1,000 คน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1,800 คน โรงพยาบาลศิริราช 100 คนและสวนนาคราภิรมย์  2,300 คน 

ทั้งนี้ มีการติดตั้งจอ LED พร้อมเครื่องขยายเสียง 18 จุด จำนวน 27 จอ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 1 จอ สวนสันติชัยปราการ 2 จอ สนามหลวง 4 จอ ลานจอดรถกองสลาก 1 จอ สวนนาคราภิรมย์ 2 จอ ใต้สะพานพระราม 8 2 จอ สวนหลวงพระราม 8 2 จอ สถานีรถไฟธนบุรี 1 จอ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 1 จอ วัดระฆังโฆสิตาราม 1 จอ วัดอมรินทรารามวรวิหาร 1 จอ วัดกัลยาณมิตร 3 จอ ทำเนียบรัฐบาล 1 จอ กระทรวงศึกษาธิการ 1 จอ วัดโสมนัส 1 จอ ร.ร.สตรีวิทยา 1 จอ   ลานคนเมือง 1 จอ และป้อมมหากาฬ 1 จอ ในส่วนของการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน จุดบริการอาหาร และจุดบริการน้ำดื่ม  โดยสำนักพระราชวัง (สมาคมภัตตาคารไทย และสหฟาร์ม) และกรุงเทพมหานคร 

สำหรับบริการประชาชน กำหนดจัดเตรียมไว้จำนวน 6 จุด ได้แก่ วัดสามพระยา โดยสมาคมภัตตาคารไทย สนามหลวง โดยสมาคมภัตตาคารไทย และสหฟารม์ สวนนาคราภิรมย์ โดยสมาคมภัตตาคารไทยและสหฟารม์ วัดอมรคีรี โดยกรุงเทพมหานคร วัดอมรินทรารามวรวิหาร โดยสมาคมภัตตาคารไทย และวัดกัลยาณมิตร โดยสมาคมภัตตาคารไทย 

การให้บริการอาหารพระราชทาน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือจุดโรงครัวพระราชทาน 6 แห่ง และจุดบริการอาหาร 22 แห่ง โดยกำหนดเวลาให้บริการ 3 มื้อ มื้อเช้า เวลา 08.00-10.00 น. มื้อกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น. และมื้อเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป กำหนดจุดบริการน้ำดื่ม ตามจุดรวมพลจุดเดินทางของประชาชน และตามสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ จำนวน 44 จุด การให้บริการรถสุขาเคลื่อนที่ ประกอบด้วย รถสุขา 50 คัน ตู้สุขา 25 ตู้ ห้องสุขาของหน่วยงาน  33 จุด การบริการทางการแพทย์ จุดบริการทางการแพทย์ประจำที่ 33 จุด ชุดแพทย์เคลื่อนที่ โซนละ 20 ชุด โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักร่วมกับกรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้หน่วยบริการทางการแพทย์ แบ่งพื้นที่การให้บริการเป็น 6 โซน ดังนี้ โซน 1 วชิรพยาบาล โซน 2 โรงพยาบาลนพรัตน์ฯ และโรงพยาบาลเลิดสิน โซน 3 โรงพยาบาลกลาง โซน 4 โรงพยาบาลราชวิถี โซน 5 โรงพยาบาลศิริราช และโซน 6 โรงพยาบาลตากสิน

การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การทำความสะอาดเขื่อนและอาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยา การซ่อมแซมและติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง การประดับตกแต่งผ้าระบายและธงชาติ ธงอักษรพระปรมาภิไธย วปร. และธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การประดับไฟบริเวณสะพานพระราม 8 การระดับไฟและปรับปรุงทาสีตามสถานที่ต่างๆ การตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับตามสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จ และเส้นทางเสด็จฯ มีแนวคิดประดับตกแต่ง ได้แก่ “สายน้ำแห่งพระบารมี ราชสดุดีรวมใจไทย” บริเวณท่าราชวรดิฐ สะพานพระราม 8 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ลานมหาเจษฎาบดินทร์ กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” Big Cleaning เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 62 โดยปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตั้งแต่สะพานกรุงธนบุรี ถึงปากคลองบางกอกใหญ่ ระยะทาง 4,500 เมตร 

ทำความสะอาดพื้นที่ภายในสวนหลวง ร. 8 และพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งมีจิตอาสาทั้งจากกรุงเทพมหานคร และจิตอาสาหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพัฒนาพื้นที่บริเวณทั้งสองฝั่งริมแม่น้ำ เจ้าพระยา โดยใช้กำลังพลจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสองวันรวม 5,270 คน นอกจากนี้กรุงเทพมหานครกำหนดจัดกิจกรรมจิตอาสา Big Cleaning วันที่ 2 ต.ค. 62 ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ โดยการขัดล้างทำความสะอาดลาน ทางเท้า และเก็บขยะวัชพืช ตัดแต่งกิ่งไม้ ขัดล้างเขื่อนและทางเท้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากสวนสันติชัยปราการถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ระยะทาง 600 ม.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย