2 ต.ค.นี้ กทม.บิ๊กคลีนนิ่ง เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – 2 ต.ค.นี้ กทม.กำหนดบิ๊ก คลีนนิ่ง เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ 


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครครั้งที่ 18/2562 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมและวางแผน ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 เขตดินแดง


ในที่ประชุมฯ สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร ได้รายงานการดำเนินงานเตรียมความพร้อมงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค  เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ต.ค.2562 เวลา 15.30 น. 

โดยเส้นทางเสด็จฯ เริ่มจากท่าวาสุกรีสิ้นสุดที่ท่าราชวรดิฐ 


โดยกำหนดจัดเตรียมสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯสำหรับผู้มีตำแหน่ง  จำนวน  6 แห่ง ได้แก่ ท่าวาสุกรี  ท่าราชวรดิฐ  สวนสันติชัยปราการ สวนหลวงพระราม 8  ธนาคารแห่งประเทศไทย และศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย 

ส่วนสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ของประชาชนทั่วไปได้จัดเตรียมไว้ 2 เส้นทาง สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 36,150 คน ดังนี้ 1. เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแบ่งพื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ เป็น 4 ส่วน รองรับประชาชน จำนวน 25,150 คน ประกอบด้วย พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ บริเวณบ้านเรือนประชาชนและชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับประชาชนได้ประมาณ 360 คน ,  พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามสถานที่และหน่วยงานที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานกฤษฎีกา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อู่เรือธนาคารกรุงเทพ โรงพยาบาลศิริราชและกรมอู่ทหารเรือและ หอประชุม กองทัพเรือ รองรับข้าราชการและบุคลากรของหน่วยงาน ได้ประมาณ 4,000 คน พื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ของประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ (Walk-in) 

พื้นที่สาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครฯ เช่น สวนสันติชัยปราการ สวนนาคราภิรมย์ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใต้สะพานพระราม 8 เป็นต้น รองรับประชาชน จำนวน 15,600 คน และพื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามสถานที่ของภาคเอกชน เช่น บริษัท ห้างร้าน ร้านอาหาร โรงแรม เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีการจำหน่ายบัตรชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รองรับประชาชนได้จำนวน 5,180 คน 

2. เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จำนวน 11,000 คน เส้นทางเสด็จฯ จากพระที่นั่งอัมพรสถานไปยังท่าวาสุกรี และเส้นทางเสด็จฯ กลับจากท่าราชวรดิฐ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต

สำหรับการปรับปรุงพื้นที่ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจัดเป็นที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ โดยจัดสร้างพื้นยกระดับและอัฒจันทร์ จำนวน 6 แห่ง รองรับประชาชนได้ 10,700 คน ได้แก่ ใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) 4,000 คน สวนสันติชัยปราการ1,500 คน สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 1,000 คน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1,800 คน โรงพยาบาลศิริราช 100 คนและสวนนาคราภิรมย์  2,300 คน 

ทั้งนี้ มีการติดตั้งจอ LED พร้อมเครื่องขยายเสียง 18 จุด จำนวน 27 จอ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 1 จอ สวนสันติชัยปราการ 2 จอ สนามหลวง 4 จอ ลานจอดรถกองสลาก 1 จอ สวนนาคราภิรมย์ 2 จอ ใต้สะพานพระราม 8 2 จอ สวนหลวงพระราม 8 2 จอ สถานีรถไฟธนบุรี 1 จอ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 1 จอ วัดระฆังโฆสิตาราม 1 จอ วัดอมรินทรารามวรวิหาร 1 จอ วัดกัลยาณมิตร 3 จอ ทำเนียบรัฐบาล 1 จอ กระทรวงศึกษาธิการ 1 จอ วัดโสมนัส 1 จอ ร.ร.สตรีวิทยา 1 จอ   ลานคนเมือง 1 จอ และป้อมมหากาฬ 1 จอ ในส่วนของการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน จุดบริการอาหาร และจุดบริการน้ำดื่ม  โดยสำนักพระราชวัง (สมาคมภัตตาคารไทย และสหฟาร์ม) และกรุงเทพมหานคร 

สำหรับบริการประชาชน กำหนดจัดเตรียมไว้จำนวน 6 จุด ได้แก่ วัดสามพระยา โดยสมาคมภัตตาคารไทย สนามหลวง โดยสมาคมภัตตาคารไทย และสหฟารม์ สวนนาคราภิรมย์ โดยสมาคมภัตตาคารไทยและสหฟารม์ วัดอมรคีรี โดยกรุงเทพมหานคร วัดอมรินทรารามวรวิหาร โดยสมาคมภัตตาคารไทย และวัดกัลยาณมิตร โดยสมาคมภัตตาคารไทย 

การให้บริการอาหารพระราชทาน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือจุดโรงครัวพระราชทาน 6 แห่ง และจุดบริการอาหาร 22 แห่ง โดยกำหนดเวลาให้บริการ 3 มื้อ มื้อเช้า เวลา 08.00-10.00 น. มื้อกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น. และมื้อเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป กำหนดจุดบริการน้ำดื่ม ตามจุดรวมพลจุดเดินทางของประชาชน และตามสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ จำนวน 44 จุด การให้บริการรถสุขาเคลื่อนที่ ประกอบด้วย รถสุขา 50 คัน ตู้สุขา 25 ตู้ ห้องสุขาของหน่วยงาน  33 จุด การบริการทางการแพทย์ จุดบริการทางการแพทย์ประจำที่ 33 จุด ชุดแพทย์เคลื่อนที่ โซนละ 20 ชุด โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักร่วมกับกรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้หน่วยบริการทางการแพทย์ แบ่งพื้นที่การให้บริการเป็น 6 โซน ดังนี้ โซน 1 วชิรพยาบาล โซน 2 โรงพยาบาลนพรัตน์ฯ และโรงพยาบาลเลิดสิน โซน 3 โรงพยาบาลกลาง โซน 4 โรงพยาบาลราชวิถี โซน 5 โรงพยาบาลศิริราช และโซน 6 โรงพยาบาลตากสิน

การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การทำความสะอาดเขื่อนและอาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยา การซ่อมแซมและติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง การประดับตกแต่งผ้าระบายและธงชาติ ธงอักษรพระปรมาภิไธย วปร. และธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การประดับไฟบริเวณสะพานพระราม 8 การระดับไฟและปรับปรุงทาสีตามสถานที่ต่างๆ การตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับตามสถานที่เฝ้าฯ รับเสด็จ และเส้นทางเสด็จฯ มีแนวคิดประดับตกแต่ง ได้แก่ “สายน้ำแห่งพระบารมี ราชสดุดีรวมใจไทย” บริเวณท่าราชวรดิฐ สะพานพระราม 8 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ลานมหาเจษฎาบดินทร์ กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” Big Cleaning เส้นทางเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 62 โดยปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตั้งแต่สะพานกรุงธนบุรี ถึงปากคลองบางกอกใหญ่ ระยะทาง 4,500 เมตร 

ทำความสะอาดพื้นที่ภายในสวนหลวง ร. 8 และพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งมีจิตอาสาทั้งจากกรุงเทพมหานคร และจิตอาสาหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพัฒนาพื้นที่บริเวณทั้งสองฝั่งริมแม่น้ำ เจ้าพระยา โดยใช้กำลังพลจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสองวันรวม 5,270 คน นอกจากนี้กรุงเทพมหานครกำหนดจัดกิจกรรมจิตอาสา Big Cleaning วันที่ 2 ต.ค. 62 ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ โดยการขัดล้างทำความสะอาดลาน ทางเท้า และเก็บขยะวัชพืช ตัดแต่งกิ่งไม้ ขัดล้างเขื่อนและทางเท้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากสวนสันติชัยปราการถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ระยะทาง 600 ม.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]